รวมจักรยานไฟฟ้าเท่ ๆ ในปี 2015 จากหลายแบรนด์ดัง ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพการทำงาน
สำหรับ จักรยานไฟฟ้า เรียกได้ว่าเป็นจักรยานประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะงานออกแบบที่สวยแล้ว ยังช่วยให้ปั่นได้สบายอีกด้วย วันนี้เราจึงรวบรวมจักรยานไฟฟ้าที่สวยในปี 2015 มาให้ชมกันครับ
Bolt M-1
Bolt ผู้ผลิตจักรยานจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาพร้อมกับจักรยานไฟฟ้าสุดเท่รุ่น M-1 ที่มีดีไซน์คล้ายมอเตอร์ไซค์สไตล์คาเฟ่ เรเซอร์ (Cafe Racer) มีโหมดการทำงานให้เลือก 2 โหมด ได้แก่ Economy โหมดประหยัดพลังงาน ช่วยให้ปั่นได้นาน และโหมด Sport สำหรับใช้ในการปั่นเพื่อทำความเร็ว ซึ่งสามารถปั่นได้ไกลสุด 56 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth โดยมีราคาขายที่ 5,500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 192,000 บาท)
Outfitter
Outfitter จักรยานไฟฟ้าลายพรางสุดเท่ มีตัวเฟรมและตะเกียบหน้าทำจากอะลูมิเนียมอย่างดี ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ 11 สปีด และระบบเบรกแบบไฮดรอลิกของ SRAM รวมถึงใช้ล้อไซส์จัมโบ้จาก Schwalbe ซึ่งยึดเกาะถนนได้ดี พร้อมลุยไปในทุกที่ สนนราคาขายที่ 5,500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 192,000 บาท)
Cruz
Vintage Electric Bikes ร้านจักรยานชื่อดังสัญชาติอเมริกัน มาพร้อมกับจักรยานไฟฟ้าสไตล์เรโทรรุ่น Cruz มีเฟรมทำจากเหล็ก ใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ปั่นได้ระยะทางไกลราว 48 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดได้ 58 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้ระบบไฮดรอลิกดิสก์เบรกของ Shimano Alfine โดยมีราคาขายที่ 4,995 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 174,750 บาท)
Kuberg Freerider 
Freerider จักรยานไฟฟ้าจาก Kuberg มาพร้อมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยวคล้ายมอเตอร์ไซค์วิบาก มีเฟรมผลิตจากเหล็กเกรดพรีเมียม ช่วยให้มีความทนทานสูง แต่น้ำหนักเบา ขณะที่ตะเกียบคู่หน้าเป็นของ Manitou Dorado สำหรับรับแรงกระแทก ช่วยให้ปั่นได้นุ่มนวลสุด ๆ และมีระบบดิสก์เบรกประสิทธิภาพสูง สามารทำความเร็วได้ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงใช้งานต่อเนื่องได้นานราว 1 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สนนราคาขายที่ 3,870 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 135,000 บาท)
Vrum Cattiva
Cattiva จักรยานไฟฟ้างานออกแบบสวยคลาสสิกจาก Cattiva แบรนด์จักรยานจากประเทศอิตาลี ด้านตัวเฟรมจักรยานเป็นชิ้นเดียวทั้งคัน ซึ่งใช้วัสดุอย่างดีในการผลิต ช่วยให้มีน้ำหนักเบา มาพร้อมมอเตอร์ที่ทำงานได้เงียบและสามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ สามารถใช้เดินทางได้ไกลถึง 70 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มีระบบเบรกจาก Tektro รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS โดยมีราคาขายที่ 2,950 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 103,000 บาท)
Porteur S
Porteur S จักรยานไฟฟ้าดีไซน์สวยเท่ในสไตล์วินเทจ ใช้เหล็กคุณภาพเยี่ยมในการผลิตเฟรมและตะเกียบหน้า ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ Sturmey Archer แบบ 5 สปีด มีระบบดิสก์เบรกของ Avid BB5 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของ Panasonic ช่วยให้ปั่นได้ไกลราว 32 กิโลเมตร พร้อมหน้าจอแสดงผลแบตเตอรี่แบบ E-Ink รวมถึงไฟ LED ทั้งด้านหน้าและด้านหลังจักรยาน สนนราคาขายที่ 2,250 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 78,700 บาท)
