เปิดตัว watchOS 6, tvOS 13, macOS Catalina มีอะไรใหม่บ้างมาดู

watchOS 6


Cycle Tracking

          แอปฯ ติดตามประจำเดือนช่วยให้คุณผู้หญิงสามารถบันทึกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประจำเดือน ตลอดจนดูเวลามีประจำเดือนครั้งถัดไปและช่วงเวลาไข่ตกที่คาดการณ์ไว้ได้อย่างสะดวกโดยใช้ Apple Watch มีฟังก์ชั่นบันทึกข้อมูลรายวันที่ช่วยให้จดข้อมูลเกี่ยวกับประจำเดือนได้อย่างรวดเร็ว เช่น ประจำเดือนรอบปัจจุบัน ปริมาณ อาการ ผลลัพธ์จากชุดคาดการณ์เวลาไข่ตก และข้อมูลอื่น ๆ ในการติดตามภาวะเจริญพันธุ์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้ในแอปฯ Health บน iPhone ที่ใช้ iOS 13 ด้วย


Noise

          แอปฯ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงระดับเสียงในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการได้ยิน เช่น คอนเสิร์ตและเกมกีฬา ได้อย่างสะดวกจาก Apple Watch บนข้อมือ เมื่อระดับเสียงเปลี่ยนไป มิเตอร์วัดระดับเดซิเบลของแอปฯ ก็จะขยับตามแบบเรียลไทม์ Apple Watch จะส่งการแจ้งเตือนถ้าระดับเสียงสูงถึง 90 เดซิเบล ซึ่งจะเริ่มส่งผลกระทบต่อการได้ยินหากฟังเสียงระดับนี้นานเกิน 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด


Activity Trends

          แท็บใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้เห็นพฤติกรรมระยะยาวในการทำกิจกรรมและทราบถึงความคืบหน้าของตัวเอง แท็บนี้จะแสดงให้เห็นภาพรวมว่าค่าการวัดที่สำคัญ ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร เช่น แคลอรี่ขณะเคลื่อนไหว ระยะเวลาออกกำลังกายเป็นนาที ก้าวเดิน และอื่น ๆ ถ้าการทำกิจกรรมในช่วง 90 วันล่าสุดแสดงแนวโน้มที่ลดลงเทียบกับ 365 วันที่ผ่านมา แอปฯ กิจกรรมจะแสดงคำแนะนำเพื่อช่วยให้ผู้ใช้กลับมาอยู่ในเส้นทางตามเป้าหมาย


App Store

          เป็นครั้งแรกที่ watchOS 6 ให้ผู้ใช้เข้าถึง App Store บน Apple Watch ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอปฯ จากบริษัทอื่น ค้นหาแอปฯ โดยใช้ Siri การป้อนตามคำบอก หรือวิธีเขียนด้วยนิ้ว และดูหน้าผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับหน้าจอ Apple Watch ได้ทันทีบนข้อมือ นักพัฒนาสามารถสร้างแอปฯ สำหรับ Apple Watch โดยเฉพาะ ซึ่งสร้างมาให้ทำงานได้อย่างอิสระบน Apple Watch โดยไม่ต้องมีแอปฯ iOS


ฟีเจอร์อื่น ๆ ของ watchOS 6

          - หน้าปัดนาฬิกาแบบไดนามิกใหม่และตัวเลือกการปรับแต่งที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน
          - มีเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา เช่น API ต่าง ๆ
          - Audio Books ที่ซื้อบน Apple Books ตอนนี้ใช้ฟังบน Apple Watch ได้แล้วโดยตรง
          - แอปฯ เครื่องคิดเลขใหม่ช่วยคำนวณทิปและการแยกบิลได้ทันทีจากข้อมือ
          - การค้นหาของ Siri สามารถแสดงผลลัพธ์หน้าเว็บได้เต็มรูปแบบบน Apple Watch
          - Apple GymKit ช่วยให้ Apple Watch เชื่อมต่อกับเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนสทั่วโลกได้มากขึ้น


tvOS 13

หน้าจอโฮมใหม่

          หน้าจอโฮมใหม่ของ Apple TV 4K ที่ออกแบบมาสำหรับการค้นหาความต้องการ สามารถเล่นการแสดงตัวอย่างวิดีโอแบบเต็มหน้าจอบนหน้าจอโฮมได้แล้ว

รองรับผู้ใช้หลายราย

          Control Center ของ Apple TV แบบใหม่จะช่วยให้สามารถสลับระหว่างสมาชิกครอบครัวได้ง่าย เพื่อให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ความบันเทิงในแบบที่ปรับมาให้เหมาะกับแต่ละคน ผู้ใช้จะเห็นรายการถัดไปในแบบของตนเองโดยเฉพาะ และรับคำแนะนำรายการทีวีและภาพยนตร์ตามความชอบส่วนตัว นอกจากนี้ยังให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Apple TV ได้อย่างรวดเร็ว

Apple Music

          Apple Music บน tvOS 13 ใช้ประโยชน์จากการรองรับหลายผู้ใช้ ทุกคนจึงสามารถเล่นเพลย์ลิสต์และรับคำแนะนำที่ปรับแต่งมาสำหรับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะได้ง่าย ๆ โดย Control Center แบบใหม่จะสามารถเข้าถึงเพลงที่กำลังเล่นอยู่ได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถดูตามเนื้อเพลงที่แสดงบนหน้าจอไปพร้อมกับการเล่นเพลงโปรดได้ด้วย
Apple Arcade

