วันเวลาที่ผ่านไปรวดเร็วอย่างทุกวันนี้ อาจทำให้ผู้ชายที่อายุย่างเข้า 30 แล้ว เริ่มตระหนักได้ว่าช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ผ่านมา พลาดสิ่งดี ๆ ที่ควรทำไปหลายอย่าง ไม่ได้ออกเดินทางหาประสบการณ์ตามเส้นทางที่ตัวเองอยากไป จนถึงวันที่หันหลังกลับไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นหนุ่ม ๆ คนไหนที่ไม่อยากพลาดสิ่งที่ควรทำก่อนอายุ 30 ไป งั้นลองมาดูลิสต์ที่ต้องทำกันก่อนเลยดีกว่าครับ
หาเลี้ยงตัวเองและพ่อแม่ได้แล้วหลังเรียนจบจนทำงานมาได้สักระยะ คุณต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวได้แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ทำงานทำการ แถมยังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่ตลอด แบบนี้เมื่อไรจะรู้จักรับผิดชอบชีวิตสักทีละ
ทำอาหารและทำความสะอาดบ้านเป็นผู้ชายสมัยนี้จะมัวมานั่งรอให้ผู้หญิงมาทำกับข้าวให้กินไม่ได้แล้วนะ งานบ้านก็เช่นกัน เพราะสาว ๆ ในยุคปัจจุบันดูแลตัวเองได้มากขึ้น ทำงานก็เก่ง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชายอย่างเราอีกต่อไปแล้ว ที่สำคัญถ้าคุณทั้งทำอาหารเป็น (บ้าง) และทำงานบ้าน นี่จะเป็นทักษะที่มัดใจให้สาวรักสาวหลงได้เลยล่ะ
มีเงินเก็บเป็นของตัวเองสักก้อนเงินก้อนในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องมีเยอะแยะมากมายหรอกนะ อย่างน้อย ๆ พอมีเก็บไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ในเมื่อทำงานมาเกิน 6-7 ปีแล้ว มันก็ต้องมีเก็บบ้างอะไรบ้าง ไม่ใช่หามาได้ใช้หมด เงินไม่เน่าเสีย ไม่มีวันหมดอายุครับ ไม่ต้องรีบใช้ขนาดนั้น
มีบ้านหรือรถของตัวเองได้แล้วนอกจากเงินเก็บแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือควรมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองสักที ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือรถยนต์ ซื้อก่อนในขณะที่ตัวเองยังมีเรี่ยวแรงทำงานหาเงินผ่อนอย่างเต็มที่ ที่สำคัญ ยังเป็นวิธีฝึกให้คุณรู้จักบริหารจัดการเงินให้เป็นด้วย
มีหน้าที่การงานที่มั่นคงในช่วงวัยที่ยังคงมีไฟในการทำงานแบบล้นเหลือ หนุ่ม ๆ ควรหางานที่ชอบ แล้วตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ถ้าพบว่างานที่ทำอยู่ยังไม่ใช่ตัวเองก็รีบเปลี่ยนงานก่อนจะอายุเยอะเกิน เพราะถ้าอายุเกิน 30 แล้ว ต้องยอมรับว่าการหางานใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะหลายที่อยากได้เด็กใหม่ไฟแรงที่มีความสดใหม่ พร้อมเปิดรับทุกอย่างมากกว่า แม้ประสบการณ์จะเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันก็ตาม
ผ่านการอกหักมาแล้วบ้างทำไมถึงควรอกหักมาก่อนเหรอ ? เหตุผลก็เพราะคุณจะได้รับมือกับความเจ็บปวดได้ยังไงล่ะ อกหักครั้งแรกมันเจ็บลึกฝังใจนะ ใครไม่เคยโดนกับตัวไม่รู้หรอก ซึ่งถ้าผ่านการอกหักมาตั้งแต่วัยรุ่น คุณจะยังมีเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกันที่พร้อมให้คำปรึกษาและเข้าใจในสิ่งที่คุณรู้สึกมากที่สุด
ออกเดินทางไปเที่ยวตามลำพังสักครั้งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ไปจนถึงตอนปลาย คือช่วงเวลาที่หนุ่ม ๆ มีโอกาสออกเดินทางไปแสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตัวเอง ก่อนจะเริ่มชีวิตวัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว อยากเดินทางไปไหนก็ไป แล้วยิ่งไปคนเดียวด้วยนะ คุณจะมีเวลาอยู่กับตัวเองเต็มที่ ทบทวนในสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาและสิ่งที่จะทำในอนาคต ไปซะตอนที่ยังมีเรี่ยวแรงมากพอดีกว่าครับ
หัดทำในสิ่งที่ไม่เคยทำบางครั้งคนเราก็ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ (หรือไม่คิดว่าจะทำ) บ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้รู้ว่ามันเป็นยังไง เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นต้องใช้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ขับรถหรือว่ายน้ำ มีผู้ชายหลายคนที่อายุเกิน 30 แล้วยังขับรถและว่ายน้ำเอาตัวรอดไม่เป็น ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายหรอก แต่ถ้าเป็นมันก็ดีกว่าจริงไหม ?
