.jpg "เมื่อฮาร์ท...มันเฮิร์ท")
เรื่อง นพ.ธิติพันธ์ ธานีรัตน์
ขอบคุณภาพประกอบจาก glitter.kapook.com
อาการเฮิร์ทอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางคนมีความรักที่สุดแสนโรแมนติก แต่ก็ต้องจบลงในระยะเวลาอันสั้น โดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่พร้อมให้จบ บางคนอยู่ในข่ายรักเขาข้างเดียว เพราะความมีไมตรีที่ได้รับตอบมา ไม่ใช่ความรักในแบบที่ต้องการ เมื่อถูกปฏิเสธหรือเมื่อรู้ว่าเขากำลังอินเลิฟกับคนอื่น อาการเฮิร์ทก็เกิดขึ้น
อย่าคิดนะครับว่าจะเกิดขึ้นเฉพาะแต่ในความรักฉันท์ชู้สาว แม้แต่กับเพื่อนสนิทของคุณ เวลาที่เขาเลิกคบคุณด้วยความโกรธหรือผิดใจกันจนกลายเป็นความห่างเหิน ก็ทำให้คุณใจสลายได้ไม่ต่างกัน บางคนให้ความสำคัญกับมิตรภาพของเพื่อนมากกว่าแฟนก็มี ถือเป็นเรื่องปกติครับที่ความรู้สึก "ขาด" คนที่มีความหมายในชีวิตของคุณนั้นย่อมนำมาซึ่งความทุกข์ใจ
คำพูดง่าย ๆ ที่ได้ยินกันบ่อย ๆ อย่าง "เอาน่า...เดี๋ยวเวลาก็ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นเองแหละ", "ให้เวลาหน่อยเดี๋ยวก็ลืม ๆ ไปเอง", "ใจเย็น ๆ เดี๋ยวก็ได้เจอคนที่ดีกว่า" ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวบ้างก็ไม่รู้หรอก นี่คือคำตอบที่มีอยู่ในใจ ในช่วงเวลานั้น คุณจะคิดว่าคงไม่มีโอกาสที่คุณจะกลับไปรู้สึกเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีความหมายเท่าที่เคยมี คุณรู้ดีว่าเวลาจะทำให้คุณดีขึ้น ถ้าคุณเข็มแข็งพอที่จะข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ ปัญหาอยู่ที่ "คุณจะผ่านช่วงเวลาที่ทรมานนี้ไปได้อย่างไร" จะข่มตาให้หลับในคืนที่ยาวนานเป็นสองเท่านี้ได้อย่างไร จะห้ามใจคุณไม่ให้คิดวกวนไปมา และหยุดซ้ำเติมใจที่บอบซ้ำของตัวคุณเองได้อย่างไร...ผมมีวิธีครับ
ยอมรับสิ่งที่เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะช่วยให้คุณดีขึ้นจากอาการใจสลายก็คือ คุณต้องยอมรับให้ได้ว่าความสัมพันธ์นั้นได้ยุติลงแล้ว และต้องบอกกับตัวเองว่าคุณจะก้าวไปข้างหน้า มองไปยังอนาคตข้างหน้า ผ่านเหตุการณ์นี้ไป ท่องไว้ในใจเลยว่า การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความพ่ายแพ้หรือความสิ้นหวัง ในทางตรงกันข้ามมันคือความกล้า ความเข้มแข็ง ในการที่จะยอมรับและเผชิญกับความเป็นจริง แทนที่จะบังคับให้คุณลืมสิ่งที่เกิดขึ้น คุณไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่จบไปแล้วได้ นั่นคือ "ความจริง"
ระบายออกมาคุณจะรู้สึกดีขึ้น ถ้าได้มีโอกาสระบายหรือแชร์เรื่องที่เกิดขึ้นกับคนที่คุณไว้ใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท ญาติพี่น้อง หรือคนที่คุณมั่นใจว่าเขาจะเข้าใจความรู้สึกหรือความทุกข์ใจที่คุณกำลังประสบอยู่ ถ้าคุณกำลังต่อสู้กับความเศร้าใจ หดหู่ ผิดหวัง การได้ระบายออกมาบ้างก็เท่ากับเป็นการลดทอนความรุนแรงของความเครียดนั้นออกไปได้ทางหนึ่ง
การเล่าความรู้สึก ความผิดหวัง ความเสียใจหรือแม้แต่การร้องไห้ อาจดูเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับหนุ่ม ๆ ที่อาจถูกมองว่าไม่แมน อย่ากังวลเลยครับ ไม่ใช่ว่าคุณจะต้องไปร้องไห้ที่โต๊ะทำงาน ในห้องเรียน หรือที่สนามกีฬาสักหน่อย นอนกอดหมอนร้องไห้ หรือปล่อยน้ำตาให้ไหลรวมไปกับฝักบัวตอนอาบน้ำ (ฟังดูเหมือนเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอ) ก็ช่วยได้นะครับ
พยายามดำเนินชีวิตตามปกติอาจเป็นเรื่องยากที่คุณจะทำตัวตามปกติได้ ใช้ชีวิตประจำวัน ทำงาน เล่นกีฬา พบปะเพื่อนฝูงในเวลาที่คุณกำลังรับมือกับความเสียใจและความเศร้า เชื่อเถอะครับว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตปกติและเป็นตัวของตัวเองได้เร็วขึ้น คุณมีหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน เรียนหนังสือ ลองนำความผิดหวังมาเป็นความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเองในชีวิตประจำวันให้ดีกว่าเดิมดีกว่า
