x close

เปลี่ยนบิ๊กแพคเป็นซิกแพคใน 1 ปี เรื่องจริงจากอดีตหนุ่มร่างยักษ์

วิธีลดน้ำหนัก
เปลี่ยนบิ๊กแพคเป็นซิกแพคใน 1 ปี เรื่องจริงจากอดีตหนุ่มร่างยักษ์

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Metrolife สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ น้ำหนักตัวเกินร้อย จะกลับมามีรูปร่างสมส่วน แถมมีซิกแพคและกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เพราะแค่คิดจะลดน้ำหนักก็เหนื่อยแล้ว นับประสาอะไรกับการเปลี่ยนไขมันย้วย ๆ ให้กลายเป็นกล้ามเนื้อ

           แต่หากได้ลองอ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงของ คุณปู อดีตหนุ่มร่างยักษ์ น้ำหนัก 130 กิโลกรัม ที่เขามาตั้งกระทู้ "รีวิว Before & After จาก 130 สู่ 83 KG เปลี่ยน Big pack เป็น Six Pack ใน 1 ปี !" บนเว็บไซต์พันทิปดอทคอมแล้วล่ะก็ บางทีมันอาจทำให้คุณลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าก็ได้ เอาเป็นว่าตอนนี้เราลองไปอ่านเรื่องของคุณปูเลยดีกว่าครับ

           สิ่งที่ทุก ๆ ท่านกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้ อาจจะยาวหน่อยนะครับ เพราะมันคือ 1 ปีแห่งความพยายามอย่างยิ่งยวดของผู้ชายคนนึง ที่เป็นคนที่ทำอะไรก็แทบจะไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย แต่มันก็เป็น 1 ปีที่ทำให้คนคนนึงเปลี่ยนไปชนิดว่าหน้ามือเป็นหลังเท้าเลย ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ^^

           ผมชื่อปู อายุ 26 ปี วัยทำงานครับ ชีวิตประจำวันก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรมาก ตื่นเช้า เช็กร้านขายของในเกม ลงมาหาข้าวกิน ขึ้นไปเล่นเกมต่อ 7 โมงอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เลิกงานก็รีบกลับมาเฝ้าเกม บางครั้งก็เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงบ้าง ไปเที่ยวกับแฟนบ้าง ไปตกปลาบ้าง ตามประสาหนุ่มออฟฟิศทั่วไป

วิธีลดน้ำหนัก
ผมใช้ชีวิตเน่า ๆ แบบนั้นมาประมาณสิบกว่าปี สถิติน้ำหนักสูงสุดคือ 130 กิโลกรัม ตามรูปเลยครับ ถ่ายเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2556

วิธีลดน้ำหนัก

           ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมอ้วน อาจเป็นเพราะสมัยเรียนผมเรียนคณะคหกรรมด้วย จึงมีโอกาสได้กินแทบตลอดเวลาที่เรียน ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เป็นอะไรที่เพิ่มน้ำหนักได้ดีมากครับ ใครอยากเพิ่มน้ำหนัก ลองเรียนคณะคหกรรม เอกอาหารดูนะครับ รับรองว่าได้กินทั้งวันแน่ ๆ

วิธีลดน้ำหนัก

           สิ่งที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปคือ มรสุมชีวิตช่วงอายุ 25 ปี ที่จริงผมไม่มีความเชื่อเรื่องเบญจเพศอะไรนะครับ แม้กระทั่งตอนนี้ผมคิดว่ามันก็แค่ช่วงที่ปัญหาหลาย ๆ อย่างถาโถมเข้ามาพร้อมกันเท่านั้นเอง

           ปัญหาที่อึ้งมาก ๆ เลยคือ ผมไปสมัครงาน (ไม่ขอบอกนะครับ บริษัทไหน) ทุกอย่างราบรื่นดี คะแนนความสามารถผ่าน คะแนนสอบสัมภาษณ์ผ่าน แต่ผมไมได้งานทำ เพราะคนสัมภาษณ์เค้าบอกว่า "ผมน้ำหนักเกิน" งงสิครับ ตำแหน่งที่ผมไปสมัครนั้นไม่ใช่แอร์โฮสเตส ไม่ใช่ฝ่ายเซอร์วิส ไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องเจรจาพูดคุยกับลูกค้าเลย เขาบอกว่าเขาต้องการพนักงานที่มีความคล่องแคล่ว มีความคล่องตัวสูง และสุขภาพดี ผมเลยเดินคอตกออกจากบริษัทนั้น โดยระหว่างทางก็คิดอยู่ในใจว่า การที่ผมอ้วนนี่มันผิดมากเลยเหรอ ?