OKO
OKO จักรยานไฟฟ้าจาก Biomega แบรนด์จักรยานจากประเทศเดนมาร์ก ได้ออกแบบจักรยานรุ่นนี้ให้มีความเท่ในสไตล์มินิมอล ใช้คาร์บอนไฟเบอร์เกรดพรีเมียมทำเป็นเฟรมและตะเกียบหน้า ทำให้จักรยานมีน้ำหนักเบา มีชุดเกียร์ให้เลือก 2 แบบ คือ เกียร์ออโต้ 2 สปีดจาก SRAM และ Shimano Alfine 8 สปีด สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปั่นได้ไกล 65 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตหนึ่งครั้ง โดยมีราคาขายสำหรับรุ่น 2 สปีดที่ 1,720 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 60,000 บาท) ส่วนรุ่น 8 สปีดขายในราคา 2,100 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 73,500 บาท)
Gi FlyBike 
Gi FlyBike จักรยานไฟฟ้าดีไซน์เฟี้ยวเงาะ ใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมนำมาทำเฟรมจักรยาน ได้รับการออกแบบให้พับเก็บได้ง่ายและรวดเร็วสุด ๆ โดยใช้เวลาในการพับเพียง 1 วินาทีเท่านั้น มาพร้อมระบบล็อกอัจฉริยะ เมื่อเจ้าของอยู่ห่างจากจักรยาน 5 เมตร ก็จะล็อกอัตโนมัติทันที นอกจากนี้ยังมีที่ชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนในตัว บวกกับล้อชนิดพิเศษที่ลุยได้ทุกสภาพถนน ไม่ต้องกลัวยางแบน รวมถึงสามารถเดินทางได้ไกล 60 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สนนราคาขายที่ 1,990 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 69,500 บาท)
Xterrain500
Xterrain500 จักรยานไฟฟ้าพันธุ์แกร่งจากบริษัท Sand Snow Bikes ได้ออกแบบจักรยานรุ่นนี้ให้มีขนาดเล็ก ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อไซส์ใหญ่ มีเฟรมและตะเกียบหน้าทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยเกรดพรีเมียม ให้น้ำหนักเบา รองรับแรงกระแทกได้ดี มาพร้อมชุดเกียร์ 6 สปีดของ Shimano และระบบดิสก์เบรกจาก Tektro ทำความเร็วสูงสุดที่ 32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปั่นได้ระยะทางไกลราว 48 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้แบตเตอรี่ลิเธียมคุณภาพเยี่ยมของ Samsung สนนราคาขายที่ 1,500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 52,500 บาท)
Sondors
Sondors เป็นจักรยานไฟฟ้าที่มีดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา เฟรมและตะเกียบหน้าทำจากเหล็กคุณภาพเยี่ยม มีน้ำหนักเบา มาพร้อมกับล้อไซส์ใหญ่ สามารถลุยไปได้ทุกที่ ทำความเร็วสูงสุดที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสริมความปลอดภัยด้วยระบบดิสก์เบรก ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ช่วยให้ใช้งานในระบบไฟฟ้าได้ไกล 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สนนราคาขายที่ 499 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17,500 บาท)
เห็นอย่างนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าจักรยานไฟฟ้าแต่ละรุ่นที่เรานำมาฝากกัน ล้วนมีดีไซน์ที่สวยไม่แพ้กันเลย แล้วคุณล่ะชอบจักรยานรุ่นไหนกันบ้าง ?
ภาพจาก vintageelectricbikes, sandsnowbikes, vrumbike, biomega, feltelectric, kuberg, Facebook Bolt Motorbikes, Facebook Gi FlyBike, Facebook Sondors Ebike
