เปิดโปง 7 วิธีที่แฮกเกอร์มักชอบใช้ในการขโมยตัวตนบนโลกโซเชียล พร้อมวิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากแฮกเกอร์
1. สืบข้อมูลส่วนตัว
อย่างแรกเลยที่แฮกเกอร์มักจะกระทำก็คือการสืบและเก็บข้อมูลส่วนตัวของเราจากโปรไฟล์บนโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ ยิ่งเราแชร์ข้อมูลส่วนตัวแบบสาธารณะไว้มากเท่าไร แฮกเกอร์ก็จะยิ่งสืบรู้ข้อมูลของเราไปได้มากเท่านั้น ถ้าไม่อยากให้แฮกเกอร์รู้ข้อมูลส่วนตัวของเราก็ให้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เห็นได้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น
แฮกเกอร์อาจจะแอปฯ
และบริการเสริมต่าง ๆ ที่ฝังมัลแวร์เอาไว้ โดยมันจะขโมยข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ
ที่อยู่ในโปรไฟล์ของผู้ใช้แล้วส่งไปให้แฮกเกอร์
ซึ่งมันสามารถขโมยได้แม้ว่าเราจะไม่ตั้งค่าเป็นสาธารณะก็ตาม
วิธีป้องกันก็คือให้พิจารณาให้ดีก่อนติดตั้งแอปฯ ใด ๆ
ว่ามันต้องการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเรามากเกินความจำเป็นหรือไม่
3. มัลแวร์ที่แฝงมากับลิงก์
อีกหนึ่งช่องทางในการแพร่มัลแวร์ของแฮกเกอร์ก็คือจะมาในรูปแบบของลิงก์ ทั้งลิงก์ที่โพสต์บนโซเชียล หรือส่งมาทางอีเมล ซึ่งมักปลอมตัวให้เหมือนกับเพจหรือแบรนด์เป็นทางการส่งมา เพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อแล้วคลิกลิงก์ แต่ถ้าหากเราพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจคลิกลิงก์ก็จะช่วยให้เราไม่หลงกลลวงของลิงก์อันตรายเหล่านี้
4. ใช้บัญชีเพื่อนส่งลิงก์มา
5. พิกัดที่แท็กในรูปถ่าย
รูปถ่ายที่ถ่ายด้วยมือปัจจุบันจะมีสิ่งที่เรียกว่า Geotag อยู่ ซึ่งบางครั้งเวลาเราโพสต์บนโซเชียลมันก็อาจแท็กสถานที่ที่ถ่ายรูปนั้นให้อัตโนมัติ และถ้าหากเราถ่ายรูปนั้นที่บ้าน แฮกเกอร์ก็จะสามารถมาส่องแล้วรู้ได้เลยว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้นควรดูให้ดูเวลาโพสต์รูปถ่าย ว่าเราถ่ายไว้ที่ไหน และควรแท็กเฉพาะตอนถ่ายในที่สาธารณะเท่านั้น
6. สืบจากข้อมูลที่เราลบไปแล้ว
7. เข้ามาแอดเราเป็นเพื่อนเลย
ถึงแม้เราจะตั้งค่าให้ข้อมูลส่วนตัวเราเห็นได้เฉพาะเพื่อนแล้ว แต่แฮกเกอร์ก็อาจใช้วิธีเข้ามาแอดเราเป็นเพื่อนเลย และถ้าหากเราเป็นคนที่รับแอดง่ายโดยไม่พิจารณาดูให้ดีก่อน แฮกเกอร์ก็จะสามารถเข้ามาส่องข้อมูลของเราได้อย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้นเราจึงควรส่องดูให้ดีเสียก่อนว่าคนนั้นเป็นใครมาจากไหน ไว้ใจได้หรือไม่ ก่อนที่จะรับแอด
ข้อมูลจาก makeuseof
ภัยคุกคามในโลกออนไลน์นั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรประมาท โดยเฉพาะบนโลกโซเชียลที่แฮกเกอร์สามารถสืบข้อมูลส่วนตัวเรา เพื่อขโมยความเป็นตัวตนของเราไปใช้ทำสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ รวมทั้งการลับลอบทำธุรกรรมแทนตัวเรา เพราะฉะนั้นเราจึงควรระมัดระวังในการแชร์ข้อมูลต่าง ๆ บนโซเชียลไว้ให้มาก วันนี้เราก็เลยนำวิธีที่แฮกเกอร์มักชอบใช้ในการขโมยข้อมูลส่วนตัวของเรามาเปิดโปงให้อ่านกัน เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันและป้องกันตัวเองได้อย่างถูกวิธี
