คริส ร็อก ประวัติดาวตลกของอเมริกา ที่ถูก วิลล์ สมิธ ตบหน้ากลางเวทีออสการ์

          คริส ร็อก มีชื่อจริงว่า คริสโตเฟอร์ จูเลียส ร็อกที่ 3 เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1965 ในแอนดรูว์ทาวน์ รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณพ่อของเขา “คริสโตเฟอร์ จูเลียส ร็อกที่ 2” ทำงานเป็นคนส่งหนังสือพิมพ์และคนขับรถบรรทุก และเสียชีวิตเมื่อปี 2531 ขณะที่แม่ของเขา “โรส ร็อก” เป็นครูในโรงเรียนสอนคนปัญญาอ่อน ทั้งนี้ คริส ร็อก เป็นลูกคนโต เขามีน้องชาย 3 คน คือ จอร์แดน, เคนนี และโทนี โดยภายหลังน้องชายทั้ง 3 คนของเขา เลือกที่จะเดินตามเขาทำงานในวงการบันเทิง ในขณะที่คริสยอมรับว่าได้อิทธิพลด้านการแสดงมาจาก “อัลเลน ร็อก” คุณปู่ของเขาซึ่งเป็นนักเทศน์
 

          ชีวิตวัยเด็กของ คริส ร็อก เติบโตมาในย่านชนชั้นแรงงานเขตบรูคลินของนิวยอร์กซิตี้ เนื่องจากย่านที่อยู่ของเขาถูกครองอำนาจโดยคนผิวขาว จึงต้องทนทุกข์กับการถูกเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ โดยเคยถูกทุบตีและข่มเหงระหว่างเป็นนักเรียน กระทั่งต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน แต่ก็ยังได้รับประกาศนียบัตรจบการศึกษา ซึ่งประสบการณ์อันขมขื่นเกี่ยวกับการถูกบูลลี่ในช่วงวัยเรียนจึงมีผลต่ออาชีพการงานของเขาในเวลาต่อมา

          คริส ร็อก เริ่มต้นอาชีพการแสดงตลกเมื่อมีอายุ 19 ปี โดยได้โชว์เดี่ยวไมโครโฟนในไนต์คลับเล็ก ๆ หลายแห่งในมหานครนิวยอร์ก จนกระทั่งฝีมือและฝีปากของเขาเตะตานักแสดงตลกระดับตำนานอย่าง เอ็ดดี้ เมอร์ฟี เข้าอย่างจัง โดยเมอร์ฟีได้เสนอให้คริสมารับบทในภาพยนตร์เรื่อง Beverly Hills Cop II ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นแรกของเขาในวงการบันเทิงเมื่อปี 1987 จากนั้นเขาก็มีผลงานแสดงตามมาเรื่อย ๆ แต่ที่ทำให้เขาแจ้งเกิดและมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น มาจากผลงานซีรีส์ตลกเรื่อง Saturday Nigh Live เรียกได้ว่าเขาตามรอยไอดอลของเขาอย่างเมอร์ฟีมาแบบสเต็ปต่อสเต็ป นำมาซึ่งความนิยมและโด่งดังสุดขีดในฐานะนักแสดงและดาวตลก
 

          จากนั้นเส้นทางนักแสดงตลกของเขาก็เริ่มขยับขยาย เมื่อเขาได้เขียนบท แสดงนำ และอำนวยการสร้างภาพยนตร์ในปี 1993 เรื่อง CB4 ซึ่งเป็นการเสียดสีโลกของดนตรีแร็พ-ฮิปฮอป ก่อนจะมีซีรีส์พิเศษใน HBO ที่ชื่อว่า Big Ass Jokes ตามมาด้วยผลงานแสดงร่วมกับนักแสดงชั้นนำภาพยนตร์อีกมากมาย อาทิ Lethal Weapon 4, Dr. Dolittle, Dogma, Bad Company, Down to Earth, Nurse Betty รวมถึงนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้างและดารานำในภาพยนตร์ตลกโรแมนติกที่เขาเขียนบทเองด้วย อย่าง I Think I Love My Wife และพากษ์เสียงแก่ตัวการ์ตูนม้าลาย มาร์ตี้ ในภาพยนตร์การ์ตูน Madagascar
 

          ไม่เพียงแต่อยู่เบื้องหน้า แต่เขายังแสดงฝีมืออำนวยการสร้างซีรีส์ตลกชื่อดัง Everybody Hates Chris โดยอิงจากเรื่องราวสมัยเรียนของเขา ซึ่งผลงานเรื่องนี้ได้รับความสำเร็จทั้งชื่อเสียงและเรตติ้งทะลุเพดาน กระทั่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงลูกโลกทองคำสำหรับทีวีซีรีส์ยอดเยี่ยม ด้วยความเก่งฉกาจหาตัวจับยาก ทำให้ คริส ร็อก ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งใน 5 อันดับของดาราตลกสแตนอัปคอเมดี้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล จากช่อง Comedy Cemtral และเขายังสามารถคว้ารางวัล Emmy award 4 ครั้ง และรางวัล Grammy Awards สาขา Best Comedy Album ถึง 3 ครั้งอีกด้วย

          กลางงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ซึ่งจัดขึ้นในโรงละครดอลบี ฮอลลีวูด ในลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2565 ตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดชอตไม่คาดคิด เมื่อ วิลล์ สมิธ เดินขึ้นไปตบหน้า คริส ร็อก บนเวที เนื่องจากไม่พอใจที่ฝ่ายนักแสดงตลกเล่นมุกล้อเลียนทรงผมของภรรยา ซึ่งต้องโกนออกเนื่องจากป่วยด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia) ในตอนแรกดูเหมือนผู้อยู่ในงานคนอื่น ๆ จะคิดว่าเป็นเพียงการแสดง แต่จากนั้นบรรยากาศก็เงียบกริบ จนกระทั่งกลายเป็นข่าวช็อกวงการบันเทิงระดับโลกและถูกวิจารณ์ทั้งสองฝ่าย เพราะตัววิลล์เองก็โกรธควบคุมตัวเองไม่ได้ และไปทำร้ายร่างกายคนอื่น ซึ่งผิดกฎหมาย ส่วนคริสก็ไม่น่าพูดล้อเลียนอาการป่วยกลางรายการที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม คริส ร็อก ปฏิเสธที่จะแจ้งความหลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น