ช่างภาพคนไหนใครที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากการถ่ายภาพบนบกมาถ่ายใต้น้ำบ้าง แต่กลัวว่าจะถ่ายยากเกินไปหรือกลัวอุปกรณ์ได้รับความเสียหายแล้วละก็ วันนี้เราได้รวบรวมเทคนิคการถ่ายภาพใต้น้ำให้สวยงามมาฝากกันแล้วครับ
เลือกถ่ายในน้ำที่ปลอดภัยและนิ่งการถ่ายภาพใต้น้ำให้ออกมาสวยงามตามต้องการ อาจดูเป็นเรื่องยาก หากเลือกถ่ายใต้ทะเลหรือแม่น้ำต่าง ๆ เพราะสถานที่เหล่านี้มักจะมีคลื่นหรือสัตว์ใต้น้ำคอยรบกวน รวมถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวต่าง ๆ ที่ไม่เอื้อสำหรับการถ่ายภาพ ดังนั้นตัวเลือกอย่างสระว่ายน้ำส่วนตัว คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เนื่องจากสภาพน้ำที่ค่อนข้างนิ่งและไม่มีสิ่งใด ๆ เป็นอุปสรรคนั่นเอง
เตรียมกล้องให้พร้อมควรจัดเตรียมกล้องและเคสกันน้ำสำหรับกล้องให้พร้อม เช็กอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อย ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์โดยไม่มีรอยรั่วหรือแตกหักใด ๆ เลย เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจได้รับความเสียหาย จนใช้งานไม่ได้และต้องยกเลิกการถ่ายภาพใต้น้ำในที่สุด แถมยังต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหม่อีกต่างหาก
ควรมีแสงสว่างมากพอช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเก็บภาพใต้น้ำที่สุด ควรเป็นช่วงบ่ายในวันที่แดดแรง เพราะแสงแดดสามารถส่องผ่านน้ำลงมาได้มากพอ โดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟ แต่หากว่าถ่ายในช่วงที่แสงแดดน้อย ก็ควรที่จะมีแสงไฟจากแหล่งอื่น ๆ เสริมด้วย และหากแฟลชติดกล้องให้แสงไม่มากพอ สามารถใช้แฟลชแยกที่ใส่เคสกันน้ำหรือสปอตไลท์ช่วยก็ได้
ถ่ายภาพแบบโคลสอัพการถ่ายภาพโคลสอัพใต้น้ำด้วยเลนส์มาโคร นอกจากจะเหมาะกับการถ่ายภาพแนวพอร์เทรตแล้ว ยังใช้เทคนิคดังกล่าวเก็บภาพสิ่งมีชีวิตใต้น้ำอย่างปลาและปะการังด้วย เพราะเมื่อใช้เลนส์มาโครโฟกัสวัตถุให้ใกล้เข้าไว้ ก็จะช่วยให้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพได้ครบถ้วนและชัดเจน แต่ถ้าไม่มีเลนส์มาโคร ควรจัดตำแหน่งของวัตถุหลักให้อยู่ในกรอบภาพทั้งหมด ก็ช่วยให้ภาพออกมาสวยได้เช่นกัน
อย่าใจร้อนการถ่ายภาพใต้น้ำให้ดูเป๊ะนั้นเป็นเรื่องยากพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อต้องถ่ายรูปคน เพราะว่าการโพสท่าต่าง ๆ ใต้น้ำ ทำได้ไม่ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งอาจจะทำให้ทั้งช่างภาพและคนที่เป็นแบบรู้สึกเบื่อ ฉะนั้นควรเตรียมใจไว้ให้พร้อมกับเวลาที่ต้องใช้ เนื่องจากแต่ละภาพอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน ไม่เพียงเท่านี้ ควรเปิดโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง เพื่อเก็บภาพหลายชอตในคราวเดียวไว้เผื่อเลือกด้วย
