1. ช่วยให้อายุยืน
ทราบกันดีอยู่แล้วว่าระหว่างมีเซ็กส์ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ซึ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาความเครียดได้ สุขภาพกายและจิตใจดีขึ้น ส่งผลให้ให้คนมีอายุยืนขึ้นนั่นเอง จากการศึกษาในหลาย ๆ แห่งพบว่า คนที่มีเซ็กส์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง มีโอกาสเสียชีวิตก่อนวัยอันควรน้อยกว่าคนที่มีเซ็กซ์เดือนละครั้งถึง 50% เลยทีเดียว ทั้งนี้การวิจัยยังไม่ลึกพอที่จะชี้ชัดว่า เซ็กส์มีผลช่วยให้ร่างกายคนเราเสื่อมสภาพช้าลงได้จริงหรือไม่ แต่สุขภาพร่างกายและจิตใตที่ดีมีส่วนให้อายุยืนได้แน่นอน
เป็นเรื่องปกติที่คู่รักจะมีเซ็กส์กันทุกวันหลังแต่งงาน แต่พอนานวันเข้าหลาย ๆ คู่กับมองข้ามกิจกรรมบนเตียงเหล่านี้ ทำให้เกิดการเบื่อหน่าย หมดรักและนำพาไปสู่การหย่าร้างในที่สุด จากการศึกษาของนักวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์จิตวิทยาพบว่า การมีเซ็กส์คือการสร้างความสุขร่วมกันของคู่รัก ซึ่งมีส่วนช่วยให้ไฟรักของทั้งคู่ยังคงปะทุอยู่เสมอ อีกทั้งการแสดงอารมณ์ผ่านเซ็กส์ที่เร่าร้อนจะทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกพึงพอใจในชีวิตการแต่งงานมากขึ้นอีกด้วย ทำให้นักวิจัยหลายคนต่างเชื่อไปในทางเดียวกันว่า ยิ่งมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนร่วมกันมากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ยิ่งยั่งยืนมากเท่านั้น
3. ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
ใครจะคิดว่าการสู้รบกันบนเตียงจะมีผลดีต่อหัวใจด้วย อาจฟังดูเสี่ยงไปหน่อยกับคนสูงอายุ แต่สำหรับหนุ่ม ๆ แล้วเซ็กส์ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้ห่างไกลจากโรคหัวใจได้ เพราะเซ็กส์จะทำให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลาซึ่งช่วยให้ร่างกายสูบฉีดเลือดเข้าไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยควีนส์เบลฟาสต์พบว่า คนที่มีเซ็กส์ 3 ครั้งต่อสัปดาห์จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบลดลงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว แต่ก็อย่าหักโหมกันมากเกินไปเพราะอาจจะทำให้รู้สึกระบมได้
จัดเป็นโรคที่หนุ่ม ๆ หลายคนกลัวเลยก็ว่าได้ โดยนักวิจัยได้ทำการศึกษาจากชายวัยกลางคนกว่า 30,000 คน พบว่า การไปถึงจุดสุดยอดของผู้ชาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ผู้ชายที่ไปถึงจุดสุดยอด 5 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยลดการเกิดของมะเร็งต่อมลูกหมากได้สูง 22% เลยทีเดียว ทั้งนี้วิจัยไม่ได้ระบุว่าจะต้องไปถึงจุดสุดยอดด้วยการมีเซ็กส์อย่างเดียวเท่านั้น จะใช้วิธีอื่น ๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน
5. ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
อย่ามัวแต่มองว่าเซ็กส์เป็นกิจกรรมที่นำพามาแต่โรคร้ายแรง เพราะในทางกลับกันมันกลับสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกายได้ โดยจากการศึกษาพบว่า การมีเซ็กส์สัปดาห์ละ 2 ครั้งขึ้นไป จะช่วยเพิ่มระดับแอนตี้บอดี้ที่มีชื่อว่า Immunoglobulin ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไวรัสและแบคทีเรียที่ทำให้เป็นโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้ อีกทั้งยังช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอื่น ๆ ทำงานดีขึ้นอีกด้วย แต่ต้องชัวร์นะว่ามีเซ็กส์อย่างสะอาดแน่นอน
ภาพจาก : freepik.com
อาจไม่ได้บำรุงสมองโดยตรง แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สมองพัฒนาขึ้น จากการศึกษากลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 29 ปี พบว่าคนที่มีเซ็กส์ประจำจะมีความจำที่ดีและแม่นยำกว่าคนโสด โดยผู้ทำการวิจัยเชื่อว่าการมีเซ็กส์จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเซลล์สมองส่วน ฮิปโปแคมปัส ส่งผลให้มนุษย์มีความจำในระยะสั้นดีขึ้น นอกจากนี้การไปถึงจุดสุดยอดยังช่วยให้เลือดขึ้นไปล่อเลี้ยงสมองทำให้มีปริมาณออกซิเจนในสมองมากขึ้น ทำให้สมองสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
7. ช่วยป้องกันกระดูกพรุน
ใช้งานกระดูกซะส่วนใหญ่ไม่คิดว่าจะช่วยบำรุงกระดูกได้เหมือนกัน เพราะระหว่างการมีเซ็กส์ร่างกายของผู้ชายจะหลั่งฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนออกมา ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ตลอดจนการป้องโรคกระดูกพรุนด้วย ส่วนผู้สูงอายุที่เป็นกังวล ควรเลือกกินอาหารที่มีแคลเซียมสูงแทนหรือออกไปรับวิตามินดีในแดดตอนเช้า ๆ ก็มีส่วนช่วยได้เหมือนกัน
เท่านี้ทราบกันแล้วใช่ไหมครับว่าเซ็กส์มีประโยชน์อะไรต่อสุขภาพบ้าง ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าผลประโยชน์เหล่านี้เป็นเพียงแค่ทางอ้อมเท่านั้น อยากให้หันมาออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นประจำมากกว่าสิ่งเหล่านี้ก็ช่วยให้สุขภาพดีได้ไม่แพ้กัน
ข้อมูลจาก : esquire.com, mirror.co.uk
