เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Nintendo
หลังจากที่นินเทนโด (Nintendo) ได้เปิดตัวและวางจำหน่าย Nintendo 3DS เครื่องเล่นเกมพกพายุคที่ 8 ของค่ายไปเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นแรกที่มีหน้าจอ 3D และสามารถแสดงภาพ 3D ได้ในตัวโดยที่ผู้เล่นไม่ต้องสวมแว่นตา 3D แต่ก็มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่ไม่ค่อยปลื้มกับฟังก์ชั่น 3D นี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากเล่นไปนาน ๆ แล้วอาจรู้สึกสายตาล้าหรือเวียนหัวได้ รวมทั้งยังเปลืองแบตเตอรี่มากขึ้นอีกด้วย ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะปิดฟังก์ชั่น 3D และเล่นเกมแบบภาพ 2D ธรรมดาแทน ล่าสุด ทางนินเทนโดจึงได้ตัดสินใจออกเครื่องรุ่นใหม่ที่ไม่มีหน้าจอ 3D และราคาถูกลงมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกแล้ว เพื่อเจาะกลุ่มตลาดเด็ก ๆ และผู้ที่ไม่ชอบหรือไม่สนใจเล่นเกมภาพแบบ 3D นั่นเอง
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา นินเทนโดได้เปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพา Nintendo 2DS ซึ่งเป็นเครื่องที่สามารถเล่นเกมของ Nintendo 3DS (รวมทั้ง Nintendo DS) ได้ และมีการแสดงผลด้านกราฟิกเหมือนกับเครื่อง 3DS ทุกประการ แต่จะแตกต่างกันก็เพียงแค่ 2DS นั้นได้ถูกตัดหน้าจอ 3D ออกไป และเปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบปกติ (2D) แทน ซึ่งก็แปลว่าในการเล่นเกมของ 3DS บนเครื่อง 2DS นั้นจะไม่สามารถแสดงภาพแบบ 3D ได้นั่นเอง โดยสิ่งที่ Nintendo 2DS แตกต่างกับ Nintendo 3DS นั้นมีดังนี้
ไม่มีหน้าจอ 3D และไม่สามารถแสดงภาพ 3D ได้ (เปลี่ยนเป็นจอ 2D ธรรมดา)ไม่สามารถพับหน้าจอได้ แต่เพิ่มสวิตช์สำหรับเข้า Sleep Mode แทนการพับหน้าจอมีลำโพงข้างเดียว (ระบบเสียง Mono) แต่สามารถต่อหูฟังเพื่อฟังเสียงแบบ Stereo ได้ไม่มีสวิตช์เปิด/ปิด Wi-Fi (ต้องเข้าไปปรับในเมนูของเครื่องแทน)ไม่มีฟังก์ชั่น Power Saving Modeมีราคาที่ถูกกว่า
ทั้งนี้ สำหรับอุปกรณ์ที่จะมาพร้อมกับตัวเครื่อง Nintendo 2DS นั้นก็มีปากกาสไตลัส, SDHC Card 4GB, สายชาร์จแบตเตอรี่แบบเดียวกับ Nintendo 3DS และ AR Card โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ในราคา $129.99 หรือประมาณ 4,000 บาท และมีตัวเครื่องให้เลือก 2 สีคือ สีแดงและสีฟ้า รวมทั้งมีเคสขายแยกในราคา $12.99 หรือประมาณ 400 บาท