อย่าละเลยสิ่งที่คุณเคยชอบทำเป็นประจำหรือเคยฝันว่าจะทำ แล้วใช้เวลาเหล่านั้นไปกับความเศร้าที่เข้าครอบงำ การออกไปดูหนัง ชมคอนเสิร์ต กีฬาท้าทายที่คุณชื่นชอบอยากลอง เรียนภาษาเพิ่มเติม ฝึกร้องเพลง หรือแม้แต่ช่วยงานการกุศลที่จะสร้างความภูมิใจให้กับตัวคุณเองว่า ในยามที่คุณมีปัญหาชีวิต คุณก็ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปและยังสามารถช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนมากกว่าคุณได้ด้วย
รักตัวเองสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมทำร้ายจิตใจของคุณ แต่ความเครียดและความทุกข์ใจก็ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพจิตของคุณ อย่าปล่อยให้มันพาลทำร้ายสุขภาพกายของคุณไปด้วย การพักผ่อนนอนหลับ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่คุณจำเป็น "ต้องทำ"
หลายคนคิดว่าไม่มีอะไรจะช่วยให้มีความสุขหรือกลับมาเป็นตัวของตัวเองอย่างเดิมได้อีก นอกจากใช้วิธีหันหน้าเข้าหาเหล้าหรือสารเสพติดอื่น บางคนปล่อยให้ความโกรธเกลียดเข้าครอบงำ เกิดความคิดอยากทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น คนที่เลือกเข้าหายาเสพติดหรือตัดตัวเองออกจากโลกภายนอก อาจเชื่อว่าจะทำให้ "ลม" หรือ "เย็นชา" กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเป็นทางออกที่ดีในการแก้ปัญหา แต่ทั้งหมดนี้คือทางเลือกของการปกปิดปัญหาไว้ต่างหาก
นอกจากจะไม่ได้เป็นวิธีการแก้ปัญหาอย่างถาวรแล้ว ยังจะเป็นการสร้างปัญหาอื่น ๆ ตามมาและยืดเวลาให้คุณจมอยู่กับความเจ็บปวดเสียใจยาวนานขึ้นไปอีก การสร้างปัญหาหนึ่งเพื่อหนีจากอีกปัญหาหนึ่งคงไม่ใช่ทางออกที่ดี ใช่ไหมครับ
ยังมีคนที่รักคุณชีวิตคุณไม่ได้อยู่ลำพังเพียงคนเดียว ยังมีคนรอบข้างในชีวิตคุณอีกมากมายที่ยังรักและปรารถนาดีต่อคุณ พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติสนิท เพื่อนฝูง หรือแม้แต่เจ้าตูบ เจ้าเหมียว ที่ไม่เคยเอาใจออกห่างจากคุณ ลองเปิดใจให้กว้าง ให้ความสำคัญและอย่ามองข้ามคุณค่าความรักที่คุณ "มี" มาตลอดจนคุณเห็นเป็นเรื่องธรรมดา คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ อย่าขังตัวเองอยู่ในใจของตัวเองนะครับ
ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญความสุข...มาเร็วไปเร็ว ความเศร้า...มาเร็วแต่ไปช้ากว่า น่าจะเป็นเรื่องจริง ดังนั้น คุณต้องให้เวลาจิตใจของมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ มันจะเยียวยา เมื่อระยะเวลาหนึ่งผ่านไป จะช้าหรือเร็ว นอกเหนือจากสาเหตุแล้ว ยังขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพหรือลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคล บางคนอาจใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน บางคนอาจเป็นสัปดาห์ ในขณะที่บางคนใช้เวลาเป็นเดือน บางครั้งความเศร้าเสียใจที่เกิดจากการยุติความสัมพันธ์อาจฝังรากลึกมาก ๆ ในใจ
สำหรับคนที่ยังรู้สึกแย่เหมือนเดิมหลังจาก 2 - 3 อาทิตย์ผ่านไป มีภาวะจิตใจหดหู่ ซึมเศร้า การขอคำแนะนำจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตคุณดีขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ในขณะที่คุณกำลังใช้เวลากับวิธีต่าง ๆ ช่วยเหลือสภาพจิตใจของคุณจากปัญหา อย่าหมดความหวัง หรือคาดการณ์ล่วงหน้าไปว่าความสัมพันธ์ข้างหน้า (ถ้ามี) คงจะจบลงแบบเดียวกันอีก นำประสบการณ์ที่คุณเรียนรู้และแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในอดีต มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในอนาคต คนใหม่ที่คุณจะเจอในวันข้างหน้า ไม่ใช่คนที่คุณเคยเจอมา อย่าเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ด้วยความคิดที่มาร์กไว้ในใจว่า "เดี๋ยวก็จะเป็นอีหรอบเดิม" ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ
