x close

เทรนด์สุขภาพน่ารู้ที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามในปี 2013

เทรนด์สุขภาพน่ารู้ที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามในปี 2013

เทรนด์สุขภาพน่ารู้ที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามในปี 2013 (Men\'s Health)
 
      ใครที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพอย่างถูกจุดก็มักจะได้ผลตอบแทนเป็นสุขภาพดีที่สุดคุ้ม ทั้งความแกร่งของกล้ามเนื้อและพลังสมอง นั่นเพราะการมีสุขภาพแข็งแรงคือ “ต้นทุนของคุณภาพชีวิตที่ดี” แต่แน่นอนว่ามีสิ่งที่ต้องแลกเหมือนกันครับ เพราะคนที่รักสุขภาพหลายคนต้องลองผิดลองถูกมาอย่างมากเพื่อหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเองที่สุด และมีหลายวิธีครับที่กลายเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเป็นของที่ “เอาท์” หรือไม่อินเทรนด์อีกต่อไป
 
      ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อให้คุณไม่ต้องไปพบเจอของที่เอาท์ไปแล้วและจะได้ใช้ของใหม่ ๆ ที่อินเทรนด์ เลยขอรวบรวมข้อมูลแนวอายุรวัฒน์ที่จะใช้เป็นคู่มือดูแลสุขภาพ โดยขอเริ่มต้นปีที่เรื่องอินกับเอาต์ก่อนเลยนะครับ

เทรนด์สุขภาพน่ารู้ที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามในปี 2013
 
      1. การออกกำลังกายแบบ แอโรบิก เช่น การฝึกแต่คาร์ดิโออย่างเดียว
 
      OUT ความเหนื่อยและเหงื่อออกแบบอาบน้ำ มีโอกาสส่งผลต่อการบาดเจ็บกล้ามเนื้อและข้อต่อทั้งยังกระตุ้นการหลั่ง คอร์ติซอล ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเก็บสะสมไขมันเป็นพลังงาน
 
      IN การออกกำลังกายแบบ สลับช่วง (Interval Training) หรือ สลับชนิด (Cross Training) หรือ สลับชนิด (Cross Training) จะเริ่มเข้ามาเป็นการออกกำลังแห่งอนาคต จากบทความของมาโยคลินิกพบว่า การออกกำลังแบบสลับช่วงจะช่วยเบิร์นได้ดี 

 
      2. การแพทย์แบบเดิม ๆ ที่ไม่เน้นความสำคัญของตัวบุคคล เน้นที่ ตัวโรค อย่างเดียว
 
      OUT หรือเน้นการตรวจคนไข้เป็นอวัยวะเฉพาะส่วน ไม่ได้ดูแบบองค์รวมทั้งกาย ใจและจิตวิญญาณ
 
      IN การแพทย์แบบ เฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) เน้นว่าแต่ละบุคคลมีความพิเศษเฉพาะตัว ดังนั้นการรักษาและยาก็ควรให้เหมาะกับความจำเพาะของบุคคลนั้น ๆ
 
      3.การแพทย์ที่เน้นแพทย์เป็นศูนย์กลาง โดยคนไข้ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการรักษา
 
      OUT มีการให้หาเยอะโดยไม่จำเป็น เน้นการตรวจไฮเทคอย่างเดียวและไม่ให้เวลาในการพูดคุยประวัติกับคนไข้
 
      IN การแพทย์แบบอายุรวัฒน์ที่เน้นคนไข้เป็นศูนย์กลาง เน้นความเข้าใจให้คนไข้เป็นหมอของตัวเองร่วมด้วย จ่ายยาโดยไม่จำเป็น ไม่ให้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ และเน้น ไฮทัช ในการพูดคุยดูแลคนไข้แต่ก็ไม่ทิ้งไฮเทค
 
      4. การตรวจสุขภาพแบบเลือก แพ็กเกจ ที่คนไข้ยากจะรู้ได้ว่าการตรวจชนิดใด
 
      OUT จำเป็นหรือไม่จำเป็นกับตนบ้าง การตรวจอย่าง จิ้มตรวจ แบบเลือกชุดสุกี้ที่บางทีได้แค่สมุดกลับบ้านมาโดยไม่ได้พบหมอจะค่อย ๆ เสื่อมความนิยมไป
 
      IN เลือกตรวจแบบ เฉพาะบุคคล โดยมีคุณหมอซักประวัติส่วนตัว ครอบครัว และยา วิตามินที่รับประทานอย่างละเอียด ก่อนจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพที่เหมาะกับตัวเรา พร้อมทั้งแนะนำวิธีปฏิบัติตัว เพื่อป้องกันโรคในอนาคต
 
