เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หนุ่มใดชอบจิบชาเป็นประจำทุกวันเห็นทีจะมีเฮ เพราะการจิบชาวันละ 2 ถ้วยหรือมากกว่านั้น จะช่วยให้คุณไกลห่างจากโรคมะเร็งที่ผู้ชายขยาดอย่างมะเร็งต่อมลูกหมากได้
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมาสทริชท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ทำการศึกษาเรื่องอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้เปรียบเทียบพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มชายที่เป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากกับชายที่มีสุขภาพแข็งแรงดี พบว่าการดื่มชาอย่างน้อยวันละ 2 ถ้วย ช่วยให้ห่างจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ 37% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มชาเลย หรือดื่มน้อยกว่าอาทิตย์ละ 2 ถ้วย อย่างไรก็ดี เมื่อได้ลองไปสำรวจในหัวข้อเดียวกันนี้กับเครื่องดื่มยอดฮิตอีกชนิดอย่างกาแฟ กลับพบว่ากาแฟไม่ได้ส่งผลใด ๆ ที่จะลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเลย
ทว่าการจะสรุปรวบรัดว่าชาจะป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้จริงก็ยังไม่สามารถทำได้ เมื่อผลการสำรวจอีกชิ้นหนึ่งจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ที่ได้ติดตามพฤติกรรมการกินดื่มของผู้ชายจำนวน 6,000 คน เป็นเวลาติดต่อกัน 37 ปี กลับพบว่านักดื่มชาที่ดื่มชาจัดถึง 7 ถ้วยต่อวัน ดันมีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มมากขึ้น 50% ทว่าผู้จัดทำการทดลองนี้ก็ได้ออกตัวมาก่อนว่า ด้วยระยะเวลาติดตามการวิจัยที่ค่อนข้างยาวนาน ทำให้ช่วงอายุของผู้ที่ถูกทำการสำรวจส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเกิน 50 ปีขึ้นไป อันจะทำให้ผลการทดลองออกมาคลาดเคลื่อน เพราะผู้ชายในวัย 50 ปีขึ้นไปคือช่วงอายุที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมากที่สุดอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี ด้วยผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมาสทริชท์ เป็นการวิจัยที่ใหม่และครอบคลุมกว่า จึงมีความน่าเชื่อถือมากพอสมควร และแม้ทางทีมผู้ศึกษาไม่ได้ทำการวิจัยให้ลึกลงไปว่า สารอะไรในชาที่มีคุณสมบัติลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง แต่การวิจัยอื่น ๆ ก่อนหน้านี้เคยได้ศึกษาพบว่า สารที่มีชื่อว่า "โพลีฟีนอล" ซึ่งมีอยู่ในชา จะช่วยปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้แปรเปลี่ยนสภาพไปเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง เช่นเดียวกับโรคมะเร็งอื่น ๆ บางชนิด ที่มีผลตอบสนองต่อสารสำคัญบางอย่างในอาหารต่าง ๆ โดยตรง
รู้อย่างนี้แล้วหนุ่มคนไหนเป็นนักดื่มชา ชอบทดลองชาแปลก ๆ กลิ่นใหม่ ๆ อยู่เสมอก็น่าจะเบาใจไปได้เปลาะหนึ่งว่าคุณจะห่างไกลออกจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกนิด แต่อย่างไรก็ดีชาที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงชานมไข่มุกนะครับ เพราะขืนดื่มชาแบบนี้วันละสองแก้วมีหวังได้เป็นโรคเบาหวานล่วงหน้าก่อนโรคมะเร็งไปนานแน่นอน
