เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ก่อนความรักจะผลิบานจนเติบโตขึ้นมาเป็นความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกันได้ ทั้งคุณและเธอต่างก็ต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมาด้วยกันพอสมควร จนบางครั้งมันก็ไม่มีเหตุผลให้กับคำถามที่ว่าความรักเกิดจากอะไร? และบางครั้งก็แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ซึ่งแตกต่างจากตอนเลิกกันกลับมีเหตุผลมากมายร้อยแปดพันเก้า จนสุดท้ายฝ่ายถูกบอกเลิกก็ต้องยอมจำนนและปล่อยให้ผู้หญิงจากไปด้วยดี โดยเฉพาะ 5 เหตุผลสุดคลาสสิกที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ไม่ว่าใครได้ยินเป็นต้องเจ็บและจำไปอีกนานเลย
1. "ไม่ได้จริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้"
แม้ที่ผ่าน ๆ มาจะสวีทหวานโรแมนติกหรือพร่ำบอกรักกันขนาดไหนหรือคิดวางแผนไปไกลถึงขั้นแต่งงานแล้วก็ตาม หากเจอผู้หญิงพูดมาแบบนี้ไม่ต้องคิดมากให้เหนื่อยเลย เพราะเธอหมายความตามที่พูดออกมานั่นแหละ ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้รู้เอาไว้ด้วยว่าไม่อยากจะให้คุณเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเธออีกต่อไปแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเลิกเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าเป็นคำกล่าวอ้างที่ลิดรอนความรู้สึกดี ๆ ที่ผ่านมาไปหมดสิ้น
ความหมายของประโยคนี้สามารถแปลได้เป็น 2 แบบคือ อย่างแรกเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรและไม่ดีพอที่จะคบกับคุณ เนื่องจากมีความแตกต่างกันมากเกินไปในหลาย ๆ เรื่อง เช่น หน้าที่การงาน ฐานะ นิสัยส่วนตัว หรือมุมมองในการมองโลก ส่วนอีกกรณีมีนัยยะว่าไม่ได้หวังดีหรืออยากให้เจอกับคนใหม่อย่างที่พูด เพียงแต่เป็นการแสดงให้รู้ว่าไม่อยากจะอยู่หรือเสียเวลากับความรักครั้งนี้อีกต่อไป ทว่าเธอรู้จักเลือกใช้ถ้อยคำที่ดูสวยหรูมากรีดแทงคุณอย่างช้า ๆ นั่นเอง
เมื่อลองคิดตามคำพูดดูแล้วก็จะรู้เลยว่าคุณเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายผิด เพียงแต่เธอไม่อยากพูดออกมาตรง ๆ เพราะไม่อยากให้รู้สึกเสียใจนั่นเอง ฉะนั้นก่อนจะต่อว่ากลับไปควรคิดไตร่ตรองเหตุการณ์ที่ผ่านมาให้ดีก่อน หากเป็นฝ่ายผิดจริงก็แค่ขอโทษแล้วอธิบายเหตุผล เชื่อว่าหากเธอรักคุณจริง ๆ ก็พร้อมที่จะเข้าใจและให้อภัยแน่นอน
อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าความต้องการของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นแตกต่างกันเสมอ ถ้าหากคบกันแล้วยังรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไปและเรียกร้องเพิ่มเติมในขณะที่อีกฝ่ายไม่สามารถมอบให้ได้ อย่างเช่น เรื่องเวลา เซ็กส์ หรืออื่น ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจหากได้ยินประโยคนี้ออกมา ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดก็คือปล่อยให้คุณเจอกับคนใหม่ที่เติมเต็มความต้องการได้ หรือหากมองในอีกมุมหนึ่ง ประโยคนี้มันก็เป็นเพียงข้ออ้างที่ไม่รู้จะหาทางบอกเลิกกับคุณยังไงต่างหากล่ะ
การที่เธอเข้ามาพัวพันกับชีวิตของคุณไม่ได้หมายความว่าจะรักและคิดจริงจังเสมอไป อาจเป็นแค่ความหลงใหลหรือชื่นชอบในบุคลิกบางอย่างเท่านั้น และถ้าหากพูดประโยคนี้เมื่อไหร่ นั่นแสดงว่าความรู้สึกต่าง ๆ ที่เคยมีให้กันได้หมดลงแล้ว หากไม่อยากให้เธอเดินจากไปก็ลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ปรับการแต่งตัว หรือลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ ดูบ้าง เพื่อให้เธอหันกลับมามองอีกครั้ง เว้นเสียแต่ว่าถ้าได้ลองทำทุกอย่างแล้ว เธอก็ดึงดันที่จะลาจากอยู่ดี ก็ปล่อยไปดีกว่า ถ้าคนมันรักจริงด้วยความบริสุทธิ์ใจ บางทีคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก เธอก็ไม่ทิ้งไปหรอก
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยโดนสาวบอกเลิกด้วยเหตุผลข้างต้นกันมาบ้าง แม้ไม่ใช่คำพูดที่รุนแรง ทว่ากลับรู้สึกเหมือนโดนหนามแหลมคมทิ่มแทงที่ได้ยินเมื่อไหร่เป็นต้องสะดุ้งทุกที แม้เหตุการณ์จะผ่านไปกี่ปีกี่เดือนแล้วก็ตาม ทางที่ดีที่สุดคือยอมรับความจริงแล้วตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าปล่อยให้คนที่ไม่เห็นค่าของความรักคุณมาทำลายความรู้สึกกันนะครับ
