ตลาดสมาร์ทโฟนคึกคักส่งท้ายปี 2013 เมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone 5s รุ่นใหม่ที่มาพร้อมจุดเด่นชิปประมวลผล Apple A7 ที่เป็นระบบ 64-bit ตัวแรกของโลก มาพร้อมความเร็วกว่า iPhone ทุกรุ่นถึง 40 เท่า ด้านซัมซุงเองก็ไม่น้อยหน้าส่ง Samsung Galaxy Note 3 มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่บางกว่า เบากว่าและทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ใช้งานคู่กับ S Pen น่าสนใจขึ้นกว่าเดิม
วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบสเปคให้เห็นกันชัด ๆ ระหว่าง iPhone 5s กับ Samsung Galaxy Note 3 มาเปรียบเทียบพร้อมกับชี้ให้เห็นจุดเด่นและข้อแตกต่างแบบชัดเจน ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามกันเลย
ดีไซน์และขนาด, น้ำหนักตัวเครื่อง
เริ่มที่ดีไซน์ iPhone 5s ยังคงมีดีไซน์เหมือนกับ iPhone 5 ทั้งขนาดและน้ำหนักเท่าเดิม (ขนาด 123.8 x 58.6 x 7.6 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 112 กรัม) สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือสีของตัวเครื่อง ได้แก่ สีทอง, สีเงิน-ขาว, สีเทา-ดำ
ส่วนทางด้านดีไซน์ Galaxy Note 3 มาพร้อมดีไซน์ใหม่ของตัวเครื่องที่ได้รับอิทธิพลในการออกแบบมาจาก Galaxy S2 และ Galaxy S4 ทำให้ลักษณะตัวเครื่องของ Galaxy Note 3 ไม่ค่อยมีความโค้งมนเหมือนกับ Galaxy Note 2 แต่จะดูเป็นเหลี่ยมมากขึ้น ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นหนังเทียม (Faux leather) ซึ่งช่วยให้ผิวสัมผัสของ ตัวเครื่องดีขึ้น ส่วนขอบของตัวเครื่องทำเป็นรอยเย็บ ด้านขนาดของตัวเครื่อง Galaxy Note 3 มีขนาด 152.4 x 78.7 x 8.4 มม. และน้ำหนัก 168 กรัม
หน้าจอและการแสดงผล
สำหรับหน้าจอของ Galaxy Note 3 มีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว Full HD Super AMOLED ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล และมีความหนาแน่นของพิกเซล 388PPI ทำให้สีสันสดใสและดูละเอียด
ส่วนทางด้าน iPhone 5s มีหน้าจอขนาดเท่ากับ iPhone 5 ที่ขนาด 4 นิ้ว ใช้เทคโนโลยี In-cell touch ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล อัตราส่วน (16:9) มีความหนาแน่นพิกเซลที่ 326PPI ในข้อนี้เรื่องความละเอียดหน้าจอและเรื่องขนาดสำหรับคนชอบหน้าจอใหญ่ต้องยกให้หน้าจอ Full HD Super AMOLED ของ Galaxy Note 3 มีชัยเหนือ Retina Display ของแอปเปิล แต่ก็ต้องรอดูว่าการใช้งานจริง และการแสดงผลจะละเอียดดีกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ หรือไม่
Galaxy Note 3
ด้านสเปคและคุณสมบัติอื่น ๆ
สำหรับสเปคของ iPhone 5s ถือว่าโดดเด่นและพิเศษกว่า iPhone รุ่นอื่น ๆ เพราะใช้ชิป Apple A7 ที่เป็นระบบ 64-bit ตัวแรกของโลก ที่มีความเร็วกว่า iPhone ทุกรุ่นถึง 40 เท่า ด้านระบบกราฟิกเร็วขึ้นมากถึง 56 เท่า, และชิปประมวล Apple M7 motion ที่ใช้ควบคุมเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ของตัวเครื่อง, แรม 1GB กล้องถ่ายภาพ 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม ชุดเลนส์ใหม่ที่แอปเปิลออกแบบเอง 5 ชิ้น รูรับแสงกว้างสุด f/2.2 พร้อมแฟลชคู่ Dual LED แบบ True Tone Flash ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีกว่าเดิม รวมถึงรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion 120 เฟรมต่อวินาที ความละเอียด 720p ส่วนแบตเตอรี่อึดขึ้นกว่าเดิม 10% รองรับ Standby ได้ 250 ชั่วโมง (เดิม 225 ชั่วโมง) ใช้งานผ่าน 3G/LTE ได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง และไฮไลท์เด็ดของ iPhone 5s ก็คือระบบสแกนลายนิ้วมือที่แอปเปิลเรียกว่า "Touch ID Sensor" ใช้สำหรับปลดล็อกเครื่องและซื้อแอพพลิเคชั่น, เพลง, หนัง ผ่าน App Store และ iTunes Store ได้ (คลิกดูสเปคแบบเต็ม ๆ ของ iPhone 5s)
