สำหรับคุณผู้ชายหลายคน ปัญหาหัวล้านหรือผมบาง อาจเป็นเรื่องน่ากลัวอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เวลาทรงไหนอินเทรนด์อยากทำบ้างก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบคนอื่นเขา แถมบางคนยังชอบมองด้วยสายตาแปลก ๆ ให้เราเสียความมั่นใจซะอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่หัวล้านแล้วมาพร้อมกลิ่นน้ำมันบนหนังศีรษะเลย ซึ่งหลาย ๆ คนอาจข้องใจว่าทั้งที่ดูแลตัวเองแทบตายแล้วยังหัวล้านอีก ในขณะที่บางคนไม่ต้องทำอะไรเลย กลับมีผมดกดำจนน่าหมั่นไส้เสียจริง ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมได้เอาคำตอบที่หนุ่ม ๆ อยากรู้มาแล้ว ลองมาดูกันสิว่าสาเหตุของอาการหัวล้านมาจากอะไรบ้าง
1. รัดผมแน่นเกิน
ถ้าอยากจะมีผมดกหนาไปนาน ๆ ก็ลืมเรื่องการทำทรงผมที่ต้องมัดผมแน่น ๆ จำพวกถักเปียติดหนังหัวหรือเดรดล็อกไปได้เลย เพราะการดึงผมแน่นขนาดนี้ จะนำไปสู่ปัญหาผมร่วงตามมา จากการที่มันจะไปดึงรากผมให้ตึงแน่นและหลุดร่วงออกไป จนในที่สุดก็หัวล้าน ดังนั้นตัดใจจากผมทรงนี้ซะ
2. โรคถอนผมตัวเอง
ถ้าคุณเป็นคนประเภทที่ชอบดึงทึ้งผมของตัวเองจนแหว่งผิดปกติ สงสัยไว้เลยว่าคุณอาจเป็นโรคถอนผมตัวเอง (Trichotillomania) เข้าให้แล้ว โดยส่วนมากคนที่มีอาการแบบนี้มักถอนขนในขณะทำกิจกรรมบางอย่างเพลิน ๆ เช่น นั่งอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ จนผมหายเป็นหย่อม ๆ ไปจนถึงผมร่วงเกือบหมดหัวเลยทีเดียว ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าสาเหตุของโรคเกิดจากอะไรกันแน่ และวิธีแก้ที่ได้ผลมากที่สุดน่าจะเป็นการควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง รวมทั้งหาหมวกคลุมผมมาใส่ป้องกันเอาไว้
3. ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย
ต่อมไทรอยด์ซึ่งอยู่บริเวณลำคอใต้กล่องเสียงนั้น เป็นส่วนสำคัญในการควบคุมเมตาบอลิซึมในร่างกาย รวมทั้งเป็นแหล่งสร้างฮอร์โมนหลาย ๆ อย่างด้วย หากมันทำงานไม่เต็มที่ ก็จะทำให้คุณเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) ได้ ซึ่งมันไม่ได้มีผลแค่กับเส้นผมบนหนังศีรษะของคุณเท่านั้น แต่มีผลกระทบกับเส้นขนทุกส่วนในร่างกายเลยทีเดียว โดยสาเหตุของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยอาจมีผลจากการเป็นโรคที่ติดตัวมาแต่เกิดหรือเคยผ่าตัดต่อมไทรอยด์มาก่อนก็ได้
4. โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง
หากคุณเป็นโรคอ้วนหรือข้ออักเสบ ตอนนี้คุณก็อยู่ในกลุ่มที่มีอาการโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองด้วยแล้วล่ะ ซึ่งอาการของโรคนี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อชั้นดีไปด้วย รวมไปถึงรูขุมขนบริเวณเส้นผมเช่นกัน ส่งผลให้ผมร่วงจนน่าใจหาย และหากหนักเข้าอาจทำให้กลายเป็นคนหัวล้านถาวรได้เลยทีเดียว
5. เกิดอาการติดเชื้อ