ใช้พร็อพต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ภาพพร็อพในที่นี้ สามารถเป็นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของแบบ ของเล่น และของใช้ต่าง ๆ เช่น หนังสือ ร่ม กีตาร์ หรือสิ่งใดก็ตามที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพได้มากขึ้น นอกจากนี้ การสร้างฟองอากาศใต้น้ำ ก็ช่วยให้ภาพดูน่าสนใจได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะใช้ปืนยิงฟองหรือหลอดพลาสติกก็ได้ครับ
ซ้อมถ่ายใต้น้ำก่อนถ่ายจริงการฝึกซ้อมถ่ายภาพใต้น้ำก่อนถ่ายจริง จะช่วยให้รู้ว่าควรจัดองค์ประกอบแบบไหนหรือถ่ายมุมไหนถึงจะได้ภาพที่สวยงามที่สุด ที่สำคัญ การฝึกซ้อมดังกล่าว ทำให้รู้ว่าช่างภาพและแบบสามารถทนอยู่ใต้น้ำได้นานแค่ไหน ซึ่งเป็นประโยชน์กับการบริหารเวลาสำหรับการเก็บภาพใต้น้ำในวันถ่ายจริง
ตั้งค่ากล้องให้เหมาะควรตั้งค่าเริ่มต้นให้กล้องสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำ ก่อนที่จะปรับตามความเหมาะสมเมื่อเห็นภาพที่ถ่ายได้ โดยให้ตั้งค่าความไวแสงให้ต่ำเข้าไว้ที่ ISO 100-200 เพราะหากค่า ISO สูงเกินไป ก็จะเกิด Noise หรือสัญญาณรบกวนมาก ต่อมาให้เปิดรูรับแสงไว้ระหว่าง f/8-16 ซึ่งจะช่วยให้ได้ภาพแนวหน้าชัดหลังเบลอ ขณะที่ White Balance และการโฟกัสควรเปิดทำงานแบบอัตโนมัติไว้ นอกจากนี้ ควรตั้งค่าคุณภาพของไฟล์ภาพไว้ที่ความละเอียดสูงสุดด้วย เพื่อไม่ให้รายละเอียดในภาพหายไป
ปรับความคมชัดของภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์หลังจากที่ลองถ่ายภาพใต้น้ำพอสมควรแล้ว ให้เช็กความคมชัดของภาพด้วยว่าถูกใจหรือเปล่า ซึ่งถ้ายังไม่โดนใจให้ลองปรับความเร็วชัตเตอร์ไว้ที่ 1/30 วินาที สำหรับเก็บวัตถุนิ่ง, 1/60 วินาที เพื่อถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนที่ช้า และ 1/125 วินาที สำหรับเก็บภาพวัตถุเคลื่อนที่เร็วอย่างสัตว์ใต้น้ำ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ภาพดูคมชัดมากขึ้นแล้ว
ตกแต่งภาพเพิ่มเติมหลังถ่ายเสร็จแน่นอนว่าการถ่ายภาพใต้น้ำ ย่อมทำให้ภาพไม่ชัดและเกิดความคลาดเคลื่อนของภาพพอสมควร รวมถึงเรื่องสีอาจจะเพี้ยนไปด้วย ดังนั้นการใช้โปรแกรมต่าง ๆ เช่น Photoshop หรือ Lightroom สำหรับตกแต่งภาพให้คมชัดและสวยงาม แถมยังเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ได้ตามต้องการด้วย
เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว ใครที่อยากได้ภาพใต้น้ำสวย ๆ แล้วละก็ ลองนำเทคนิคการถ่ายภาพใต้น้ำข้างต้นที่เรานำมาฝากไปใช้กันดูนะ รับรองว่าคุณจะได้รูปใต้น้ำสวย ๆ ได้ไม่แพ้ช่างภาพมือโปรแน่นอนครับ
ข้อมูลจาก nationalgeographic.com, uwphotographyguide.com, photojojo.com, petapixel.com