      5. การแปลผลตรวจสุขภาพโดยใช้ ค่าปกติ (Normal Range) เป็นตัววัดอย่างเดียว
 
      OUT แล้วบอกคนไข้ว่า ปกติ ซึ่งคำว่าปกติไม่ได้ (แปลว่า) เท่ากับคำว่า สุขภาพดี เสมอไป
 
      IN แปลผลสุขภาพแบบป้องกันไว้ก่อนโดยใช้ ค่าที่เหมาะสม (Optimal Range) เพื่อให้คนไข้ทราบถึงแนวโน้มและความเสี่ยงก่อนป่วยจริง

เทรนด์สุขภาพน่ารู้ที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามในปี 2013
 
      6. การตรวจด้วยการ สแกนร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าหรืออวัยวะแต่ละส่วน
 
      OUT โดยใช้เอกซเรย์ เมมโมแกรมหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ รวมถึงเพ็ทสแกนแบบทั่วไปไม่มีข้อบ่งชี้
 
      IN การศึกษาหลายชิ้นระบุว่าการตรวจเอกซเรย์ปอดและเมมโมแกรมไม่จำเป็นเสมอไป การตรวจในอนาคตจะตรวจถึงในระดับ “ยีน” แทน
 
      7. การกินอาหาร 5 หมู่ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว โดยไม่ทราบความเหมาะสมของร่างกาย
 
      OUT ตัวเอง เช่น ในผู้ที่มีอาการไวหรือแพ้อาหารบางชนิดโดยไม่รู้ตัว
 
      IN กินอาหาร ตามยีน (Nutrigenomics) โดยจัดให้เหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เพื่อสุขภาพและป้องกันภาวะแพ้อาหารโดยไม่จำเป็น
 
      8.การกินยาแบบ สเตอริโอไทป์ (Stereotype) ยาชนิดเดียวรักษาได้เหมือนกันทุกคน 
 
      OUT เช่น ปวดศีรษะก็จับพาราฯ ใส่ปาก หากปวดท้องก็ให้กินยาโรคกระเพาะลูกเดียว
 
      IN กินยา ตามยีน (Pharmacogenomics) โดยดูความเหมาะสมเป็นรายบุคคลไปว่าใครขาดใครเกินในส่วนไหน หรือมีความไวแพ้ต่ออาหารชนิดใดบ้าง แล้วจัดอาหารให้เหมาะกับยีนสุขภาพของคนนั้น
 
      9. ฉีดเทสโทสเตอโรนและอนาโบสิกสเตียรอยด์ (Anabolic Steroid) เพื่อสร้างกล้าม 
 
      OUT หลังจากข่าวพบเชื้อราปนเปื้อนในยากลุ่มสเตียรอยด์จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกา
 
      IN เลี่ยงการฉีดสเตียรอยด์แล้วหันไปรับประทาน BCAA และเวย์โปรตีนไฮโดรไลเซต (Whey Protein Hydrolysate) ที่ถือเป็น Gold Standard ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่ปลอดภัยกว่า
 
      10. กินและดื่มเพื่ออิ่มท้องและพลังงาน 
 
      OUT ในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเดียว
 
      IN กินอาหารที่มากกว่าอาหารคือ อาหารฟังก์ชั่น หรือดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยป้องกันสุขภาพและบำบัดโรคได้ อาทิ ไฟเบอร์ คอลลาเจน ไลโคปีน หรือโคคิวเท็น
 
      11. ขบวนการ ขาวด้วยกลูตาฯ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดหรือกินที่ให้ผลไม่แน่นอน 
 
      OUT บางคนกินจนเกิดอาการแพ้รุนแรงถึงชั้น “ช็อก (Anaphylactic Shock)” ได้
 
      IN เทรนด์ใหม่ผิวกระจ่างใสด้วยการกิน อาหารกลูตาฯ แทน เป็นการเพิ่มออร่าง่าย ๆ ด้วยอาหารอุดมกลูตาฯ อย่างหน่อไม้ฝรั่ง คะน้า หรือบรอกโคลี
 
      12. ร้อยไหมดึงหน้า หลังจากที่ไม่ผ่าน อย. และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในการยกกระชับ 
 