ส่วนทางด้าน Galaxy Note 3 มาพร้อมกับความทรงพลังและโหดกว่า Galaxy Note 2 โดยจะแบ่งการใช้ซีพียูตามโมเดลรุ่น ได้แก่ ซีพียู Exynos Octa 5420 ควอดคอร์ ความเร็ว 1.9GHz สำหรับรุ่น 3G และ ซีพียู Snapdragon 800 ควอดคอร์ ความเร็ว 2.3GHz สำหรับรุ่น 4G LTE และมีแรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB และ 64GB รองรับ microSD สูงสุดถึง 64 GB มีกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED ส่วนกล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล ทั้งกล้องหน้าและหลังมีซอฟต์แวร์กันสั่นในตัว และรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K แบตเตอรี่ความจุ 3200mAh (คลิกดูสเปคแบบเต็ม ๆ ของ Galaxy Note 3)
iPhone 5s
ด้านซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ
iPhone 5s มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 7 ที่เปลี่ยนรูปโฉมพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Air Drop, ฟิลเตอร์แต่งภาพ, Control Center, ระบบ Multitasking แบบใหม่ รวมถึงซอฟต์แวร์ฟรีชุด iWork และ iLife พร้อมแอพพลิเคชั่นมีให้เลือกใช้งานมากมายกว่า 1 ล้านแอพฯ รวมถึงระบบ Ecosystem ที่แข็งแกร่งของแอปเปิล เช่น App Store, iTunes, iTunes Radio และ iCloud เป็นต้น
ส่วนทางด้าน Galaxy Note 3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean ครอบด้วยอินเตอร์เฟซ Touchwiz ส่วนด้านฟีเจอร์เรียกได้ว่าจัดมาแบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะฟีเจอร์ที่ใช้งานคู่กับปากกา S Pen เช่น Air Command รวม 5 ฟีเจอร์ของ S Pen มารวมไว้ที่เดียวกัน เมื่อจิ้มปากกาบนหน้าจอก็จะแสดงเมนู Action Memos, S Finder, Scrapbook และ Pen Windows เป็นต้น รวมถึงฟีเจอร์และแอพฯ อื่น ๆ ที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น new S Note มีการปรับปรุงอินเตอร์เฟซใหม่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมและเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์ได้ เช่น Evernote รวมถึงในส่วนของ new MultiWindows มีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน โดยสามารถเปิดแอพฯ เดียวกันขึ้นมาสองหน้าจอจากนั้นสามารถคัดลอกข้อความจากหน้าจอหนึ่งไปยังอีกหน้าจอหนึ่งได้
ราคา iPhone 5s และ Galaxy Note 3
iPhone 5s ความจุ 16GB ราคา 23,900 บาท iPhone 5s ความจุ 32GB ราคา 27,900 บาท iPhone 5s ความจุ 64GB ราคา 31,900 บาท หมายเหตุ : อ้างอิงราคาจาก Apple Store Online
Samsung Galaxy Note 3 ความจุ 32GB ราคา 23,500 บาท สรุปเลือกอะไรดี iPhone 5s หรือ Galaxy Note 3 ?
มาถึงตอนนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะได้เห็นจุดเด่นและข้อแตกต่างระหว่างสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้ไปแล้ว หากคุณเป็นแฟนซัมซุงอยู่แล้วและกำลังใช้ Galaxy Note 2 เชื่อว่าคงไม่ลังเลที่อัพเกรดเป็นรุ่นใหม่เพื่อสัมผัสกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ทำงานคู่กับ S Pen ได้เจ๋งกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนชอบขีด ๆ เขียน ๆ รวมถึงสเปคที่แรงขึ้นของ Samsung Galaxy Note 3 เมื่อเทียบกับ Galaxy Note 2 แล้วเรียกได้ว่าปรับปรุงไปไกลพอสมควร แต่ถ้าหากต้องการความง่ายในการใช้งาน ชอบวัสดุที่มีความหรูหรา สินค้าพรีเมี่ยมตามสไตล์แอปเปิล รวมถึงระบบ Ecosystem ที่หลากหลายและมีความน่าเชื่อถือในเรื่องของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ iPhone 5s น่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบแนวทางนี้