           ยังครับ ปัญหายังไม่หมดแค่นั้น...จากน้ำหนักที่มากถึง 130 กิโลกรัม ปัญหาสุขภาพเริ่มถามหา เหนื่อยง่ายมาก เดินขึ้นไปส่งงานชั้น 2 นี่ ต้องเอามือเกาะราวบันไดเลยครับ แต่ที่หนักที่สุดคือ ผมหน้ามืด วูบไปเฉย ๆ เลย ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าผมมีความดันสูงและไขมันเลือดก็สูงด้วย มีความเสี่ยงจะเป็นโรคนั่นโรคนี้ ตอนนั้นบอกได้เลยครับ มันอึดอัดมาก เดินไปร้านค้าข้าง ๆ ออฟฟิศผมยังไม่อยากไปเลย เหนื่อยมาก ไปไหนก็เหมือนสังคมรังเกียจ กลิ่นตัวแรง คอเป็นพังพืดดำ ๆ ขึ้นรถเมล์หรือ BTS นี่ผมไม่นั่งเลย ยืนประจำ เพราะเวลาไปนั่งตรงไหน บางครั้ง คนที่นั่งก่อนหน้าจะลุกไปยืนเลย ผมเข้าใจนะครับ คือตอนผมอ้วนมาก ๆ เหงื่อนี่จะออกแทบตลอดเวลา เวลาไปนั่งข้าง ๆ ใคร ก็กังวลเรื่องกลิ่นตัว บางครั้งเหงื่อไปโดนเขาอีก เบาะก็นั่งแล้วล้นไปกินที่คนอื่น บางคนเอามือมาปิดจมูก มันเลยทำให้เป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าไปที่สาธารณะ

แล้ววันนั้นก็มาถึงครับ วันที่มันเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย...

           วันที่ 18 สิงหาคม 2556 หลังจากที่เจอปัญหาหนัก ๆ ติดกันมาหลายวันผมก็ได้แต่เครียด ครุ่นคิดคิดอยู่จนเกือบเช้า ก็หลับไป ตื่นมาอีกที ก็ช่วงสาย ๆ ผมมีอาการชาที่ปลายมือปลายเท้า พอลุกมานั่งก็มีอาการปวดหัว แน่นหน้าอกด้วย หายใจไม่ค่อยออก คือตอนนั้นผมรู้เลย ว่าความตายมันใกล้นิดเดียว  มันทรมานมาก กว่าจะลงมาจากเตียงได้จนผมลงมานั่งกองอยู่กับพื้น น้องที่อยู่บ้านเดียวกันได้ยินเสียงผมตกจากเตียงก็วิ่งขึ้นมาดูแล้วพาผมไปหาหมอ

           ตอนนั้นผมคิดได้แล้วว่า ผมต้องเปลี่ยนตัวเองแล้ว ผมอยากเกิดใหม่ ผมอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว แฟนก็ทิ้ง งานก็ไม่รุ่ง และทันใดนั้นเอง ผมก็นึงถึงเพื่อนผมคนนี้ครับ

           พี่บิ๊กเป็นคนที่ผอมมากกกกกกกก มาก่อน สูง 180 กว่า หนักไม่ถึง 60 กิโลกรัม แต่ 4 ปีหลัง เขาไปเล่นเวท เข้าฟิตเนส 4 ปีผ่านไป สภาพเขาก็กลายเป็นแบบนี้ครับ

วิธีลดน้ำหนัก

           เอาล่ะ หลังจากที่ได้ครูแล้ว ก็ต้องมีสถานที่ที่จะทำการลดน้ำหนักครับ ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ที่บ้านผมอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเทศบาลท่าโขลง ซึ่งตรงนี้แหละ เค้ามีโครงการ ที่ต้องการให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี โดยสามารถไปทำบัตรสุขภาพดี เพื่อเข้าใช้บริการ ฟิตเนสของมหาวิทยาลัยได้ฟรี รวมทั้งสระว่ายน้ำก็ ฟรี !!!