อย่างแรกเลยที่แฮกเกอร์มักจะกระทำก็คือการสืบและเก็บข้อมูลส่วนตัวของเราจากโปรไฟล์บนโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ ยิ่งเราแชร์ข้อมูลส่วนตัวแบบสาธารณะไว้มากเท่าไร แฮกเกอร์ก็จะยิ่งสืบรู้ข้อมูลของเราไปได้มากเท่านั้น ถ้าไม่อยากให้แฮกเกอร์รู้ข้อมูลส่วนตัวของเราก็ให้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เห็นได้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น
2. ขโมยข้อมูลจากการติดตั้งแอปฯ
3. มัลแวร์ที่แฝงมากับลิงก์
อีกหนึ่งช่องทางในการแพร่มัลแวร์ของแฮกเกอร์ก็คือจะมาในรูปแบบของลิงก์ ทั้งลิงก์ที่โพสต์บนโซเชียล หรือส่งมาทางอีเมล ซึ่งมักปลอมตัวให้เหมือนกับเพจหรือแบรนด์เป็นทางการส่งมา เพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อแล้วคลิกลิงก์ แต่ถ้าหากเราพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจคลิกลิงก์ก็จะช่วยให้เราไม่หลงกลลวงของลิงก์อันตรายเหล่านี้
4. ใช้บัญชีเพื่อนส่งลิงก์มา
คนเรามักจะไว้ใจเพื่อนของตัวเอง
แต่ในบางครั้งบัญชีโซเชียลของเพื่อนเราก็อาจถูกแฮกเกอร์ขโมยเพื่อมาใช้ส่งลิงก์สแปมให้เพื่อนคนอื่น
ๆ รวมทั้งทั้งได้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าหากเราได้รับลิงก์แปลก ๆ
จากเพื่อนโดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นลิงก์อะไรก็ไม่ควรคลิก
ซึ่งในบางครั้งอาจมีข้อความเชิญชวนให้คลิกส่งมาพร้อมลิงก์ด้วย
แต่ถ้าสังเกตเราก็น่าจะรู้สึกได้ว่านั่นไม่เหมือนเพื่อนเรา ก็อย่าคลิก
แล้วไปบอกเพื่อนเราที่เป็นเจ้าของบัญชีให้รู้ตัวว่าโดนแฮกแล้วล่ะ
5. พิกัดที่แท็กในรูปถ่าย
รูปถ่ายที่ถ่ายด้วยมือปัจจุบันจะมีสิ่งที่เรียกว่า Geotag อยู่ ซึ่งบางครั้งเวลาเราโพสต์บนโซเชียลมันก็อาจแท็กสถานที่ที่ถ่ายรูปนั้นให้อัตโนมัติ และถ้าหากเราถ่ายรูปนั้นที่บ้าน แฮกเกอร์ก็จะสามารถมาส่องแล้วรู้ได้เลยว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้นควรดูให้ดูเวลาโพสต์รูปถ่าย ว่าเราถ่ายไว้ที่ไหน และควรแท็กเฉพาะตอนถ่ายในที่สาธารณะเท่านั้น
6. สืบจากข้อมูลที่เราลบไปแล้ว
อะไรก็ตามที่อยู่บนโลกออนไลน์ล้วนลบออกยาก
ถึงแม้เราจะลบออกไปแล้ว
แต่มันก็ยังมีบางเว็บไซต์ที่เก็บข้อมูลย้อนหลังเอาไว้อยู่และเราไม่สามารถลบมันได้
ซึ่งแฮกเกอร์จะสามารถเข้าไปสืบจากเว็บเหล่านั้นได้
สำหรับวิธีป้องกันที่ดีที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ก็คือ
คิดให้ดีก่อนแชร์ข้อมูลอะไรบนโลกออนไลน์
เพราะมันอาจจะคงอยู่ถาวรโดยที่เราไม่สามารถลบมันออกไปได้ตลอดกาล
7. เข้ามาแอดเราเป็นเพื่อนเลย
ถึงแม้เราจะตั้งค่าให้ข้อมูลส่วนตัวเราเห็นได้เฉพาะเพื่อนแล้ว แต่แฮกเกอร์ก็อาจใช้วิธีเข้ามาแอดเราเป็นเพื่อนเลย และถ้าหากเราเป็นคนที่รับแอดง่ายโดยไม่พิจารณาดูให้ดีก่อน แฮกเกอร์ก็จะสามารถเข้ามาส่องข้อมูลของเราได้อย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้นเราจึงควรส่องดูให้ดีเสียก่อนว่าคนนั้นเป็นใครมาจากไหน ไว้ใจได้หรือไม่ ก่อนที่จะรับแอด
ข้อมูลจาก makeuseof