ขอขอบคุณภาพประกอบจาก petapixel เเละ cs2033
ถึงแม้ว่ายุคนี้จะเป็นยุคดิจิตอล ที่อะไร ๆ ก็กลายเป็นไฟล์ข้อมูลโหลดง่ายเก็บง่ายกันไปหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่กับกล้องถ่ายรูป ที่เปลี่ยนจากยุคกล้องฟิล์มเป็นกล้องดิจิตอลแถมยังมีกล้องมือถือที่ถ่ายภาพได้คมชัดไม่แพ้กัน ถ่ายแล้วไม่ถูกใจรูปไหนก็ลบถ่ายใหม่ได้ง่าย แถมยังแต่งรูปได้ตามต้องการอีกต่างหาก ถูกใจคนในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ถ่ายแชะก็กดแชร์ได้ในเวลาไม่ถึงนาที ทั้งง่ายทั้งสะดวกแบบนี้ก็เลยได้รับความนิยมล้นหลาม จนกล้องฟิล์มพากันล้มหายตายไปเรื่อย ๆ แต่สำหรับใครที่ยังคงมีความเป็นอนุรักษ์นิยมนิด ๆ บวกชอบความคลาสสิกอีกหน่อย ๆ ยังไงก็ยังยกให้กล้องฟิล์มก็ยังเป็นกล้องถ่ายรูปลูกรักอยู่ดี แบบนี้ก็ต้องทะนุถนอมกันเป็นพิเศษหน่อยแล้วล่ะ
สำหรับนักถ่ายรูปผู้หลงใหลเสน่ห์รูปถ่ายที่ได้จากกล้องฟิล์ม อย่าเอาแต่ใช้งานมันอย่างเดียวนะ มาทำความสะอาดกล้องตัวเก่งของคุณให้พร้อมใช้อยู่ในสภาพดีเสมอกันดีกว่า เอาล่ะ มาลงมือกันเลย
- ปากคีบหัวเรียวเล็ก ด้านปลายคีบจะมนหรือแหลมก็ได้
- ไม้จิ้มฟัน
- ลูกยางเป่าลม
- สำลี
- ยางลบ
- น้ำมันไฟแช็กหรือแอลกอฮอล์ล้างแผลชนิด Isopropyl
- ยางลบ
- ไขควงเล็ก
- แว่นขยาย
ขั้นตอนที่ 1เช็ดส่วนบอดี้ หรือพื้นผิวด้านนอกของกล้องด้วยผ้าเนื้อนุ่มชุดน้ำบิดให้หมาดที่สุด เสร็จแล้ววางทิ้งไว้จนแห้ง จากนั้นจึงใช้ลูกยางเป่าลมเป่าเอาฝุ่นผงที่เกาะอยู่ออกไป
ขั้นตอนที่ 2ถอดเลนส์เสริม รวมทั้งอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ของกล้องที่สามารถถอดแยกได้ออกมา
ขั้นตอนที่ 3 เปิดฝากล้องออก แยกฝากล้องออกจากบอดี้อย่างระมัดระวังหงายหน้ากล้องขึ้น แล้วใช้ลูกยางเป่าลมเป่าเอาฝุ่นผงออกจากส่วนกล่องฟิล์ม (film chamber) และตามซอกมุมต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด
ขั้นตอนที่ 4 ฉีกสำลีออกเป็นแผ่นบาง ๆ พันกับปลายไม่จิ้มฟัน โดยพันให้หัวสำลีมีลักษณะเรียวรี จากนั้นนำไปชุบกับน้ำมันไฟแช็กหรือแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดเลนส์ ระวังไม่ชุบจนชุ่มเกินไป