           ยังครับ ยังไม่พอ พี่บิ๊กเอง เป็นสมาชิกฟิตเนสเฟิร์สมา 4ปีแล้วทุกวันเสาร์-อาทิตย์สามารถพาเกสต์เข้าฟรีได้ 1 คน งานนี้ผมไม่รอช้า  ว่าแล้วก็ไปคุยกับพี่บิ๊กเรื่องนี้ ผมตั้งเป้าว่าใน 1 ปี ผมอยากเห็นน้ำหนักผมอยู่ที่เลข 7 และอยากมีซิคแพค นั่นหมายถึงผมตองลดให้ได้มากกว่า 50 กิโลกรัมใน 1 ปีเลยทีเดียว 


วิธีลดน้ำหนัก

           วันแรกก็แทบจะท้อซะแล้ว พี่บิ๊กเห็นท่าไม่ดี จึงแนะนำวิธีหลักๆให้ โดยแนะวิธีคือ ให้กินอาหารคลีน คาร์ดิโอให้หนัก เวทยังไม่ต้องอัดหนักมาก ให้ร่างกายปรับสภาพได้ก่อน แล้วค่อยเล่น

วิธีลดน้ำหนัก
อาหารคลีนมื้อแรก ๆ


วิธีลดน้ำหนัก
ลู่วิ่งส่วนตัวครับ

           คาร์ดิโอครั้งแรกของผม เป็นการวิ่ง ตั้งเป้าไว้ว่าไป-กลับปากซอย 2 กิโลเมตร ตอนเด็กวิ่งประจำ น่าจะไหว แต่วิ่งไปได้ 300เมตร เหงื่อท่วมตัว น้ำลายเหนียว จุกเสียดที่กระบังลม จนผมล้มลง ล้มลงทั้งน้ำตา ว่าเราจะเป็นผู้แพ้แบบนี้ตลอดชีวิตเลยเหรอ ?

           สรุปคือ พรุ่งนี้เปลี่ยนเป็น ว่ายน้ำ เพื่อรักษาเข่ากับข้อเท้าด้วย

           โอ้ย ! เรื่องว่ายน้ำ เรื่องจิ๊บ ๆ สมัยเด็กผมนี่ว่ายไปเกาะทุ่นกลางทะเลมาแล้ว 1 กิโลเมตร แค่นี้สบาย...แต่แล้วไม่น่าเชื่อครับ จากการที่หนัก 130 กิโลกรัม ทำให้ผมว่ายไม่ถึงอีกฝั่งของสระว่ายน้ำ ว่ายได้ครึ่งสระ ต้องต๋อมแต๋ม ๆท่าลูกหมาตกน้ำเข้าฝั่ง ตอนนั้นก็โมโหตัวเองนะ ไอ้นั้นก็ไม่ไหว ไอ้นี่ก็ไมได้ จะทำสำเร็จมั้ยเนี่ย

           วันต่อมา เปลี่ยนเป็นปั่นจักรยานครับ เออ...ใช้ได้ จากนั้นก็ปั่นจักรยานวันละ 30 นาที ค่อย ๆ เพิ่มจนมาเป็น 1 ชั่วโมง ทำอยู่ประมาณเดือนกว่า เฮ้ย ! น้ำหนักลง 5 กิโลกรัม เหลือ 125 กิโลกรัม คราวนี้กำลังใจมาเพียบเลย

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก
อาหารคลีนที่กินครับ

           พอถึงเดือนที่สอง พี่บิ๊กบอกว่าร่างกายน่าจะโอเคแล้ว ก็มีสอนเล่นเวท ช่วงนี้ฟูลบอดี้เวทครับ เล่นทุกส่วนใน 1 วัน แต่ไม่หนักเป้าหมายเพื่อเตรียมกล้ามเนื้อสำหรับที่จะจัดหนัก ซึ่งพอมาเดือนที่สองนี่ ผมว่ายน้ำได้แล้วครับ สลับกับปั่นจักรยานไปด้วย ช่วงนี้ ผมว่ายน้ำวันละ 20 รอบครับ ประมาณ 1, 000 เมตร เหนื่อยก็พัก อาหารเน้นโปรตีนมากขึ้น คลีนมากขึ้น เพราะลิ้นชินแล้วกับอาหารรสจืด ตอนเช้า ผมเดินวันละ 1-2 กิโลเมตร ตกเย็นก็เล่นเวท เล่นเวทเสร็จถ้าไม่ว่ายน้ำก็ปั่นจักรยานอาทิตย์ละ 6 วันไปเลย จบเดือนที่สองลงมา 10 กิโลกรัม เฮ้ย เหลือ 115 กิโลกรัมแล้ว ! ร่างกายผมก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ค่อย ๆ เพิ่มระยะทางในการวิ่ง เพิ่มความหนักในการคาร์ดิโอ และการเล่นเวทจนครบ 6 เดือน ก็ได้ตามนี้ครับ

