เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Google
เนื่องในโอกาส April Fool\'s Day หรือวันแห่งการโกหก ซึ่งแน่นอนว่ากูเกิลบริษัทไอทียักษ์ย่อมไม่พลาดที่จะคิดไอเดียการโกหกแบบสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร เช่นเดียวกับในปีที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งในคราวนี้ทางกูเกิลได้จัดเต็มสร้างเรื่องโกหก (หรือเปล่าน้อ?) ออกมาหลายเรื่องเลยทีเดียว โดยกระปุกดอทคอมได้คัดเลือกเรื่องที่เด่น ๆ และมีคนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ซึ่งมีทั้งแปลก แหวกแนว ประหลาด ไปจนถึงฮาแตกกันเลยทีเดียว ว่าแล้วเราก็มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง
1. เปิดตัว Google Nose การค้นหากลิ่น
Google Nose คือฟีเจอร์ที่สามารถค้นหากลิ่นต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นสิ่งของ, ดอกไม้, อาหาร, สัตว์ หรือแม้กระทั่งกลิ่นจากสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งสามารถส่งกลิ่นออกมาจากตัวอุปกรณ์ให้ผู้ใช้ได้ดมกลิ่นนั้น ๆ ราวกับได้ดมกลิ่นของจริงเลยทีเดียว โดยในขณะนี้ทางกูเกิลได้ส่งรถออกไปเพื่อเก็บข้อมูลกลิ่นต่าง ๆ บ้างแล้ว (คล้าย ๆ กับรถที่เก็บภาพ Street View) นอกจากนี้ ผู้ใช้แอนดรอยด์ยังสามารถใช้ Google Now สำหรับหาข้อมูลได้ว่ากลิ่นที่อยู่ใกล้ตัวเรานั้นเป็นกลิ่นของอะไร เพียงแค่เปิดแอพฯ Google Now ขึ้นมาแล้วยื่นอุปกรณ์ไปรับกลิ่นนั้น ๆ แอพฯ ก็จะค้นหาจากฐานข้อมูลเพื่อบอกเราได้ว่ากลิ่น ๆ นั้น ๆ คือกลิ่นของอะไร ก็หวังว่าจะไม่มีใครเอาไปใช้หากลิ่นแปลก ๆ กันนะจ๊ะ เดี๋ยวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจมูกเอาได้ ฮา...
คลิป Introducing Google Nose โพสต์โดย Google
2. เปิดตัว Google Maps โหมดแผนที่ขุมทรัพย์
เนื่องจากทีมงาน Google Maps ได้ค้นพบแผนที่ขุมทรัพย์เก่าแก่ของกัปตัน Kidd ซึ่งทางทีมงานก็ใจดีนำมาสแกนเพื่อทำออกมาเป็นโหมดแผนที่ขุมทรัพย์ (Treasure Mode) ของ Google Maps โดยเมื่อผู้ใช้เลือกเปลี่ยนเป็นโหมดนี้รูปร่างหน้าตาของแผนที่ก็จะเป็นแบบกระดาษภาพวาดลายแทง ที่มีปริศนาต่าง ๆ ให้ผู้ใช้ได้ขบคิดและหาทางแก้ปัญหาเพื่อหาจุดที่ซ่อนของขุมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการถือเครื่องส่องแสงแดด, นำหลาย ๆ เครื่องมาวางต่อกัน หรือนำไปเผาไฟ (เอาจริงดิ?) นอกจากนี้ หากเปิดดูมุมมองแบบ Street View ก็จะได้ดูสภาพแวดล้อมของแต่ละตำแหน่งบนแผนที่ในแบบที่เหมือนมองผ่านกล้องส่องทางไกลสมัยโบราณอีกด้วย ไอเดียเจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ
3. YouTube ประกาศปิดให้บริการเป็นเวลา 10 ปี
YouTube เว็บไซต์บริการวิดีโอสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ ประกาศปิดให้บริการหลังจากที่ได้เปิดให้บริการมายาวนานนับ 8 ปี โดยเหตุผลที่ปิดบริการเนื่องจากทางทีมการต้องการใช้เวลาในการดูคลิปวิดีโอทั้งหมดที่ผู้ใช้อัพโหลดเข้ามาเพื่อพิจารณาและตัดสินว่าคลิปไหนจะได้รางวัลคลิปสุดยอดดีเด่น ซึ่งจากการที่มีคลิปเป็นจำนวนมหาศาล ทางทีมงานจึงต้องใช้เวลาในการดูนานถึง 10 ปี โดยในอีก 10 ปีข้างหน้า (เมษายน 2023) จะมีการประกาศผู้ชนะและเปิดให้บริการอีกครั้ง ก็อดทนรอกันหน่อยนะจ๊ะ แค่ 10 ปีเท่านั้นเอง...
