หนุ่ม ๆ หลายคนคงมีความรู้สึกคล้าย ๆ กันอยู่บ้างว่า ช่วงเวลาตอนเริ่มจีบสาวที่ชอบใหม่ ๆ เป็นโมเมนท์ที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น เร้าใจมากที่สุดช่วงเวลาหนึ่ง เพราะคุณต้องพยายามเร่งทำคะแนนเพื่อพิชิตใจ และทำความรู้จักเธอให้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่า โทรศัพท์ คือช่องทางการสื่อสารสำคัญที่เปิดโอกาสให้คุณได้คุยกับเธออย่างจริงจัง
ทว่าบางครั้งเรากลับรู้สึกว่าการทำความรู้จักกับใครสักคนผ่านสายโทรศัพท์ กลับไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ เพราะเป็นการสื่อสารที่ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นสีหน้าท่าทาง เพื่อจะได้สังเกตดูว่าฝ่ายหญิงมีปฏิกิริยาอย่างไรเวลาที่คุยกับคุณ และจะทำให้เธอประทับใจได้ยังไงด้วยถ้อยคำเพียงอย่างเดียว นึกภาพตามออกใช่มั้ยครับ...เวลาที่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีอะไรจะพูด หรือคุณเล่าอะไรไป ฝ่ายหญิงก็เอาแต่ตอบรับอย่างเดียว โดยไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย ดังนั้น เราเลยสรรหาวิธีจีบสาวทางโทรศัพท์มาแนะนำให้หนุ่ม ๆ ได้ทราบกันแล้ว
รู้ว่าควรโทรหาเธอเวลาไหนก่อนจะไปถึงประเด็นว่าจะคุยอะไรกับเธอดี อันดับแรกคุณควรทราบว่าช่วงเวลาไหนที่ควรกดโทรศัพท์หาเธอได้บ้าง ไม่ใช่อยากโทรตอนไหนก็โทร คนเรามีเวลาว่างไม่เหมือนกัน ขืนสุ่มสี่สุ่มหาโทรไปไม่รู้จักเวลาล่ำเวลา ผู้หญิงจะรำคาญเอาได้นะ แต่เบสิกแล้วช่วงเวลาที่ควรติดต่อไปคงเป็นช่วงหลักพักเที่ยง หลังเลิกงาน หรือก่อนนอน ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อที่คุณสองคนจะได้มีเวลาคุยกันเต็มที่ ยาว ๆ ยังไงล่ะ
ตั้งสติก่อนสตาร์ทสักหน่อยอาจฟังดูงง ๆ ว่ากับอีแค่คุยโทรศัพท์กับผู้หญิง ถึงกับต้องตั้งสติเลยเหรอ? ถ้าคุณเคยชอบใครสักคนมาก ๆ ๆ ๆ ก็น่าจะรู้ดีว่า ช่วงตอนกำลังกดเบอร์โทรและรอปลายทางรับสายเนี่ย มันตื้นเต้นจนหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว จนบางครั้งก็ควบคุมบทสนทนาไม่อยู่ พูดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่รู้เรื่องได้เหมือนกันนะ ซึ่งเราไม่ควรปล่อยให้คะแนนความประทับใจในการคุยให้ตกหล่นไปเพราะความตื่นเต้นเด็ดขาด หายใจลึก ๆ ทำตัวเป็นธรรมชาติมากที่สุด แล้วเดี๋ยวฟีลลิ่งมันก็มาเองแหละครับ
