จ่อขึ้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ปี 56 รับมือค่าแรง-อะไหล่พุ่ง



จ่อขึ้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ปี 56 รับมือค่าแรง-อะไหล่พุ่ง
 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

         บริษัทประกันจ่อขึ้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ รับมือกับต้นทุนด้านค่าจ้างแรงงานและอะไหล่ที่สูงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนการซ่อมรถ โดยเฉพากลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กและอีโคคาร์

         วันนี้ (29 พฤศจิกายน) นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณต้นทุนสินไหมของประกันภัยรถยนต์เริ่มขยับขึ้นแล้วพอสมควร ทำให้อัตราสินไหม (ลอสเรโช) ขยับสูงขึ้นจึงเป็นแรงกดดันให้ธุรกิจน่าจะต้องปรับตัวด้วยการขึ้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ให้สอดคล้องกันไปด้วย โดยเมื่อดูข้อมูลการซ่อมในเฉลี่ยพบว่า มีความถี่ในการเกิดเหตุไม่สูงขึ้น แต่ความเสียหายรุนแรงขึ้น ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สภาพการแข่งขันที่ยังรุนแรงในตลาดประกันรถยนต์เวลานี้ ทำให้อาจเห็นการทยอยปรับขึ้นเบี้ยในต้นปีหน้าเป็นต้นไป

         ด้านนายจิรวุฒิ บุญศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย กล่าวว่า ในปีหน้าธุรกิจจะเผชิญกับปัจจัยต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะประกันรถยนต์แบบซ่อมห้าง ที่จะมีผลต่อต้นทุนการซ่อม ทั้งมาตรการค่าแรง 300 บาทต่อวัน และเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน ส่งผลให้อัตราต้นทุนสูงขึ้น และตามมาด้วยการปรับราคาเบี้ยให้เหมาะสม ซึ่งเป็นจังหวะที่ธุรกิจอาจต้องยอมลดการแข่งขันลง เพื่อให้ตลาดได้ปรับตัวตามให้สะท้อนกับความเป็นจริง

         ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยรายหนึ่ง กล่าวว่า ต้นทุนการซ่อมขยับสูงขึ้นเช่นกัน แม้จะไม่ได้กระทบจากมาตรการค่าแรง 300 บาทโดยตรง เพราะค่าแรงในอู่ซ่อมรถมักจะสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว แต่จะเจอผลกระทบทางอ้อมมากกว่าในแง่การทำให้อะไหล่รถยนต์ขยับสูงขึ้น จะกระทบให้ต้นทุนการซ่อมต้องเพิ่มขึ้นตามและจะเห็นการปรับเพิ่มเบี้ยตามมา เฉลี่ย 5-10 เปอร์เซ็นต์

         ทั้งนี้ ปกติแล้วต้นทุนค่าสินไหมจะเป็นเรื่องที่บริษัทประกันภัยติดตามกันตลอด และมักต้องทยอยปรับทุก ๆ 3-6 เดือน ซึ่งสัญญาณตอนนี้ก็ยังเห็นว่า กลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก เครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 ซีซี ยังเป็นกลุ่มที่อัตราความเสียหายสูง และต้องปรับเบี้ยอยู่ตลอด มักจะไม่ได้ยืนราคาเบี้ยอัตราเดิมตลอดทั้งปีอยู่แล้วและอีกกลุ่มที่น่าจะต้องจับตาดูเพิ่มขึ้น คือ อีโคคาร์ เพราะต้นทุนจะขยับขึ้นพอสมควร เมื่อเทียบกับค่าเบี้ยซึ่งค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว ก็อาจจะเห็นต้นทุนการซ่อมสูงขึ้น และยังเป็นกลุ่มรถที่ค่อนข้างใหม่ในตลาด ทำให้บริษัทประกันภัยไม่มีข้อมูลสถิติความเสียหายของรถกลุ่มนี้มาก่อน อาจจะคุมสินไหมได้ยาก

         นอกจากนี้ บริษัทประกันภัยรายใหญ่ ๆ ยังคงพยายามเร่งเพิ่มยอดขายในจังหวะที่ตลาดสามารถเติบโตได้สูงในปีนี้ เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดให้มากที่สุด โดยเฉพาะบริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 อย่างทิพยประกันภัย ประกาศจะแซงขึ้นอันดับ 1 ทำให้เจ้าตลาดอย่างวิริยะประกันภัย ก็ต้องเร่งทำตลาด เพื่อพยายามทิ้งห่างให้เพิ่มขึ้น
 
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จ่อขึ้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ปี 56 รับมือค่าแรง-อะไหล่พุ่ง อัปเดตล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา 14:30:20
TOP
x close