Skateboard หรือ สเกตบอร์ด กีฬากลางแจ้งสุดฮิตทั่วทุกวงการ ใครอยากมีสเกตบอร์ดเป็นของตัวเอง ต้องเลือกอย่างไร มีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง เล่นได้กับทุกเพศทุกวัยไหม วันนี้เรามีมาแนะนำกัน
ชั่วโมงนี้คงต้องหลีกทางให้กีฬาเอ็กซ์ตรีมสุดฮอตอย่าง Skateboard (สเกตบอร์ด) ที่กำลังเป็นเทรนด์ในหมู่วัยรุ่น ดารา และคนดังมากมายที่หันมาเล่นกันอย่างคับคั่ง จนสถานที่ต่าง ๆ ต้องแย่งกันเปิดลานสเกตบอร์ดเพื่อดึงดูดคนให้ไปเล่นกันมากมาย และนอกจากได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแล้วยังได้ความสนุกสนานหรือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย งานนี้ทำเอาคนไม่เคยเล่นก็อยากลองดูสักครั้ง แล้วมือใหม่หัดเล่นจะเลือกซื้อสเกตบอร์ดอย่างไร แบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง มีอุปกรณ์อะไรที่ต้องใช้บ้าง งั้นอย่ารอช้าตามกระปุกดอทคอมมาทำความรู้จักกับกีฬาสุดฮิตนี้กันเลย
สเกตบอร์ด คืออะไร
สเกตบอร์ด (Skateboard) คือ แผ่นกระดานทรงแบน สำหรับความกว้างและยาวมีขนาดต่างกันไปตามการเลือกของผู้เล่น มาพร้อมล้อ 4 ล้อ จัดเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดหนึ่ง โดยผู้เล่นต้องทรงตัวอยู่บนบอร์ด ส่วนใหญ่แผ่นบอร์ดจะทำมาจากไม้เมเปิลเพราะทนทานและมีความยืดหยุ่นมาก สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1950 ในแถบแคลิฟอร์เนีย จากกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกระดานโต้คลื่นหรือเซิร์ฟบอร์ด แต่มีบางช่วงที่ทะเลไม่มีคลื่น จึงได้ดัดแปลงให้เล่นบอร์ดบนถนนได้นั่นเอง
สเกตบอร์ด มีกี่ประเภท
ส่วนใหญ่แล้ว สเกตบอร์ดที่นิยมเล่น และเรามักจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี มีดังต่อไปนี้
1. สเกตบอร์ด (Skateboard)
มีขนาดและความกว้างของบอร์ดที่หลากหลาย ตั้งแต่ไซซ์สำหรับเด็ก 6.5 นิ้ว ไปจนถึง 10 นิ้ว ขนาดที่นิยมคือประมาณ 8 นิ้ว ยาวประมาณ 32 นิ้ว รูปทรงเหมือนไอศกรีม (Popsicle) จุดเด่นคือล้อจะมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการเล่นท่า เช่น กระโดด ข้ามสิ่งกีดขวาง ไถไปตามท่อเหล็กหรือกล่อง กระโดดเตะ เตะผสมการหมุนบอร์ด การเล่นค่อนข้างผาดโผนควรใส่อุปกรณ์ป้องกัน สามารถเล่นได้ตามถนน หรือลานสเกต (Skate Park) การเคลื่อนที่จะต้องใช้ขาไถไป เนื่องจากล้อเล็กและแข็งจึงไม่เหมาะกับการไถระยะทางไกล เพราะจะเหนื่อยมากและล้อไม่นิ่ม ราคาจะถูกกว่าประเภทอื่น
2. เซิร์ฟสเกต (Surf Skate)
