ตัวไหนดี ? ระหว่าง Nikon D5500 vs Canon 750D เทียบสเปคให้เห็นกันชัด ๆ

          เปรียบเทียบสเปคกล้องระหว่าง Nikon D5500 กับ Canon EOS 750D ตัวไหนแรง ตัวไหนคุ้มค่า มาดูกัน

          เชื่อว่ามีช่างภาพมือใหม่หลายคนที่กำลังมองหากล้องดี ๆ มาใช้เพื่อฝึกฝีมือการถ่ายภาพอยู่ แต่ครั้นให้ไปใช้พวกกล้องฟูลเฟรมเลย ก็กลัวว่าจะใช้งานไม่คุ้มค่า ด้วยราคาของกล้องและอุปกรณ์ที่สูงเอามาก ๆ วันนี้เราเลยหยิบเอากล้องสำหรับผู้เริ่มต้นระดับกลาง (Entry-Mid Level) มาเปรียบเทียบสเปคให้ชมกันระหว่าง Nikon D5500 และ Canon EOS 750D ซึ่งกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้วางขายไล่ ๆ กันในปี 2015 ด้วย ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่าว่าทั้งสองรุ่นมีความต่างกันอย่างไร

          1. สเปคของกล้องทั้ง 2 รุ่น


          - เริ่มจาก D5500 จากฝั่ง Nikon ก่อน โดยมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS แบบ APS-C ขนาด 23.50 x 15.60 มิลลิเมตร มีค่าครอปแฟกเตอร์ที่ 1.5 เท่า ให้ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ใช้ชิปประมวลผลภาพ EXPEED 4 พร้อมถอด Low-Pass Filter ออก ปรับความไวแสงได้ที่ ISO 100-25600 มีระบบออโต้โฟกัสแบบ Phase Detection 39 จุด และแบบ Cross-Type อีก 9 จุด ซึ่งใช้เซ็นเซอร์โฟกัสรุ่น Multi-CAM 4800DX รวมถึงใช้เม้าท์เลนส์ Nikon F


          - ขณะที่ EOS 750D ของ Canon ก็ใช้เซ็นเซอร์ CMOS แบบเดียวกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 22.3 x 14.9 มิลลิเมตร จึงมีค่าครอปแฟกเตอร์ที่ 1.6 เท่า ให้ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล พร้อมใช้ชิปประมวลผลรุ่น DIGIC 6 ปรับค่า ISO ได้ตั้งแต่ 100-12800 ขยายได้ถึง 25600 และระบบออโต้โฟกัสแบบ Phase Detection กับ Cross-Type เท่ากันที่ 19 จุด ด้วยเซ็นเซอร์โฟกัส Hybrid CMOS AF III ส่วนเม้าท์เลนส์เป็นแบบ Canon EF/EF-S

          2. ด้านการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ


          - สำหรับกล้องรุ่น D5500 มีความเร็วชัตเตอร์อยู่ที่ 30-1/4000 วินาที เก็บภาพนิ่งต่อเนื่องได้มากสุด 5 ภาพต่อวินาที รองรับทั้งไฟล์ JPG กับ RAW (12 หรือ 14-bit) สามารถบันทึกวิดีโอระดับ Full HD 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ด้วยนามสกุลไฟล์ MOV บันทึกได้นานประมาณ 20 นาทีต่อครั้ง รวมถึงอัดวิดีโอ Timelapse ได้


          - ส่วนกล้อง 750D มีความเร็วชัตเตอร์ 30-1/4000 วินาที และถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องได้ 5 ภาพต่อวินาทีเช่นกัน เลือกเซฟได้ทั้งแบบไฟล์ JPG และ RAW (14-bit) อัดวิดีโอด้วยไฟล์ MPEG-4 กับความละเอียดแบบ Full HD 1080 ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที บันทึกนานประมาณ 30 นาทีต่อครั้ง

          3. บอดี้กล้องทั้ง 2 รุ่น


          - ตัวบอดี้ของกล้อง D5500 เป็นโครงสร้างแบบชิ้นเดียวที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์อย่างดีในการผลิต มีน้ำหนักเบาเพียง 420 กรัม ด้านหลังมีช่องมองภาพแบบ Pentamirror และจอ LCD ระบบสัมผัสที่พับได้ ขนาด 3.2 นิ้ว มีความละเอียดสี 1.036 ล้านจุด มีช่องรองรับ SD Card กับช่องต่อสาย HDMI และมี Wi-Fi ในตัว ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่น EN-EL14a ช่วยให้ถ่ายภาพได้ราว 820 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง


          - ด้านบอดี้ของ 750D ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย มีน้ำหนักอยู่ที่ 555 กรัม มีช่องมองภาพแบบ Pentamirror เหมือนกัน ส่วนจอแสดงผลเป็น LCD ระบบสัมผัสแบบพับได้ ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.040 ล้านจุด มีช่องใส่ SD Card, ช่องต่อสาย HDMI และมีทั้ง Wi-Fi และ NFC บิวท์อิน รวมถึงใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่น LP-E17 สามารถเก็บภาพได้ประมาณ 440 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

          4. ราคาขายของกล้อง D5500 กับ 750D

4.1 Nikon D5500 (มีให้เลือก 2 สีด้วยกัน คือ สีดำและสีแดง)


          - ราคาเฉพาะบอดี้อยู่ที่ 21,700 บาท
          - ราคาพร้อมเลนส์คิท 18-55 มิลลิเมตร อยู่ที่ 24,300 บาท
          - ราคาพร้อมเลนส์คิท 18-140 มิลลิเมตร อยู่ที่ 29,700 บาท

4.2 Canon EOS 750D (มีสีดำสีเดียว)

          - ราคาเฉพาะบอดี้อยู่ที่ 22,200 บาท
          - ราคาพร้อมเลนส์คิท 18-55 มิลลิเมตร อยู่ที่ 23,700 บาท
          - ราคาพร้อมเลนส์คิท 18-135 มิลลิเมตร อยู่ที่ 29,900 บาท

          ทั้งนี้ หวังว่าข้อมูลของกล้องทั้ง 2 รุ่นที่เรานำมาเปรียบเทียบให้ชมกัน จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อกล้อง สำหรับคนที่ลังเลระหว่าง D5500 ของ Nikon กับ 750D จาก Canon กันนะครับ แนะนำว่าให้ลองของจริงและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนซื้อด้วย เพราะสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวเองว่าชอบแบบไหน เพราะกล้องทั้ง 2 ค่าย ให้ภาพถ่ายในโทนที่แตกต่างกันนั่นเอง

          ***หมายเหตุ : ราคาจำหน่ายเป็นราคาโดยประมาณ แนะนำให้ตรวจสอบราคาอีกครั้งที่ร้านตัวแทนจำหน่าย



ภาพจาก  whatdigitalcamera.com, bhphotovideo.com, expertreviews.co.uk, svyaznoy.ru, nikon.com