      OUT ผิวหน้า เพราะยังไม่รู้ผลข้างเคียงแน่ชัดในระยะยาว
 
      IN หน้าตึงได้ด้วยวิธี Facial Exercise ในสไตล์อายุรวัฒน์คือ ยกกล้ามเนื้อ พลาทิสมา ตรงคอให้กระชับ ออกกำลัง มาสเซเตอร์ หรือกล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยวให้ยืดหยุ่น และการฝึกยิ้ม ให้ถูกวิธี

เทรนด์สุขภาพน่ารู้ที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามในปี 2013
 
      13. การนอนโรงพยาบาลไม่ว่าป่วยเป็นโรคอะไร
 
      OUT ต้องไปโรงพยาบาลก่อน และยึดการนอนโรงพยาบาลเป็นสรณะอย่างไม่มีข้อบ่งชี้
 
       IN ดูแลตัวเองที่บ้านโดยมีแพทย์เป็นที่ปรึกษามากกว่า และ ชี้นำ ย้ำให้ตัวคนไข้ช่วยเป็นหมอของตัวเอง ดูแลตัวเองเป็นหลัก โดยมีหลักง่าย ๆ คือ โรงพยาบาลที่ดีที่สุดคือบ้านเรา
 
      14. ล้างพิษด้วยการสวนลำไส้ ล้างพิษ ทางเลือดและล้างพิษด้วยวิธีการที่ต้อง
 
      OUT ใช้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ ซึ่งหลายครั้งไม่สะดวก
 
      IN เน้นการล้างพิษด้วยตัวเอง โดยการรับประทานอาหารล้างพิษอย่างแอปเปิลเขียว ชาเขียว และวิตามินล้างพิษที่เหมาะกับตัวเรา 
 
       15. สเต็มเซลล์และนาโนเทคโนโลยีแบบไม่มีงานวิจัยที่ได้มาตรฐานรองรับ
 
      OUT เช่น การใช้สเต็มเซลล์ฉีดเสริมสวย
 
      IN สเต็มเซลล์และเวชศาสตร์นาโนที่มีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์เชื่อถือได้ และเป็นยุคใหม่แห่งการใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาโรคที่มากกว่าเสริมสวย
 
      16. กินตามหมู่เลือดหรือตามธาตุเจ้าเรือนที่อาจไม่เหมาะกับทุกคนเสมอไป
 
      OUT เนื่องจากไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทั่วไป
 
      IN เฟลกซิทาเรียน (Fiexitarian) หรือ กึ่งมังสวิรัติ เป็นวิธีการรับประทานแบบใหม่ที่ไม่เน้นผักอย่างเดียว แต่สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้บ้าง อย่างเนื้อสัตว์ปลอดสาร เพื่อไม่ให้ขาดสารอาหาร
 
       17. รอพบแพทย์เพื่อปรึกษาอาการของโรคโดยต้องฝ่ารถติดนับชั่วโมงเพื่อไปนั่งคุย
 
       OUT ไม่กี่นาที
 
      IN เข้าสู่ยุค สุขภาพจากปลายนิ้ว ด้วย แอพฯ สุขภาพ หลากหลายชนิด ทั้งสแกนผิว สแกนเลือด ฯลฯ สารพัดที่โหลดง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส (กับสมาร์ทโฟนสักเครื่อง) เพียงเท่านี้สุขภาพดีก็เป็นเรื่องง่าย ๆ
 
       ทั้งหมดเป็นเรื่องราวของสุขภาพแบบแมน ๆ ที่มีทั้งหลุดผ่านไปกับปี 2012 และมีที่ล้ำสมัยเริ่มในปี 2013 อย่างไรก็ตาม ขอบอกไว้นิดนึงว่าเทรนด์อิน แอนด์ เอาท์ ที่เล่าไปทั้งหมดเป็นแนวทางของเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ที่เน้นการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน จึงอาจพูดได้ว่าเทรนด์ใดที่เน้นใช้ ไฮเทค ลูกเดียวจึงไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืนนัก เพราะถ้าวันหนึ่งปราศจากเครื่องมือแพทย์ช่วยแล้วก็จะต้อง กลับสู่สามัญ ดังนั้นเทรนด์อนาคตสไตล์อายุรวัฒน์คือ ผสานทั้ง ไฮเทค และ ไฮทัช ให้เจ้าตัวทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งสร้างกล้าม สร้างสมอง สร้างสุขภาพดี และสร้างความสุขจากข้างในได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

 



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เทรนด์สุขภาพน่ารู้ที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามในปี 2013 อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 19:38:39
TOP