ไขข้อข้องใจ ทำไมหลายคนถึงเรียกเคสคอมพิวเตอร์ว่า CPU ?

          หนึ่งในความอัดอั้นตันใจของคนในวงการคอมพิวเตอร์เมื่อเจอคนจำนวนไม่น้อยเรียกตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะกันว่า CPU แทนที่จะเรียกว่าเคส เพราะความจริงแล้ว CPU เป็นชื่อที่ใช้เรียกชิปมวลผลซึ่งเป็นชิ้นหนึ่งภายในเคสเท่านั้น และภายในเคสก็ยังมีชิ้นส่วนอื่นอีกมากมาย เมนบอร์ด ทั้งแรม การ์ดจอ ฮาร์ดดิสก์ ฯลฯ การชี้ไปที่ตัวเคสแล้วบอกว่านี่คือ CPU จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเข้าใจไม่ตรงกันได้ ว่าตกลงหมายถึงตัวเคสทั้งเครื่องหรือหมายถึงชิปประมวลผลที่อยู่ข้างในกันแน่ และแน่นอนว่าหลายคนก็ยังข้องใจมาจนถึงทุกวันนี้ว่าเหตุผลที่ทำให้หลายคนเรียกเคสคอมพิวเตอร์ว่า CPU จนติดปากมันคืออะไรกันแน่ ?

          การที่หลายคนเรียกตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ (ไม่รวมจอ เมาส์ คีย์บอร์ด) ว่า CPU นั้น เป็นการเรียกแบบรวม ๆ เพราะ CPU นั้นย่อมาจาก Central Processing Unit ที่แปลว่าหน่วยประมวลผลกลาง และจากการที่คอมพิวเตอร์มีหน้าที่หลักคือการประมวลผลสิ่งต่าง ๆ เพื่อส่งออกมาแสดงเป็นภาพบนหน้าจอ การเรียกรวม ๆ ทั้งเครื่องว่า CPU จึงเป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องชิ้นส่วนภายในเครื่องคอมพิวเตอร์น่าเข้าใจได้ง่ายกว่า ซึ่งในหนังสือเรียนหรือแม้แต่ครูสอนคอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ ประเทศก็สอนให้นักเรียนเรียกว่า CPU กันจนติดปากมาถึงทุกวันนี้



          เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนก็จะเกิดคำถามว่า แล้วสรุปเรียกแบบไหนผิด ต้องเรียกแบบไหนถึงจะถูก ? ซึ่งความจริงแล้วจะบอกว่าการเรียกเคสคอมพิวเตอร์ว่า CPU นั้นผิดก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่ถ้าลองสมมุติดูว่า เมื่อคอมพิวเตอร์เสียแล้วไปบอกช่างว่า "CPU เสีย" ช่างก็อาจเข้าใจว่าหมายถึงชิปประมวลผลเสียชิ้นเดียว ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเจ้าของเครื่องยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเสียกันแน่ แค่ต้องการบอกว่าคอมพิวเตอร์เสีย ใช้งานไม่ได้ เพราะฉะนั้นการเรียกแยกกัน โดยเรียกเคสทั้งเครื่องว่าเคส และเอา CPU ไว้ใช้เรียกเฉพาะชิปประมวลผลข้างใน ก็น่าจะชัดเจนและสร้างความสับสนได้น้อยกว่า