แม้ว่าจะมีการติดเชื้อมากมายหลายรูปแบบในโลก ที่สามารถนำมาซึ่งอาการผมร่วงได้ แต่สาเหตุการติดเชื้อที่ทำให้ผมร่วงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดก็น่าจะเป็นโรคผิวหนังนั่นเอง โดยการติดเชื้อนั้นมีที่มาจากเชื้อราที่เป็นปรสิตบนตัวมนุษย์เรานั่นเอง ดังนั้นการรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันและขจัดเชื้อราเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และแม้คนที่มีโอกาสเป็นส่วนใหญ่มักเป็นเด็ก แต่ความจริงก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยเช่นกัน
6. ผลกระทบจากเคมีบำบัด
วิธีที่ทำการใช้เคมีบำบัด (หรือคีโม) ช่วยต่อสู้กับมะเร็งนั้น สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ แต่มันแย่ตรงที่มันไม่ได้แค่หยุดยั้งการเจริบเติบโตของเซลล์มะเร็งเท่านั้น ทว่ายังรวมไปถึงเซลล์อื่น ๆ เช่นเซลล์ผิวบริเวณหนังศีรษะด้วยนี่สิ ทำให้ผู้ป่วยผมร่วงเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลกระทบนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของตัวยา แต่ส่วนใหญ่แล้วหากเลิกใช้เมื่อไหร่ ผมก็จะกลับมางอกยาวได้เอง
7. ยาชนิดต่าง ๆ
นอกจากเคมีบำบัดจะมีชื่อเรื่องเป็นตัวการทำหัวล้านแล้ว ยาชนิดอื่น ๆ ที่เราได้รับการรักษาจากแพทย์โดยตรง ก็อาจเป็นต้นเหตุของอาการหัวล้านได้เหมือนกัน เช่น พวกยาเกี่ยวกับฮอร์โมน, ยารักษาโรคไทรอยด์ และยาต้านหรือป้องกันอาการชัก ซึ่งก่อให้เกิดโรคผมร่วงฉับพลันเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักงอกขึ้นมาใหม่ได้เองหลังหยุดใช้ยา
8. ขาดสารอาหาร
สำหรับคนที่ไดเอตเกินพิกัด จนเลือกใช้วิธีผิด ๆ อย่างการอดอาหาร รู้ไว้เถอะว่าคุณไม่ได้เพียงแค่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียจนทำงานได้ไม่เต็มที่เท่านั้น แต่ยังทำให้เส้นผมอันมีค่าร่อยหรอไปโดยไม่รู้ตัวอีกต่างหาก จากการที่ขาดธาตุเหล็กจนทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงออกมาไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์ผิวขาดแคลนออกซิเจนหล่อเลี้ยง รวมทั้งมีวิตามินบี และโปรตีนไม่พอไปบำรุงเส้นผมด้วย
9. ความเครียดตัวร้าย
ชื่อเถอะว่าความเครียดไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักนิด มีแต่จะทำให้มองไม่เห็นปัญหาอย่างแท้จริง จนไม่มีสติคิดถึงทางแก้ แถมยังทำให้ความสมดุลของฮอร์โมนและเมตาบอลิซึมในร่างกายปั่นป่วนอีกต่างหาก จนมีผมร่วงตามมาด้วยให้ยิ่งกลุ้มเข้าไปใหญ่ ทางที่ดีใจเย็น ๆ ค่อย ๆ แก้ไปทีละนิดดีกว่านะ เชื่อเถอะว่าทุกปัญหามีทางแก้เสมอ
10. ต้นเหตุจากกรรมพันธุ์
และแล้วก็มาถึงสาเหตุสุดท้ายที่ทำให้ผู้ชายอย่างเราปวดใจสุด ๆ เพราะไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งก็คือหัวล้านจากกรรมพันธุ์นั่นเอง และแม้สมัยนี้จะมีผลิตภัณฑ์ปลูกผม หรือพวกยาที่ใช้รักษามากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถช่วยแก้ไขได้ 100% เสียทีเดียว แถมยังเห็นผลช้าและไม่ยาวนานถาวรอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นถ้ามีผมบางจากสาเหตุนี้แต่แรก ก็ทำใจเอาไว้บ้างแล้วกันนะครับ
ทั้งนี้ หัวล้านอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ หากคุณมีความมั่นใจในตัวเองซะอย่าง แล้วลองปรับมุมมองเสียใหม่ มีความสุขกับสิ่งที่คุณเป็นอยู่ ลองดูอย่างดาราดังแบบ บรูซ วิลลิส สิครับ ถึงหัวล้านแต่ความสามารถก็ทำให้เขาดูดีไม่น้อยจริงไหมล่ะ?