          ภายในปีนี้ Apple Arcade จะพร้อมให้บริการใน Apple TV 4K ด้วยการสมัครสมาชิกเพียงรายการเดียว สมาชิก 6 คนจะมีสิทธิ์เข้าเล่นเกมใหม่และเกมเอ็กซ์คลูซีฟมากกว่า 100 เกมได้ไม่จำกัด โดยไม่มีโฆษณาและไม่ต้องซื้อเพิ่มเติม สามารถเล่นเกม Apple Arcade ทั้งบน iPhone, iPad, iPod touch, Mac และ Apple TV ได้ รวมทั้งรองรับการใช้จอย Xbox One และ PlayStation 4 ในการเล่นเกม Apple Arcade อีกด้วย

Screensaver ใหม่

          Screensaver 4K HDR บน Apple TV 4K บรรยากาศใต้ท้องทะเล ด้วยความร่วมมือกับ BBC Natural History Unit ที่เป็นทีมเบื้องหลัง “Blue Planet” วิดีโออันเต็มอิ่มสมจริงที่ถ่ายทำจากท้องทะเลลึกทั่วโลกเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงสัตว์โลกและฉากที่สวยงามสะกดสายตา

          tvOS 13 จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้โดยเป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ Apple TV 4K และ Apple TV HD

macOS Catalina
Music, TV และ Podcasts

          iTunes ได้ถูกแยกเป็น 3 แอปฯ ได้แก่ Music, Apple TV และ Apple Podcasts ซึ่งแต่ละแอปฯ ได้ถูกดีไซน์มาเป็นอย่างดีเพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับความบันเทิงบน Mac และแน่นอนว่าคอนเทนต์ทุกอย่างที่คุณเคยมีบน iTunes จะยังคงอยู่ในแต่ละแอปฯ ส่วน iCloud ก็จะ Sync ทุกอย่างจากแต่ละอุปกรณ์ นอกจากนี้ก้ยังสามารถ Back up, Restore และ Sync ข้อมูลต่าง ๆ ได้ด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับ Mac


แอปฯ จาก iPad

          ผู้พัฒนาจะสามารถนำแอปฯ บน iPad มาพัฒนาให้ใช้งานบน Mac ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้แอปฯ ที่คุณชื่นชอบบน iPad จะมีให้ใช้งานได้บน Mac เช่นกัน รวมทั้งรองรับการทำงานร่วมกับแอปฯ อื่น ๆ บน Mac ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งแอปฯ ของ Mac อีกมากมายไม่ว่าเป็นแอปฯ ด้านการท่องเที่ยว, บันเทิง, เกม, ธุรกรรมการเงิน, การศึกษา และการจัดการโปรเจกต์ต่าง ๆ


แอปฯ ต่าง ๆ ที่ดีกว่าเดิม

          แอปฯ บน Mac ที่หลายคนชอบใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Photos, Notes, Reminders, Safari และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น ทำงานได้รวดเร็วขึ้น


Sidecar

          ฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้สามารถนำ iPad มาใช้เป็นหน้าจอที่สองของ Mac ได้ ทำให้สามารถทำงานได้ถนัดและสะดวกมากกว่าเดิม เลือกได้ทั้งให้สองหน้าจอแสดงภาพต่างกัน หรือจะให้แสดงภาพเหมือนกันทั้งสองจอก็ยังได้ นอกจากนี้ก็ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil อีกด้วย


Screen Time

          ตัวช่วยที่จะคอยบอกคุณว่าได้ใช้เวลากับการใช้งานอุปกรณ์มานานเท่าไรแล้ว สามารถตั้งจำกัดเวลาการใช้งานแอปฯ และเว็บไซตฺ์บนทุกอุปกรณ์ได้ เพื่อไม่ใช้งานหนักมากเกินไป และด้วยฟีเจอร์ Family Sharing ก็ทำให้สามารถตั้งค่าจำกัดการใช้งานของบุตรหลายได้อีกด้วย


ระบบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

          macOS Catalina ได้มีการปรับปรุงระบบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าแอปฯ ที่ใช้งานอยู่นั้นปลอดภัย สามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ รวมทั้งสามารถตามหา Mac ที่ทำหายได้ง่ายขึ้น


Find My

          แอปฯ ใหม่ที่เกิดจากการรวม Find My iPhone และ Find My Friends เข้าด้วยกัน มีให้ใช้งานทั้งบน Mac, iPadOS และ iOS สามารถใช้ตามหาเครื่อง Mac ได้แม้ว่าจะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือปิดเครื่องอยู่ก็ตาม ด้วยการปล่อยสัญยาณ Bluetooth เพื่อให้อุปกรณ์ iOS ของคนอื่น ๆ ที่อยู่แถวนั้นจับสัญญาณได้แล้วส่งพิกัดไปยัง iCloud ให้คุณทราบผ่านแอปฯ Find My


Voice Control

          ฟีเจอร์ควบคุมด้วยเสียงสำหรับอุปกรณ์ Mac, iPadOS และ iOS เพื่อให้ผู้พิการสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้สะดวกขึ้น เพียงแค่ใช้เสียงพูดเท่านั้น รวมทั้งฟีเจอร์อื่น ๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสายตา

          macOS Catalina จะรองรับ MacBook 2015 ขึ้นไป, MacBook Air 2012 ขึ้นไป, MacBook Pro 2012 ขึ้นไป, Mac mini 2012 ขึ้นไป, iMac 2012 ขึ้นไป, iMac Pro 2017 ขึ้นไป และ Mac Pro 2013 ขึ้นไป

ภาพและข้อมูลจาก apple.com (1), (2), (3)