ใช้ไม้จิ้มฟันที่พันสำลีนั้นค่อย ๆ เช็ดถูรอยด่างหรือรอยเปื้อนต่าง ๆ บนพื้นผิวตัวกล้อง รวมทั้งตามซอกหลืบเล็ก ๆ ต่าง ๆ ออก เมื่อเช็ดแล้วรอยด่างจะหายไป รวมทั้งคราบน้ำยาก็จะต้องระเหยไปโดยไม่ทิ้งคราบไว้ด้วย แต่หากพบว่ามีคราบเหลืออยู่ ให้เปลี่ยนสำลีแล้วเช็ดใหม่อีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 5สำหรับร่องตามซอกหลืบที่เช็ดไม่ออกด้วยสำลีชุบน้ำยา เช่น รอยหยักเหมือนฟันเฟืองของปุ่มปรับแสง ขอบเกลียวต่าง ๆ ให้ใช้ยางลบถูออก (เหลาปลายให้แหลม) คราบจะหลุดออกไปได้ แต่อาจมีขี้ยางลบทิ้งไว้ ให้ใช้แปรงขนนุ่มปัดออก
ขั้นตอนที่ 6เมื่อทำความสะอาดด้านนอกของกล้องเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ให้ทำความสะอาดที่ด้านในตัวกล้องในส่วนเลนส์กันบ้าง โดยกล้อง SLRs มักจะมีส่วนของกระจกฝ้า (ground glass) ซึ่งอยู่ด้านหลังช่วงต่อของเลนส์ (lens mouth) และเป็นส่วนที่สะสมฝุ่นได้ง่าย ให้ใช้ที่คีบค่อย ๆ แซะกระจกฝ้าออกมา และเช็ดทำความสะอาดโดยใช้สำลีชุบน้ำยาเช็ดไปทางเดียวกัน จากนั้นวางทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเบา ๆ หรือลูกยางเป่าลมเป่าเอาละอองเล็ก ๆ ที่อาจตกค้างอยู่ออกอีกที หากกล้องของคุณมีส่วนของ prism ที่สามารถถอดออกได้ (อาจต้องใช้ไขควงเล็กช่วย) ก็ให้ถอดออกมาทำความสะอาดด้วยวิธีเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 7ทำความสะอาดกระจกเลนส์และช่องมองภาพ (viewfinder) ด้วยสำลีพันปลายไม้ชุบน้ำมันไฟแช็กหรือแอลกอฮอล์ วางทิ้งไว้จนแห้งสนิท แล้วใช้ลูกยางเป่าลมเป่าฝุ่นละอองเล็ก ๆ ออกอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 8ท้ายที่สุดทำความสะอาดรังถ่านด้วยการใช้ลูกยางเป่าฝุ่นออก หากต้องการเช็ดด้วยน้ำยาด้วยก็สามารถทำได้ แต่หลังเช็ดแล้วต้องรอให้แห้งสนิทจริง ๆ จึงจะใส่แบตเตอรี่หรือถ่านกลับเข้าไปได้
การทำความสะอาดกล้องฟิล์มด้วยตัวคุณเองก็มีขั้นตอนเพียงเท่านี้เองครับ ไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหม เพียงอาจต้องใช้ความพิถีพิถันสักหน่อยเท่านั้น หลังจากนี้ไปเมื่อหยิบกล้องตัวเก่งมาใช้แล้วก็หมั่นนำมาเช็ดให้เรียบร้อยก่อนเก็บทุกครั้ง เพื่อป้องกันรอยด่างขาว ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อกล้องสัมผัสกับเหงื่อของคุณ ก่อนเก็บให้ปรับชัตเตอร์ไปที่โหมด B (shutter Bulb) แล้วกดทิ้ง ถอดถ่านหรือแบตเตอรี่ออกก่อนทุกครั้ง แยกกระบอกเลนส์เก็บไว้ต่างหาก และเก็บทั้งเลนส์และกล้องไว้ในที่แห้งไม่อับชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรานั่นเองครับ เท่านี้คุณก็จะมีกล้องฟิล์มสภาพดีเก็บไว้ใช้ถ่ายรูปได้อีกนานเลยล่ะ