นึกเรื่องที่จะคุยไว้ก่อนบ้างคงเป็นสถานการณ์ที่สร้างความกระอักกระอ่วนไม่น้อย ถ้าคุณเป็นฝ่ายโทรไปหาเธอ แต่พอถึงเวลากลับไม่รู้ว่าจะชวนคุยเรื่องอะไร ปล่อยให้สายเดดแอร์ หรือไม่ก็ทำให้ฝ่ายหญิงต้องกลายเป็นผู้นำในการสร้างบทสนทนาแทน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่าประทับใจแน่ หากปล่อยเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เพราะเธอคงแอบคิดในใจอยู่เหมือนกันว่า "นี่ตกลงใครจะจีบใครกันละเนี่ย" ฉะนั้น เตรียม ๆ เรื่องที่จะชวนคุยไว้บ้างก็ดีนะ
เล่าเรื่องให้กระชับ ไม่ฝอยจนน่ารำคาญเมื่อคุณรู้แล้วว่าจะชวนเธอคุยเรื่องอะไร หรือมีประเด็นไหนจะเล่าให้อีกฝ่ายฟังบ้าง ก็บรรเลงตามจังหวะไปได้เลย แต่พยายามเล่าให้กระชับและน่าสนใจ ไม่ใช่พล่ามอะไรเรื่อยเปื่อยจนเธอถึงกับวางโทรศัพท์ทิ้งแล้วเดินหนีไปทำอย่างอื่นแทนซะล่ะ นอกจากนี้ ปล่อยให้ฝ่ายหญิงพูดหรือเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เธอได้แชร์สิ่งที่ตัวเองสนใจ และคุณจะได้เรียนรู้เธอไปในตัวด้วยนั่นเอง
พูดคุยเรื่องที่คุณทั้งคู่ให้ความสนใจสืบเนื่องมาจากสิ่งที่กล่าวไปเมื่อครู่นี้ นอกจากจะพยายามรวบบทสนทนาให้มีความกระชับแล้ว เรื่องที่สรรหามาคุยกันนั้นควรเป็นหัวข้อที่ทั้งคุณและเธอมีความสนใจ ไม่ใช่พูดถึงแต่เรื่องที่คุณชอบ จนอีกฝ่ายถึงกับใบ้รับประทาน ไม่งั้นคราวหน้าเธออาจจะไม่รับโทรศัพท์จากคุณอีกเลยก็เป็นได้
ปล่อยมุก สร้างเสียงหัวเราะสักบ้างก็ดีร้อยทั้งร้อยผู้หญิงชอบผู้ชายที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับตัวเองได้กันทั้งนั้นแหละ ถึงแม้คุณอาจไม่ใช่คนที่เกิดมาเป็นตลก แต่ก็ต้องรู้จักใช้คารมให้เป็นประโยชน์บ้าง เพราะบางทีเรื่องที่จะเล่ามันก็ไม่ได้ฮาอะไรมากมาย แต่หากวิธีการนำเสนอของคุณมันน่าสนใจมากพอ ก็น่าจะวาดรอยยิ้มที่มุมปากหรือเสียงหัวเราะคิกคักให้กับเธอได้แหละหน่า
หยอดคำหวานนิด ๆ หน่อย ๆจะจีบหญิงทั้งที มันก็ต้องมีหยอดคำหวานใส่บ้าง แต่คุณเองก็ต้องดูความเหมาะสมด้วยว่าฝ่ายหญิงเป็นคนแบบไหน ชอบฟังคำซึ้ง ๆ บ่อย ๆ หรือว่านาน ๆ ทีได้ยินก็พอ เพราะถ้าคนที่คุณกำลังหมายปองไม่ชอบคำพูดเลี่ยน ๆ เธออาจรำคาญเอาได้เหมือนกันนะ
นี่อาจเป็นเพียงเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาฝากหนุ่ม ๆ กันในวันนี้ แต่เชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์ในการทำคะแนนจากสาว ๆ ทางโทรศัพท์ได้ไม่มากก็น้อย ยังไงก็ลองงัดไปใช้ดูนะ อย่ามัวแต่แชทผ่านไลน์หรือวอทแอปอยู่เลย เพราะสุดท้ายแล้ว การโทรศัพท์คุยกันก็คลาสสิกกว่าเป็นไหน ๆ