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก
หนทางอีกยาวไกล

           จากเดือนที่ 8-12  เป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ก็มีแต่ความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นเยอะ มีการคาร์ดิโอที่หลากหลายมากขึ้น ช่วงหลัง ๆ มานี่ ผมเริ่มเปิดกิจการร้านขายอาหารด้วย ทำงานประจำด้วย เล่นเวทด้วย จึงไม่ค่อยมีเวลาวิ่งมากนัก เลยอาศัยการโดดเชือกเข้าช่วย เช้า 3,000 ครั้ง เย็น 3,000 ครั้ง มีการวิ่งลากยางรถยนต์ด้วย แต่ตารางเวทยังคงเดิม น้ำหนักก็ลงมาเรื่อย ๆ จนแตะอยู่ที่ 83 กิโลกรัม พร้อมกับเปอร์เซ็นต์ไขมันที่ลดลง ทำให้เริ่มเห็นซิคแพคแล้วครับ ตอนนี้หากวันไหนติดธุระไมได้ไปเล่นเวท ผมก็จะวิดพื้น 400-600 ครั้ง แทน ประมาณ 6 ท่า ต่อด้วยโดดเชือกอีก 3,000 ครั้ง


ครบเดือนที่ 12 น้ำหนักมาแตะอยู่ที่ 83 กิโลกรัมครับ.....

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก

สรุป 1ปีที่ผ่านมา...

           ถึงแม้จะไม่ถึงเป้า ที่อยากเห็นน้ำหนักในหลัก 70 กิโลกรัม แต่ผมก็พอใจกับมันครับ ตอนนี้ผมเหมือนเป็นคนใหม่ จากที่เป็นแค่ไอ้อ้วนติดเกม บ้าปาร์ตี้ เล่นเกมไปวัน ๆ ไม่มีใครสนใจ เป็นแค่ผู้ชายที่ไม่น่ามีอะไรจดจำ ตอนนี้มันเปลี่ยนไปมาก

           ผมรู้สึกมีความสุข ณ จุด ๆ นี้มาก เพราะมีร่างกายที่แข็งแรง มีทัศนะคติในเชิงบวกกับชีวิตมากขึ้น มีความตั้งใจมากขึ้นในหลาย ๆ เรื่อง กล้าที่จะท้าทายความสามารถ ท้าทายคำว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ มีระเบียบวินัยกับชีวิตมากขึ้นซึ่งก็ได้มาจากการปฏิบัติตามตารางการเล่นเวทนั่นเองครับ เลยกลายเป็นคนที่ชินกับการมีตารางเวลาไปเลย

           ใครที่กำลังพยายามลดน้ำหนักหรือตั้งใจเปลี่ยนตัวเอง ไม่ว่าเรื่องอะไรให้ดีขึ้น ผมขอเป็นกำลังใจและอวยพรให้ประสบความสำเร็จดั่งที่หวังที่ตั้งใจกันทุกคนครับ เชื่อเถอะครับ ว่าชีวิตที่ได้ต่อสู้ไม่ว่าเรื่องอะไร มันจะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นอยู่เสมอ เพราะคนที่ไม่ดิ้นรนอะไร ก็ไม่ต่างจากปลาตาย ที่ได้แต่ไหลไปตามยถากรรมนั่นแหละครับ

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนัก







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปลี่ยนบิ๊กแพคเป็นซิกแพคใน 1 ปี เรื่องจริงจากอดีตหนุ่มร่างยักษ์ อัปเดตล่าสุด 19 สิงหาคม 2557 เวลา 15:00:57 5,811 อ่าน
TOP