10 เหตุผล เพราะอะไรทำไมหลายคนถึงไม่ชอบใช้หูฟังไร้สาย และเลือกที่จะใช้หูฟังแบบมีสายกันมากกว่า
1. คุณภาพเสียงด้อยกว่า
โดยทั่วไปแล้ว หูฟังไร้สายส่วนใหญ่จะมีคุณภาพเสียงที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับหูฟังแบบมีสายที่มีราคาใกล้เคียงกัน หรือถ้าหากเทียบหูฟังไร้สายกับหูฟังมีสายที่มีคุณภาพเสียงอยู่ในระดับเดียวกันแล้ว แบบมีสายจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก
2. ตัวเลือกน้อยกว่า
ถึงแม้หูฟังไร้สายจะมีให้เลือกหลากหลายรุ่น แต่ยังถือว่าน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับหูฟังแบบมีสายที่มีให้เลือกตั้งแต่ราคาถูกหลักสิบบาทไปจนถึงราคาหลายหมื่นบาทสำหรับกลุ่ม Audiophile ซึ่งแพงกว่าหูฟังไร้สายรุ่นที่แพงที่สุดอยู่มากเลยทีเดียว
3. ตกรุ่นเร็วกว่า
หูฟังไร้สายนั้นนอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังใช้ได้ไม่นานเท่าหูฟังแบบมีสายอีกด้วย เพราะมีฟีเจอร์และระบบที่ซับซ้อนกว่า มีโอกาสเสียหายได้มากกว่า รวมทั้งแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน อีกทั้งฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างที่มีการพัฒนาเรื่อย ๆ ทำให้รุ่นเก่าตกรุ่นไว แต่สำหรับหูฟังมีสายนั้นสามารถใช้ได้ยาวนานจนลืม บางรุ่นออกมาเป็นสิบปีแล้วก็ยังเป็นหูฟังที่ดีเยี่ยมในปัจจุบันได้อยู่
4. ซ่อมยากกว่า
หูฟังแบบมีสายนั้นเมื่อเสียก็สามารถซ่อมได้ง่ายกว่า ถ้าหากซ่อมเองไม่ได้ก็สามารถหาคนซ่อมให้ไม่ยาก และค่าซ่อมไม่แพง แต่ถ้าหูฟังไร้สายเสียจะซ่อมได้ยากกว่า แถมยังต้องเสียค่าซ่อมที่แพงกว่าด้วย
5. ต้องชาร์จแบตเตอรี่
หนึ่งในความน่ารำคาญของหูฟังไร้สายคือต้องชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งนอกจากจะต้องชาร์จมือถือแล้วยังจะต้องมาชาร์จหูฟังอีก ถ้าลืมชาร์จแล้วแบตเตอรี่หมดขณะอยู่นอกบ้านก็ใช้ไม่ได้ และยิ่งถ้าหากหูฟังใช้พอร์ตชาร์จต่างจากมือถือแล้วก็คงจะเพิ่มความยุ่งยากเข้าไปอีก
6. หูฟังมีสายก็ทำเป็นไร้สายได้
มีตัวแปลงที่เป็น Bluetooth Receiver ซึ่งสามารถแปลงหูฟังมีสายให้กลายเป็นหูฟังไร้สายได้ ทำให้สามารถใช้หูฟังมีสายทุกรุ่นในแบบไร้สายได้ และแน่นอนว่าสามารถใช้กับมือถือที่ไม่มีช่องหูฟังได้ด้วย
7. ใช้กับหลายอุปกรณ์พร้อมกันไม่ได้
หูฟังไร้สายส่วนใหญ่มักเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้พร้อมกันไม่เกิน 2 อุปกรณ์ ถ้าจะเอาไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมก็ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อใหม่อีก ต่างจากหูฟังแบบมีสายที่เพียงแค่ถอดแล้วไปเสียบกับอีกอุปกรณ์หนึ่งก็สามารถใช้งานได้ทันที
8. ใช้หูฟังพร้อมกันหลายอันไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก็สามารถเชื่อมต่อหูฟังไร้สายได้ครั้งละอันเดียวเท่านั้น แต่สำหรับหูฟังมีสายนั้นเพียงแค่ซื้อตัว Splitter มาต่อก็สามารถใช้หูฟังพร้อมกันสองอันได้ จะแบ่งกันฟังกับเพื่อนหรือแฟนก็ทำได้ตามสะดวก
9. การดีเลย์ของเสียง
หูฟังไร้สายจะมีการดีเลย์ของเสียงมากกว่าหูฟังแบบไร้สาย ซึ่งอาจไม่มีผลมากนักสำหรับการฟังเพลงหรือดูหนังทั่วไป แต่สำหรับการเล่นเกมหรือการใช้งานด้านผลิตเสียงเพลงแล้ว ก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่โอเคและหงุดหงิดกับมันได้เหมือนกัน
10. สุดท้ายก็ต้องพึ่งหูฟังมีสายด้วยอยู่ดี
เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ซื้อหูฟังไร้สายมาใช้แล้ว ก็ยังต้องซื้อหูฟังแบบมีสายมาใช้ด้วยอยู่ดี อาจจะเอาไว้ใช้สำรองเวลาหูฟังไร้สายแบตเตอรี่หมดหรือมีปัญหา หรือในบางครั้งก็ขี้เกียจชาร์จแบตเตอรี่ เสียบสายเอาสะดวกกว่า และแน่นอนว่าการที่ต้องซื้อหูฟังสองอันก็ทำให้เปลืองเงินมากกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าในยุคนี้หูฟังไร้สายจะเริ่มแพร่หลาย มีคนซื้อมาใช้กันมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเลือกที่จะใช้หูฟังแบบมีสายมากกว่า ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ ไม่เคยคิดอยากซื้อหูฟังไร้สายมาใช้แม้ว่าจะสะดวกกว่าและไม่มีสายเกะกะก็ตาม สงสัยกันล่ะสิว่าเพราะอะไร... วันนี้เราจะมาอธิบายให้หายสงสัยกันว่าเพราะอะไรทำไมหลายคนถึงไม่ชอบใช้หูฟังไร้สาย ถ้าอยากรู้ก็ไปดูกันเลย
