เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สาธิต แฉ ผู้ว่าฯ ระยอง กับ ปตท. พยายามปกปิดข้อมูลเรื่องน้ำมันรั่ว ส่งผลให้สถานการณ์บานปลาย พร้อม แนะ ชาวประมงฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการท่องเที่ยวตอนนี้พังยับเยินแล้ว
วันนี้ (29 กรกฎาคม 2556) นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์คราบน้ำมันทะลักสู่ชายหาดเกาะเสม็ด หาดแม่รำพึง จ.ระยอง ว่า เรื่องนี้ตนพยายามประสานงานไปยัง ปตท. และผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้รีบแก้ไขปัญหา แต่พบว่า มีความพยายามจะปิดข้อมูล โดยระบุว่าสถานการณ์ได้รับการแก้ไขแล้ว อย่างไรก็ตาม เห็นได้เลยว่าเรื่องที่เกิดตอนนี้เป็นเพราะผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีการแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงที ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ตอนแรกเกิดขึ้นในวันที่ 26 กรกฎาคม มีเวลา 3 วันในการจัดการปัญหาทั้งหมด สุดท้ายสถานการณ์บานปลายขึ้นจนไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
นอกจากนี้ นายสาธิต ระบุอีกว่า การที่มีการอ้างว่า ประมาณการรั่วไหลของน้ำมันอยู่ที่ 70 ตัน (70,000 ลิตร) จะเท่ากับรถสิบล้อ 5-6 คัน ถ้าใช้สารเคมีเหมือนที่ทำอยู่น่าจะสลายคราบน้ำมันดิบได้นั้น ความจริงกลับกลายเป็นว่าคราบน้ำมันขยายเป็นวงกว้าง จนกระทบกับระบบนิเวศ ทำให้เกิดความสงสัยเรื่องความโปร่งใส ดังนั้น ปตท. ต้องให้ข้อมูลที่แท้จริงว่าน้ำมันรั่วไหลไปเท่าใด ต้องรีบหาแผนที่จะแก้ปัญหา ส่วนรัฐบาลก็มัวแต่ไปแก้ปัญหาทางการเมือง ละเลยปัญหาประชาชน ไม่ยอมมาแก้ปัญหานี้เสียที ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ถ้าเป็นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้นำประเทศจะลงมาสั่งการด้วยตัวเอง แต่ประเทศไทยตอนนี้ยังหารัฐมนตรีไปดูแลไม่ได้เลย เพราะว่า รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ อ้างว่า สถานการณ์สามารถควบคุมได้ด้วยปตท.
นายสาธิต กล่าวอีกว่า ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ ตนแนะนำให้สมาคมประมงพื้นบ้านและเครือข่ายภาคประชาชน เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ปตท. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้อหาพยายามปกปิดข้อมูล ซึ่งตนจะเป็นทนายความให้เอง ทั้งนี้ เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว คือ เหตุการณ์เหมืองคริตตี้ จ.กาญจนบุรี ที่ประชาชนฟ้องกรมควบคุมมลพิษข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งศาลก็ตัดสินว่าให้หน่วยงานรัฐชดเชยความเสียหายแก่ประชาชน ส่วนความเสียหายในด้านการท่องเที่ยว ก็ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอย่างต่ำ 6 เดือน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