เซิร์ฟสเกตจะกว้างกว่าสเกตบอร์ด มีขนาด 8.5 นิ้วขึ้นไป เพื่อการทรงตัวที่ดี แผ่นบอร์ดมีรูปทรงและขนาดที่หลากหลายแล้วแต่ความชอบของผู้เล่น จะมีความแตกต่างกันตรงที่ Truck จะสามารถเลี้ยวได้แคบกว่าบอร์ดชนิดอื่น การเคลื่อนที่จะอาศัยการปั๊ม (Pump) คือ ใช้ไหล่ แขน ลำตัว และขา เหวี่ยงและย่อยืดให้บอร์ดขยับไปเรื่อย ๆ โดยที่ขาไม่แตะพื้นเลย สามารถเล่นได้ทั้งบนถนนธรรมดา ถนนที่เป็นคลื่น ๆ (Pump Track) ทางลาด (Ramp) หรือสระน้ำที่ไม่มีน้ำ (Bowl) สำหรับการเล่นท่าแล้วแต่ชอบ สามารถไถไปเรื่อย ๆ หรือซิกแซกก็ได้
3. ครุยเซอร์ (Cruiser)
ขนาดกระดานเล็กและสั้นกว่าสเกตบอร์ด ล้อใหญ่และนุ่มกว่า ไม่เหมาะกับการเล่นท่า ใช้ไถแบบใกล้ ๆ มีความคล่องตัวสูง วงเลี้ยวแคบ แต่ทั้งนี้ต้องเลือกถนนหรือสถานที่เล่นที่พื้นเรียบเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ซึ่งแผ่นบอร์ดมีไซซ์เล็กสำหรับเด็กอายุ 2-6 ขวบขึ้นไป จะเรียกว่ามินิครุยเซอร์ (Mini Cruiser)
4. ลองบอร์ด (Longboard)
เป็นบอร์ดที่มีขนาดใหญ่ อาจมีความยาวได้ถึง 2 เมตร ขนาดใหญ่ได้ถึง 33 นิ้ว ทำให้การยืนบนบอร์ดค่อนข้างมั่นคง ล้อยื่นออกจากตัวบอร์ด สามารถฝึกเล่นท่า เตะบอร์ดขึ้น ควง หมุนบอร์ดแล้วกระโดดขึ้นไปยืนใหม่ บางคนเล่นโยคะบนบอร์ดก็มี เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากหน่อย ซึ่งในรุ่นนี้ยังแบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น Pintail Longboard, Drop Longboard, Bamboo Longboard, Twin Tip Longboard เป็นต้น
5. เพนนีบอร์ด (Penny)
ผสมผสานระหว่างรูปทรงของลองบอร์ดกับสเกตบอร์ด แต่ขนาดค่อนข้างเล็กกว่า มีแค่ 2 ไซซ์ให้เลือก คือ 22 นิ้ว และ 27 นิ้ว ถือกำเนิดขึ้นจากออสเตรเลีย ตัววัสดุทำมาจากพลาสติก มากับล้อยางขนาดใหญ่ ทำให้มีขนาดเบากว่าสเกตบอร์ดทั่วไปที่ทำจากไม้ เหมาะสำหรับการเล่นแบบไถไป-มา ไม่ผาดโผน เหมาะกับมือใหม่ที่เริ่มต้นหัดไถ
6. สเกตบอร์ดไฟฟ้า หรืออิเล็กทรอนิกส์สเกตบอร์ด (Electric Skateboard)
โดยปกติจะใช้อำนวยความสะดวกในการเดินทางหรือไถสนุก ๆ ไม่เหมาะสำหรับการเล่นท่า ขนาดของบอร์ดมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ ควรเลือกที่กำลังไฟตั้งแต่ 350 วัตต์ขึ้นไป ไม่เน้นความเร็วสูง แต่จะเน้นที่ความเร็วในระดับปานกลางเป็นหลัก เนื่องจากไม่มีระบบเบรกที่สามารถหยุดตัวสเกตบอร์ดที่ความเร็วสูงได้ และขณะที่ใช้ความเร็วสูงนั้นตัวสเกตบอร์ดจะไม่สามารถลดความเร็วลงได้อย่างทันท่วงที
วิธีเลือกสเกตบอร์ดให้เหมาะสมกับตัวเอง
1. ลวดลาย
