รอยสัก จองกุก BTS ส่องลายสักของไอดอลเกาหลีสุดติสต์ แต่ละลายบนร่างกายเขามีอะไรบ้าง และมีความหมายอย่างไร ไปดูรอยสักจองกุกกัน
นับว่าเป็นไอดอลเกาหลีที่มีคนชื่นชอบมากจริง ๆ สำหรับวง BTS ซึ่งล่าสุด จองกุก น้องเล็กของวง ก็เพิ่งออกซิงเกิลใหม่อย่าง Seven ที่กวาดยอดวิวในยูทูบไปอย่างถล่มทลายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และนอกจากความสามารถรวมถึงหน้าตาของจองกุกที่ทำให้ใครหลายคนหลงรักแล้ว รอยสักของเขาก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน กระปุกดอทคอมจึงอยากพาไปส่องรอยสักจองกุกกันสักหน่อย ว่าลายสักแต่ละลายคืออะไร มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง
ขอเริ่มกันที่มือข้างขวาของเขา ที่สักตัวอักษร A R M Y ไว้ ซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มแฟนคลับวง BTS นั่นเอง นอกจากนี้มือข้างนี้ยังสักมงกุฎเล็ก ๆ, หัวใจสีม่วง, อีโมติคอนที่เขาชอบ, ตัว J ที่แทนชื่อจองกุก รวมถึงโลโก้ของวง BTS อีกด้วย
จองกุกสักเต็มท่อนแขนขวา และแก้รอยสักมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเราจึงขอพูดถึงลายที่โดดเด่นและเป็นลายสักล่าสุด เริ่มจากรอยสักที่ต้นแขนด้านใน เป็นศิลปะภาพวาดแบบเกาหลี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะของดัลซอง ที่เหมือนรูปดอกไม้ผสานกับคลื่นทะเล
รอยสักที่หลังท่อนแขน เป็นตัวอักษรไขว้กัน ซึ่งจองกุกเลือกสักเป็นประโยคที่เขาชอบ นั่นคือ Rather be Dead Than Cool (ถ้าอยู่อย่างไร้ความพยายาม ขอตายดีกว่า) และ Make Hay While the Sun Shine (จงคว้าโอกาสทุกครั้งที่มีโอกาส) ต่อมาเป็นลายตัวอักษรกราฟิตี้ ที่เขาดีไซน์ขึ้นมาสักทับรอยสักรูปดวงตาที่เคยสักไว้ โดยสักคำว่า Bullet Proof (กันกระสุน) เข้ามาแทน ส่วนด้านล่างท่อนแขน จองกุกสักรูปกุญแจซอล ซึ่งแสดงถึงความรักในดนตรีของเขา นอกจากนี้ยังมีรูปมือที่ทำสัญลักษณ์ชาวร็อกอีกด้วย
จองกุกยังมีรอยสักรูปนาฬิกาขนาดใหญ่ ซึ่งสื่อถึงเวลาเกิดของเขา พร้อมโซ่ที่คล้องออกมาเป็นรูปไมโครโฟน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักร้อง
นอกจากนี้ จองกุกยังมีรอยสักรูปหน้ากากไม้, กราฟิตี้คำคม, รอยสักรูปงู, สายฟ้า, ดอกไทเกอร์ลิลลี่ ที่เป็นดอกไม้ประจำวันเกิดของเขา, สัญลักษณ์รูปวัวและตัวอักษรโรมันที่แสดงถึงปีเกิด รวมถึงรอยสักเลข 7 บริเวณหลังใบหูข้างซ้าย ที่สื่อถึงสมาชิก 7 คนของวง BTS
ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า จองกุก เป็นไอดอลที่หลงใหลในศิลปะรอยสักบนร่างกายมาก ๆ และดูเหมือนว่าจะเติมลายใหม่มาได้อีกเรื่อย ๆ เป็นหนุ่มติสต์ที่ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ
ขอบคุณภาพจาก : Instagram bts.bighitofficial, jungkook, bts.jungkook
ขอบคุณข้อมูลจาก : ยูทูบดอทคอม โพสต์โดย Style NEWS, .btblackxswan.com