ท้าทายตัวเองด้วยการลงแข่งขันกิจกรรมต่าง ๆ บ้างเมื่อเราก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว บางทีอาจไม่มีเวลาไปทำสิ่งที่สร้างความท้าทายให้กับตัวเองก็เป็นได้ ก็แหม ชีวิตคนเรามันต้องลองทำอะไรที่พิสูจน์ขีดจำกัดของตัวเองสักครั้ง เช่น ลงแข่งกีฬาหรือแข่งสร้างสิ่งประดิษฐ์ เป็นต้น
ลองไปเป็นอาสาสมัครทำเพื่อสังคมนอกจากจะเริ่มค้นหาตัวเองในช่วงวัยรุ่นแล้ว การได้ลองทำอะไรเพื่อสังคม นับเป็นประสบการณ์ที่ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะออกค่ายอาสาสมัครสร้างโรงเรียน ออกค่ายพัฒนาชุมชน หรือทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพราะประสบการณ์จากสิ่งเหล่านี้ ไม่สามารถหาได้ในที่ทำงานแน่นอน
เริ่มสร้างธุรกิจของตัวเองได้แล้วหลังจากทำงานมาได้สักระยะ สั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร บางทีคุณต้องลองเป็นนายตัวเองดูบ้าง อาจเริ่มจากธุรกิจเล็ก ๆ และเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เช่น ขายเสื้อผ้าออนไลน์ ทำขนมหรืออาหารขาย หรือร้านแนว Food truck ฯลฯ เพราะท้ายที่สุดแล้วคุณคงไม่อยากเป็นลูกน้องใครไปตลอดชีวิตหรอก
วางแผนอนาคตชีวิตตัวเองเมื่ออายุจะย่างเข้าวัย 30 ปีแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องคิดและวางแผนอนาคตแล้วว่า ชีวิตต่อจากนี้อีกสัก 5-10 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไง ทำอะไรอยู่ ซึ่งไม่เฉพาะแค่เรื่องงานอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนในครอบครัวและชีวิตคู่ด้วย ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับแผนนั้นซะทีเดียว เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงใดเข้ามาในชีวิตบ้าง
สนุกกับชีวิตให้เต็มที่ไม่ว่าแผนการชีวิตของแต่ละคนจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ทว่าท้ายที่สุดแล้ว จงอย่าลืมตักตวงความสุขช่วงเวลาในขณะนั้นให้เต็มที่ อนาคตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น อดีตเป็นบทเรียนที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นห้วงเวลาปัจจุบันจึงสำคัญที่สุด แค่ดื่มด่ำความสุขกับมันซะ !
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คงไม่ใช่สูตรตายตัวที่ผู้ชายวัยก่อน 30 ต้องทำให้ครบทุกข้อซะทีเดียว เพราะเราเข้าใจว่าเงื่อนไขชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสก็ลองดูนะ เชื่อว่าคุณจะได้อะไรกลับมาบ้างไม่มากก็น้อยครับ ;)
ข้อมูลจาก cavemag และ brocouncil