เวลาเราชอบอะไรก็อยากเห็นหรืออยากอยู่กับสิ่งนั้นไปนาน ๆ เหมือนกับถ้าหากเราเลือกแผ่นบอร์ดที่มีลวดลายที่ชอบก็จะทำให้เราอยากเล่น อยากฝึกซ้อม อยากเล่นไปเรื่อย ๆ นั่นเอง
2. ขนาดของแผ่นบอร์ด
สำหรับแผ่นบอร์ดมีหลากหลายขนาด โดยมีขนาดเล็กสำหรับเด็กและขนาดมาตรฐาน รวมถึงลองบอร์ด ถ้าหากผู้เล่นมีน้ำหนักน้อย ประมาณ 25-60 กิโลกรัม และส่วนสูงประมาณ 140-150 เซนติเมตร แนะนำให้ใช้แผ่นบอร์ดขนาดสั้น ประมาณ 26-28 นิ้ว และถ้าผู้เล่นมีน้ำหนักประมาณ 65-85 กิโลกรัม และส่วนสูงประมาณ 170-180 เซนติเมตร แนะนำให้ใช้แผ่นบอร์ดขนาดยาว ประมาณ 32-34 นิ้ว
3. ขนาดของล้อ
ขนาดล้อ 54-59 มิลลิเมตรเป็นไซซ์ทั่วไป เหมาะสำหรับผู้หัดเล่น เน้นการไถ และเล่นบนเส้นทางที่ลาดชันหรือแรมป์ สำหรับล้อเล็กขนาด 50-53 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับการเล่นท่าต่าง ๆ การไถ การเล่นใน Skate Park ส่วนขนาด 60 มิลลิเมตรขึ้นไป เหมาะสำหรับการเล่นลองบอร์ด ครุยเซอร์ หรือการเล่นที่ต้องใช้ความเร็วและพื้นที่ขรุขระ
สเกตบอร์ดสำหรับมือใหม่ เลือกแบบไหนดี
แผ่นบอร์ด
ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับผู้เล่นมือใหม่ ควรเลือกแผ่นบอร์ดที่มีความแข็งแรงทนทาน อย่างแผ่นไม้เมเปิลที่นำมาซ้อนกันเป็นชั้นซึ่งมีความยืดหยุ่น ทั้งนี้ ก่อนซื้อควรทดลองยืนอยู่บนแผ่นในท่าที่สบายที่สุด ควรเลือกแผ่นให้พอดีกับลำตัว และควรเลือกแผ่นกระดานค่อนข้างเรียบเพื่อให้สามารถทรงตัวบนแผ่นบอร์ดได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความโค้งเพราะจะส่งผลให้ทรงตัวยาก
ทรัค (Truck) หรือฐานล้อ
การเลือกทรัคหรือล้อควรคำนึงถึงขนาดของแผ่นบอร์ด แกนไม่ควรกว้างหรือเล็กเกินไปเพราะมีผลต่อการทรงตัว โดยปกติจะมีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ แกนขนาดเล็ก เหมาะกับการเล่นแบบ Street / Technical แกนขนาดกลาง เหมาะกับการเล่นแบบ All around และแกนขนาดใหญ่ เหมาะกับการเล่นแบบ Transition ในช่วงต้นของการฝึกซ้อม มือใหม่ไม่จำเป็นต้องขันทรัคให้อ่อนลง ควรขันให้แข็งเพื่อให้ทรงตัวง่ายในการฝึกซ้อม ถ้าฝึกจนควบคุมแรงสะบัดจากความเร็วได้แล้วค่อยขันทรัคให้อ่อนลงได้ตามต้องการก็ไม่สาย
แผ่นกันลื่น (Grip Tape)
แผ่นปูบอร์ดเวลาเหยียบขึ้นไปเล่นมีลักษณะผิวขรุขระคล้ายกระดาษทราย ป้องกันผู้เล่นลื่นหล่นลงมาจากบอร์ด โดยปกติควรเลือกสีดำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพดีกว่าสีอื่นด้านลดการเสียดสี และช่วยให้ผู้เล่นควบคุมทิศทางได้ง่าย
ลูกปืน (Bearing)