โดยทั่วไปแล้ว หูฟังไร้สายส่วนใหญ่จะมีคุณภาพเสียงที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับหูฟังแบบมีสายที่มีราคาใกล้เคียงกัน หรือถ้าหากเทียบหูฟังไร้สายกับหูฟังมีสายที่มีคุณภาพเสียงอยู่ในระดับเดียวกันแล้ว แบบมีสายจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก
2. ตัวเลือกน้อยกว่า
ถึงแม้หูฟังไร้สายจะมีให้เลือกหลากหลายรุ่น แต่ยังถือว่าน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับหูฟังแบบมีสายที่มีให้เลือกตั้งแต่ราคาถูกหลักสิบบาทไปจนถึงราคาหลายหมื่นบาทสำหรับกลุ่ม Audiophile ซึ่งแพงกว่าหูฟังไร้สายรุ่นที่แพงที่สุดอยู่มากเลยทีเดียว
หูฟังไร้สายนั้นนอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังใช้ได้ไม่นานเท่าหูฟังแบบมีสายอีกด้วย เพราะมีฟีเจอร์และระบบที่ซับซ้อนกว่า มีโอกาสเสียหายได้มากกว่า รวมทั้งแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน อีกทั้งฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างที่มีการพัฒนาเรื่อย ๆ ทำให้รุ่นเก่าตกรุ่นไว แต่สำหรับหูฟังมีสายนั้นสามารถใช้ได้ยาวนานจนลืม บางรุ่นออกมาเป็นสิบปีแล้วก็ยังเป็นหูฟังที่ดีเยี่ยมในปัจจุบันได้อยู่
4. ซ่อมยากกว่า
หูฟังแบบมีสายนั้นเมื่อเสียก็สามารถซ่อมได้ง่ายกว่า ถ้าหากซ่อมเองไม่ได้ก็สามารถหาคนซ่อมให้ไม่ยาก และค่าซ่อมไม่แพง แต่ถ้าหูฟังไร้สายเสียจะซ่อมได้ยากกว่า แถมยังต้องเสียค่าซ่อมที่แพงกว่าด้วย
5. ต้องชาร์จแบตเตอรี่
หนึ่งในความน่ารำคาญของหูฟังไร้สายคือต้องชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งนอกจากจะต้องชาร์จมือถือแล้วยังจะต้องมาชาร์จหูฟังอีก ถ้าลืมชาร์จแล้วแบตเตอรี่หมดขณะอยู่นอกบ้านก็ใช้ไม่ได้ และยิ่งถ้าหากหูฟังใช้พอร์ตชาร์จต่างจากมือถือแล้วก็คงจะเพิ่มความยุ่งยากเข้าไปอีก
6. หูฟังมีสายก็ทำเป็นไร้สายได้
มีตัวแปลงที่เป็น Bluetooth Receiver ซึ่งสามารถแปลงหูฟังมีสายให้กลายเป็นหูฟังไร้สายได้ ทำให้สามารถใช้หูฟังมีสายทุกรุ่นในแบบไร้สายได้ และแน่นอนว่าสามารถใช้กับมือถือที่ไม่มีช่องหูฟังได้ด้วย
7. ใช้กับหลายอุปกรณ์พร้อมกันไม่ได้
หูฟังไร้สายส่วนใหญ่มักเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้พร้อมกันไม่เกิน 2 อุปกรณ์ ถ้าจะเอาไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมก็ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อใหม่อีก ต่างจากหูฟังแบบมีสายที่เพียงแค่ถอดแล้วไปเสียบกับอีกอุปกรณ์หนึ่งก็สามารถใช้งานได้ทันที
8. ใช้หูฟังพร้อมกันหลายอันไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก็สามารถเชื่อมต่อหูฟังไร้สายได้ครั้งละอันเดียวเท่านั้น แต่สำหรับหูฟังมีสายนั้นเพียงแค่ซื้อตัว Splitter มาต่อก็สามารถใช้หูฟังพร้อมกันสองอันได้ จะแบ่งกันฟังกับเพื่อนหรือแฟนก็ทำได้ตามสะดวก
9. การดีเลย์ของเสียง
หูฟังไร้สายจะมีการดีเลย์ของเสียงมากกว่าหูฟังแบบไร้สาย ซึ่งอาจไม่มีผลมากนักสำหรับการฟังเพลงหรือดูหนังทั่วไป แต่สำหรับการเล่นเกมหรือการใช้งานด้านผลิตเสียงเพลงแล้ว ก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่โอเคและหงุดหงิดกับมันได้เหมือนกัน
10. สุดท้ายก็ต้องพึ่งหูฟังมีสายด้วยอยู่ดี
เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ซื้อหูฟังไร้สายมาใช้แล้ว ก็ยังต้องซื้อหูฟังแบบมีสายมาใช้ด้วยอยู่ดี อาจจะเอาไว้ใช้สำรองเวลาหูฟังไร้สายแบตเตอรี่หมดหรือมีปัญหา หรือในบางครั้งก็ขี้เกียจชาร์จแบตเตอรี่ เสียบสายเอาสะดวกกว่า และแน่นอนว่าการที่ต้องซื้อหูฟังสองอันก็ทำให้เปลืองเงินมากกว่าเดิม
ข้อมูลจาก thenextweb