7 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผู้ชายมีความต้องการทางเพศน้อยลง

          1. กินยาติดต่อกันนาน ๆ

          ยาสามัญประจำบ้านทั่วไป เช่น ยาแก้ปวด แก้อักเสบ ยาลดน้ำมูก แก้คัดจมูก ยากล่อมประสาทและยาคลายเครียด ที่เราใช้กินเป็นประจำ ดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่ความจริงแล้วยาเหล่านี้มีสารเคมีบางอย่าง รวมไปถึงมีผลกระทบต่อประสาทหรือสมองส่วนกลางและฮอร์โมน ทำให้คนที่กินติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จะมีความต้องการทางเพศลดลงหรือมีการตอบสนองทางเพศที่ผิดปกติได้ ส่วนใครที่ไม่ได้กินติดต่อกันบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องตื่นตระหนกไป เพราะยานั้นอาจเป็นยาที่จำเป็นต่อการรักษาโรคของคุณ หากขาดยาอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนั้นควรกินแต่พอดีและขอคำปรึกษาจากแพทย์เป็นประจำ
 

          2. ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน

          แม้ว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน จะช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น แต่ในทางกลับกันหากหนุ่ม ๆ ได้รับสองสิ่งนี้ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ก็อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศแย่ลงได้เช่นกัน เพราะการที่ร่างกายได้รับแอลกอฮอล์และคาเฟอีนที่มากเกินไป จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลกัน เกิดอาการนอนไม่หลับ กระวนกระวาย ประสาทหลอน ซึ่งเป็นปัจจัยทางจิตเวชที่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศทั้งสิ้น ทางที่ดีควรควบคุมปริมาณให้พอดีและอย่ากินติดต่อกันมากจนเกินไป
 
          3. เสพสื่อลามกและช่วยตัวเองบ่อย

          การที่หนุ่ม ๆ เสพสื่อลามกหรือช่วยตัวเอง จะทำให้ร่างกายหลั่งสาร โดพามีน (Dopamine) สารสื่อประสาทในสมองที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายรวมไปถึงอารมณ์ทางเพศด้วย ซึ่งหากคุณทำพฤติกรรมเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะทำให้คุณเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกมากขึ้น และอาจส่งผลให้ตอนลงสมรภูมิจริงเกิดอาการเรือล่มปากอ่าวได้  ฉะนั้นพยายามลดเรื่องพวกนี้ลงตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า เพราะถ้าคุณกลายเป็นหมูสนามจริงจนกู่ไม่กลับแล้ว อาจทำให้กลัวการมีเซ็กส์ตลอดไปเลยก็ได้
 
          4. ออกกำลังกายมากเกินไปหรือน้อยเกินไป

          ทุกคนทราบดีว่า การออกกำลังกายน้อยเกินไป ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเซ็กส์เสื่อมได้ แล้วหนุ่ม ๆ ทราบไหมว่าการออกกำลังกายมากไป ก็ทำให้สมรรถภาพทางเพศแย่ลงได้เหมือนกัน เพราะเมื่อคุณออกกำลังกายอย่างหนัก จะส่งผลให้เกิดความตึงเครียดสะสมภายในกล้ามเนื้อ แล้วพอสะสมไปมาก ๆ ก็จะทำให้คุณเกิดความเครียดจนหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน เสียสุขภาพจิต ร่างกายอ่อนล้าตลอดทั้งวัน ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีผลทำให้ความต้องการทางเพศลดลงทั้งสิ้น ถ้าไม่อยากเป็นเช่นนั้นก็ต้องหมั่นออกกำลังกายแต่พอดี
 

          5. ติดดื่มน้ำอัดลม

          อย่างที่ทราบกันดีว่าในน้ำอัดลมต่าง ๆ จะมีน้ำตาลสูงมาก หากดื่มติดต่อกันทุกวันก็อาจส่งผลให้เป็นโรคเบาหวานและภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ ซึ่งการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะไปทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการตีบตัน ทำให้อวัยวะเพศและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ทำงานบกพร่อง และมีความต้องการทางเพศน้อยลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหันไปกินน้ำอัดลมแบบไร้น้ำตาลแทนได้ แม้ว่ามันจะไม่มีน้ำตาลตามที่ระบุจริง ๆ แต่ก็ใช้สารหวานเทียมแทน ซึ่งสารนี้ก็มีส่วนทำให้ฮอร์โมนแห่งความสงบ (Serotonin) ทำงานบกพร่อง ส่งผลให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด เครียด นอนไม่หลับ เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า และมีผลต่อความต้องการทางเพศด้วยเช่นกัน
 
          6. ต้องเลิกอาหารทอด อาหารแปรรูปและชีส

          เนื่องจากอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัว ที่หากสะสมมาก ๆ จะทำให้เกิดโรคเส้นเลือดอุดตัน โรคอ้วน ฮอร์โมนเพศชายในร่างกายลดลง อสุจิไม่แข็งแรง ซึ่งอาจนำไปสู่ความหย่อนยานของสมรรถภาพทางเพศได้ ถ้าไม่อยากเสี่ยงก็หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านการแปรรูปที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเหล่านี้ซะ
 
          7. คู่รักมีความต้องการที่ไม่เท่ากัน

          หากคุณเกิดมีความต้องการทางเพศขั้นสุด แต่แฟนสาวกลับไม่มีอารมณ์อย่างว่า แล้วคุณไปบังคับฝืนใจหรือทำรุนแรงใส่ก็อาจจะทำให้เธอเสียความรู้สึกและไม่อยากเสพสุขร่วมกันไปอีกนานเลยก็ได้ ทางที่ดีคือเมื่อไรที่รู้สึกว่าคู่รักหรือตัวคุณเองเริ่มไม่แฮปปี้กับเซ็กส์แล้ว ก็ให้ลองเปิดใจคุยกันดูว่าจะหาจุดกึ่งกลางกันตรงไหนหรือจะหาทางกระตุ้นความรู้สึกยังไงดี หากปล่อยไว้แบบนี้ก็อาจทำให้ผิดใจกันและหมดอารมณ์ทางเพศทั้งคู่ได้
 
          เห็นอย่างนี้แล้วหนุ่ม ๆ รีบเช็กตัวเองกันเลยครับ ว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือเปล่า หากยังทำอยู่ก็ควรเลิกหรือหลีกเลี่ยงในทันที ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปจนคุณกลายเป็นคนไร้น้ำยาไปตลอดชีวิตเลยก็ได้
 
ข้อมูลจาก : mensfitness.com, rd.com