10 น้ำหอมผู้ชายยอดฮิตปี 2017 ฉีดแล้วกลิ่นหอมติดทน จนสาว ๆ ต้องวิ่งตาม

          รวม 10 น้ำหอมผู้ชายได้รับความนิยมในปี 2017 จัดมาให้แบบตัวท็อป ๆ ทั้งนั้น ฉีดแล้วกลิ่นหอมติดทนจนสาว ๆ ต้องวิ่งตาม
          1. Bleu De Chanel Eau De Parfum

          ถือเป็นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมตลอดกาลเลยจริง ๆ ไปไหนมาไหนก็จะเจอผู้ชายใช้กลิ่นนี้อยู่ตลอด โดยคาแรคเตอร์ของกลิ่นจะออกในแนวแมนลี่ เซ็กซี่ ดูมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ซึ่งกลิ่นของมันไม่แรงมากจนเกินไป สามารถใช้ได้กับทุกวัยและทุกสถานการณ์ ราคาขายของน้ำหอมขวดนี้ในปริมาณ 50 มิลลิลิตร อยู่ที่ประมาณ 2,900 บาท
 
          2. Dolce & Gabbana Light Blue Eau Intense

          น้ำหอมขวดนี้เหมาะกับช่วงซัมเมอร์หรือประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างบ้านเรามาก ๆ เพราะเป็นกลิ่นที่ให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ดูสนุกสนาน ด้วยกลิ่นที่ฟุ้งแรงและติดทนนานทำให้มันสามารถกลบกลิ่นเหงื่อและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับหนุ่ม ๆ ที่ต้องออกแดดได้เป็นอย่างดี ค่าตัวของน้ำหอมขวดนี้อยู่ที่ประมาณ 1,900 บาท ต่อ 50 มิลลิลิตร
 
          3. Acqua Di Gio Giorgio Armani Profumo

          เป็นน้ำหอมอีกตัวที่ฮิตสุด ๆ ในบ้านเราเลย เพราะเป็นกลิ่นใช้ง่ายและเข้าถึงง่ายไม่กวนใจคนรอบข้าง เหมาะกับทุกสถานการณ์อีกเช่นกัน หนุ่ม ๆ น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยกลิ่นของมันค่อนข้างสะอาด ดูคลาสสิกและให้ความรู้สึกที่สดชื่นเหมือนได้เดินอยู่ริมทะเล ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท ในปริมาณ 40 มิลลิลิตร

          4. Jimmy Choo Man Ice

          น้ำหอมขวดนี้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากน้ำหอมทั่วไป โดยเป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกสบาย ๆ สร้างความมั่นใจและความสดชื่นได้ดี คาแรคเตอร์จะออกไปทางผู้ชายสนุกสนาน ร่าเริง มีความมั่นใจและเต็มที่กับทุกอย่างที่ทำ ขวดนี้ใช้ในเวลากลางวันจนถึงหัวค่ำดูจะเหมาะสมกว่า ค่าตัวของมัน ในปริมาณ 50 มิลลิลิตร อยู่ที่ประมาณ 2,400 บาท
 
          5. Dior Sauvage Eau De Toilette

          ผู้ชายที่มีสไตล์แบด ๆ เซอร์ ๆ ต้องมองหาน้ำหอมขวดนี้เลย เพราะกลิ่นของมันจะออกไปทางหวาน ๆ เฟรช ๆ ช่วยเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้ดูเป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลมากขึ้น ราคาขายอยู่ที่ 3,000 บาท ในปริมาณ 60 มิลลิลิตร           6. L\'Homme Prada Classic Eau de Toilette

          ด้วยคาแรคเตอร์ของกลิ่นที่ดูเท่ สุขุมลุ่มลึก ทำให้น้ำหอมขวดนี้ตอบโจทย์คนที่ต้องแต่งตัวเรียบร้อยอย่างพนักงานออฟฟิตศ หรือคนที่ต้องใส่สูทผูกไทเข้าห้องประชุมบ่อย ๆ เป็นอย่างมาก โดยกลิ่นของมันจะไม่ฟุ้งหรือแรงมากจนเกินไป ทำให้ลุคของคนใช้ดูมีความน่าเชื่อถือขึ้นได้ ในขวดปริมาณ50 มิลลิลิตร ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,900 บาท
 
          7. Hugo Boss Boss Bottled Tonic

          เป็นน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจนอีกเช่นกัน โดยกลิ่นของมันจะให้ความรู้สึกสดชื่นแบบคลาสสิก มีความซับซ้อนชวนเป็นแรงดึงดูดให้สาว ๆ รู้สึกหลงใหล ถ้ามีความมั่นใจที่มากพอตัวนี้เป็นอีกทางเลือกที่ดีเลย โดยราคาขายอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท ในปริมาณ 50 มิลลิลิตร
 
          8. Miller Harris Le Cedre Eau de Parfum

          ลุคของผู้ชายที่ใช้น้ำหอมขวดนี้ ส่วนใหญ่จะออกไปทางผู้ชายเซ็กซี่ มีความมั่นใจในตัวเองสูงและชอบความร้อนแรง เพราะกลิ่นฟุ้งไกลและติดทนนานมาก เหมาะจะใช้ในตอนกลางวันหรือในช่วงที่อากาศค่อนข้างร้อน โดยน้ำหอมขวดนี้ในปริมาณ 100 มิลลิลิตร จะมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท

 
          9. Bvlgari Man In Black

          คาแรคเตอร์ของน้ำหอมขวดนี้จะไปในทางผู้ชายที่มีเสน่ห์ดูน่าค้นหา ลุคเข้ม ๆ ทันสมัย หรูหราแบบเป็นทางการ ทำให้เหมาะกับคนวัยทำงานมากกว่าวัยรุ่น ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 2,400 บาท ในปริมาณ 100 มิลลิลิตร
 
          10. Versace Dylan Blue Pour Homme

          สำหรับน้ำหอมขวดนี้จะเป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกสดชื่น คูล ๆ โดยคาแรคเตอร์ของมันจะออกไปทางหนุ่มมาดแมนที่ดูสะอาดสะอ้าน มีความเซ็กซี่ในระดับหนึ่ง แม้ว่ากลิ่นของน้ำหอมตัวนี้จะไม่ได้โดดเด่นหรือแปลกใหม่สักเท่าไหร่ แต่ก็หาคนที่จะปฏิเสธความหอมของมันได้ยากมาก ราคาของขวดนี้อยู่ที่ประมาณ 3,600 บาท ต่อปริมาณ 100 มิลลิลิตร
 
          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับน้ำหอมผู้ชายที่เรายกมาให้ดูวันนี้แต่ละตัวเจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเลยใช่ไหมครับ อย่างไรก็ตามอย่าลืมเลือกกลิ่นที่เข้ากับลุคหรือคาแรคเตอร์ของตัวเองกันด้วยนะครับ รับรองภาพลักษณ์ดูดีขึ้นเป็นกองแน่นอน