ลูกปืนมีหลายเกรดด้วยกัน คือ ABEC1, ABEC3, ABEC5, ABEC7 และ ABEC9+ ขนาดมาตรฐานคือ แกนกลาง 8 มิลลิเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 22 มิลลิเมตร และหนา 7 มิลลิเมตร โดยปกติควรจะเลือกระดับปานกลาง ABEC3-5 แทนการใช้ ABEC ระดับสูง เพราะราคาจะแพงมาก ถ้าหัดเล่นบอร์ดไปเรื่อย ๆ จะมีความคุ้นชินไปเอง
ล้อ
มีขนาดตั้งแต่ 48-60 มิลลิเมตรขึ้นไป ที่นิยมคือขนาด 52-56 มิลลิเมตร ล้อขนาดเล็กจะมีสปีดน้อยกว่าล้อขนาดใหญ่ แต่จะมีอัตราการเร่งความเร็วที่เร็วกว่า และเนื้อล้อที่แข็งก็จะเร็วกว่าล้อที่นิ่มด้วย สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ควรเลือกฐานล้อที่ผลิตจากอะลูมิเนียม ใช้ล้อโพลียูรีเทน (PU) เพื่อรองรับแรงกด พร้อมกับลูกปืนในระดับ ABEC-7 ขึ้นไป เพื่อช่วยในการหมุนของล้อและการลื่นไหล และช่วยยึดเกาะพื้นผิวได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้มือใหม่สามารถควบคุมสเกตบอร์ดได้อย่างง่ายดาย
อุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นสเกตบอร์ด มีอะไรบ้าง
รองเท้าสเกตบอร์ด
การใส่รองเท้าเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับเล่นสเกตบอร์ดจะทำให้ลดการบาดเจ็บหรือเกิดข้อเท้าพลิก หากไม่สามารถหารองเท้าเฉพาะได้ก็สามารถสวมรองเท้าที่มีพื้นแบนแทนได้เช่นกัน หลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีดอกยางเป็นร่องขรุขระโดยมักพบในรองเท้าวิ่ง
อุปกรณ์ป้องกัน
การฝึกฝนสำหรับมือใหม่ควรมีอุปกรณ์เล่นสเกตบอร์ดที่จำเป็น ทั้งหมวกกันน็อกที่มีพื้นผิวเรียบ และมีสายรัดคาง รวมทั้งมีสนับเข่า สนับข้อมือ และสนับศอก เพื่อป้องกันการร่วงตกลงมาจากบอร์ด หลังจากที่ฝึกฝนจนคุ้นเคยกับการบังคับบอร์ดแล้วก็ไม่จำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้เหล่านี้ก็ได้
สำหรับใครที่อยากลองหัดเล่นสเกตบอร์ดคงจะได้ไอเดียในการเลือกซื้อแผ่นบอร์ดรวมทั้งเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมกันไปแล้ว เอาเป็นว่าถ้าได้แผ่นบอร์ดคู่ใจแล้วก่อนเล่นอย่าลืมมาโพสท่าถ่ายรูปคูล ๆ กันนะ เอาไว้อวดสาวไง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ร้านขายสเกตบอร์ด แนะนำร้านสเกตบอร์ด ย่านดัง เอาใจสายกีฬาเอ็กซ์ตรีม
20 ท่าโพส ถ่ายรูปกับสเกตบอร์ด สวยสปอร์ต คูล ๆ ยอดไลก์เพียบ !
รู้จัก Surf Skate กีฬาสุดแนว แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่น้อยเลย
9 ลานสเกตบอร์ด วาดลวดลายติดล้อ เอาใจเหล่านักกีฬาสายเอ็กซ์ตรีม
ขอบคุณข้อมูลจาก
