ทีมวิจัยจากประเทศออสเตรเลียเผยว่า ฮอร์โมน
เทสโทสเตอโรนเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อเสียหายจากการลดน้ำหนัก
โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลงานวิจัยจาก University of Melbourne ที่ได้ค้นพบว่าการใช้ฮอร์โมนเพศชายควบคู่กับการลดน้ำหนัก จะช่วยสลายไขมันได้ดีและป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อด้วย
สำหรับการวิจัยในครั้งนี้ ด้านคณะนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ชายรูปร่างท้วมจำนวน 100 คน ที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 20-70 ปี แต่ละคนล้วนมีปริมาณเทสโทสเตอโรนต่ำกว่าปกติ จากนั้นให้กลุ่มตัวอย่างกินอาหารไม่เกิน 600 แคลอรีทุกวัน และอาหารแคลอรีต่ำสำหรับลดน้ำหนักในช่วง 10 สัปดาห์แรก โดยงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมออกกำลังเป็นประจำวันละ 30 นาที ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 49 คนจะถูกฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเข้าสู่กล้ามเนื้อทุก ๆ 10 สัปดาห์ ขณะที่ 51 คน จะได้รับยาหลอกแทน
หลังผ่านไป 56 สัปดาห์ของการทดลอง ผลปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มสามารถลดน้ำหนักได้เกือบ 11 กิโลกรัม โดยกลุ่มที่ได้รับฮอร์โมนเพศชายจะลดแค่ไขมันส่วนเกินเท่านั้น ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นพบว่าสูญเสียไขมันและมวลกล้ามเนื้อไปพร้อมกันด้วย โดย ดร.มาธิส กรอสแมนน์ หนึ่งในทีมนักวิจัยบอกว่า แม้ว่าการใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนกับคนอ้วนที่มีฮอร์โมนเพศชายต่ำจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่วิธีนี้ยังคงต้องถกเถียงเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนกันต่อไป นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาของคณะนักวิจัยจาก
Intermountain Heart Institute ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้กลุ่มตัวอย่างเพศชายที่มีอายุระหว่าง 58-78 ปี และเป็นโรคหัวใจจำนวน 755 คน โดยแต่ละคนจะได้รับอาหารเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในระดับที่ต่างกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไป 3 ปี พบว่ากลุ่มตัวอย่างกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลดลงชัดเจน
อย่างไรก็ดี แม้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ยืนยันว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะมีส่วนช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักแต่กลัวกล้ามเนื้อหายอยู่ไม่น้อยเลยล่ะครับ ข้อมูลจาก dailymail และ sciencedaily
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
