อยากกินพิซซ่า ไม่ต้องโทรสั่ง ไปหยอดเหรียญเองได้เลย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ a1conceptsletspizza  สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, letspizza.it

           หากจะพูดถึงอาหารอิตาเลี่ยนขึ้นมาสักเมนู คุณผู้อ่านนึกถึงอะไรเป็นอันดับแรกครับ เชื่อได้เลยว่า 1 ในเมนูอาหารอิตาเลี่ยนอันดับต้น ๆ ที่จะนึกกันก็คือ "พิซซ่า" (Pizza) แน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้น ในบ้านเราการจะทานพิซซ่ากันทั้งที ก็ต้องโทรสั่งหรือไม่ก็ไปทานกันที่ร้านใช่ไหมครับ แต่ต่อจากนี้ไป การทานพิซซ่าจะง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะเพียงแค่หยอดเหรียญ ก็จะได้พิซซ่า 1 ถาดไปทานกันแล้ว

           ครับ! คุณผู้อ่านอ่านไม่ผิดแน่นอน เพราะสิ่งที่เรานำมาเสนอนี้คือเครื่องทำพิซซ่าแบบหยอดเหรียญครับ โดยเครื่องทำพิซซ่านี้ เป็นผลงานของแบรนด์พิซซ่าจากอิตาลีอย่าง "Let\'s Pizza" โดยหลักการทำงานของเจ้าเครื่องนี้ ก็เพียงแค่คุณหยอดเหรียญหรือใส่ธนบัตรเข้าเครื่องไป จากนั้นก็กดเลือกไปทีละขั้นตอน ไล่ไปตั้งแต่อยากได้แป้งพิซซ่าแบบไหน รสชาติหรือท็อปปิ้งยังไง ก็สุดแล้วแต่จะเลือกทาน

           ต่อจากนั้น เจ้าเครื่องนี้ก็จะเริ่มทำพิซซ่าให้กับคุณ ตั้งแต่ตีแป้งผสมกับน้ำ เตรียมท็อปปิ้งที่คุณเลือกไว้ นำเข้าไปอบ และสุดท้าย ก็พร้อมเสิร์ฟ โดยกระบวนการทำทั้งหมดทุกขั้นตอน จะใช้เวลารวมกันแล้วไม่ถึง 3 นาทีเท่านั้น คุณก็จะได้พิซซ่ามาทานสมใจอยากแล้ว

           คุณโรนัลด์ แรมเมอร์ส ซีอีโอของ A1 ผู้ผลิตเครื่องทำพิซซ่าแบบหยอดเหรียญนี้ ได้อธิบายไว้ว่า เจ้าเครื่องนี้จะมีระบบการคุมที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ร้านพิซซ่าได้รู้ว่า ปริมาณเครื่องปรุงและส่วนผสมต่าง ๆ ในเครื่องนั้นมีเพียงพอหรือไม่ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว เครื่องนี้จะทำพิซซ่าออกมาให้ทานกันได้ถึง 200 ถาดเลยทีเดียว

           "เครื่องทำพิซซ่าแบบหยอดเหรียญนี้ จะผลิตพิซซ่าเพียงไซส์เดียวคือขนาดประมาณ 27 เซนติเมตร (ถาดเล็กของบ้านเรา) โดยสนนราคาอยู่ที่ถาดละ 5.95 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 180 บาท) โดยเครื่องนี้จะมีติดตั้งอยู่ตามสถานที่สาธารณะทั่วไป ทั้ง ห้างสรรพสินค้า สนามบิน โรงแรม ซูเปอร์มาเก็ต มหาวิทยาลัย และตามปั๊มน้ำมัน" คุณแรมเมอร์ส กล่าวเสริม

           ถือเป็นไอเดียดี ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะใช้เวลาในการรอไม่นานเลย แถมยังสามารถเลือกหน้าพิซซ่าตามต้องการได้ด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครนำเข้ามาในประเทศไทยเราบ้างหรือไม่ เพราะเชื่อว่าถ้ามีการนำเข้ามาจริง ๆ คงจะเป็นที่สนใจกันไม่น้อย