4. Gmail เปลี่ยนอินเทอร์เฟซเป็นโทนสีฟ้าทั้งหมด ในชื่อ Gmail Blue
Gmail บริการอีเมลของกูเกิล ประกาศปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟซใหม่ให้กลายเป็นโทนสีฟ้าทั้งหมด โดยใช้ชื่อว่า Gmail Blue รวมทั้งสามารถทำงานได้ดีกว่าเดิม รับส่งจดหมายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ทางกูเกิลยังได้บอกว่า สีฟ้าเป็นสีที่สวยสุดเมื่อมองผ่านตาของผู้ที่ตาบอดสีแดงและเขียวอีกด้วย แหม่... ดูแล้วก็คุ้น ๆ เหมือนกันนะ อินเทอร์เฟซสีฟ้าแบบนี้เนี่ย...
คลิป Introducing Gmail Blue โพสต์โดย Google
5. เปิดตัวอุปกรณ์พิมพ์ตัวอักษรแบบใหม่ ใช้เพียงนิ้วเดียว พิมพ์ได้ทุกตัว
กูเกิลญี่ปุ่นได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของคีย์บอร์ดที่ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องจำตำแหน่งของแต่ละตัวละครบนคีย์บอร์ดเลยแม้แต่ตัวเดียว จึงรับรองว่าหมดปัญหาการหาตัวอักษรไม่เจออย่างแน่นอน โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า Google Japanese Input Patapata Version ซึ่งอุปกรณ์นี้ใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียว แต่สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้ทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ, ญี่ปุ่น, ตัวเลข ฯลฯ โดยเมื่อผู้ใช้กดปุ่มค้างไว้ หน้าจอก็จะแสดงตัวอักษรทีละตัวไล่ให้ดูไปเรื่อย ๆ เมื่อเจอตัวอักษรที่ต้องการแล้วก็ให้ปล่อยปุ่ม แล้วตัวอักษรนั้น ๆ ก็จะถูกพิมพ์ลงไปในทันที นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับแว่น Google Glass อีกด้วย โดยใช้ปุ่มถึง 2 ปุ่ม ช่วยให้พิมพ์เร็วขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ช่างเป็นอุปกรณ์ที่น่าทึ่งจริง ๆ เลย น่าจะมีแบบที่พิมพ์ภาษาไทยได้ด้วยนะเนี่ย ว่าไหม?
กูเกิลญี่ปุ่นได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของคีย์บอร์ดที่ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องจำตำแหน่งของแต่ละตัวละครบนคีย์บอร์ดเลยแม้แต่ตัวเดียว จึงรับรองว่าหมดปัญหาการหาตัวอักษรไม่เจออย่างแน่นอน โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า Google Japanese Input Patapata Version ซึ่งอุปกรณ์นี้ใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียว แต่สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้ทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ, ญี่ปุ่น, ตัวเลข ฯลฯ โดยเมื่อผู้ใช้กดปุ่มค้างไว้ หน้าจอก็จะแสดงตัวอักษรทีละตัวไล่ให้ดูไปเรื่อย ๆ เมื่อเจอตัวอักษรที่ต้องการแล้วก็ให้ปล่อยปุ่ม แล้วตัวอักษรนั้น ๆ ก็จะถูกพิมพ์ลงไปในทันที นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับแว่น Google Glass อีกด้วย โดยใช้ปุ่มถึง 2 ปุ่ม ช่วยให้พิมพ์เร็วขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ช่างเป็นอุปกรณ์ที่น่าทึ่งจริง ๆ เลย น่าจะมีแบบที่พิมพ์ภาษาไทยได้ด้วยนะเนี่ย ว่าไหม?
คลิป Google 日本語入力パタパタバージョン โพสต์โดย googlejapan
**อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556 เวลา 14.33 น.
