x close

7 เทคนิคแก้นิสัยการเป็นพวกวัตถุนิยม

7 เทคนิคแก้นิสัยการเป็นพวกวัตถุนิยม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ไม่ว่าคุณจะรวยแค่ไหนแต่ถ้าหากไม่รู้จักเก็บไม่รู้จักใช้ก็หมดได้ง่าย ๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ใช้เงินแบบขาดการยั้งคิด ของที่ซื้อมาแต่ละชิ้นแทบไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยสักนิด เพียงแค่จะเอามาอวดเอามาโชว์มาหรือแค่อยากได้เท่านั้น ซึ่งคนที่มีนิสัยแบบนี้เรียกกว่า พวกวัตถุนิยม ถ้าหากคุณมีนิสัยเหมือนที่กล่าวมาหรือไม่อยากจะเป็นหนึ่งในนั้น มาดูกันดีกว่าว่าจะวิธีคิดอย่างไรให้หลุดจากนิสัยแบบนี้สักที

 1. อย่าปล่อยให้เงินควบคุมคุณ

          ในความคิดของคุณอาจดูเหมือนตัวเองเป็นผู้ควบคุมเงิน แต่ในกรณีแบบนี้เงินต่างหากที่เป็นฝ่ายควบคุม เพราะคุณจะเพลิดเพลินไปกับการใช้เงิน จนกลายเป็นความเคยชินและไม่มีเหตุผลในการซื้อ รู้แค่ว่าตัวเองมีความสุขในการใช้เงินเท่านั้น ทั้งนี้คงจะดีกว่าหากเงินที่คุณนำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจะเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการนำไปบริจาคให้ตามมูลนิธิหรือกองทุนที่ต้องการความช่วยเหลือจะดีกว่า ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมแล้ว คุณจะรู้สึกได้ถึงการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง และหลังจากนี้ก็ควรคิดถึงคนเหล่านี้เอาไว้ทุกครั้งก่อนจะใช้เงิน เพราะจะช่วยยับยั้งความอยากได้อยากมีไปได้เยอะเลย

2. งดดูโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ

          เพราะจุดประสงค์ของการโฆษณาสินค้าคือ การดึงดูดใจลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย ดังนั้นคุณสมบัติและรูปลักษณ์ต่าง ๆ ของสินค้าจะถูกทำเสนอในรูปแบบที่ดึงดูดความน่าสนใจอยู่เสมอ ถ้าหากคุณไม่อยากตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาก็ควรจะหลีกเลี่ยงการชมโฆษณาไปเลย เพราะการเสพสื่อเดิม ๆ เป็นประจำ เป็นการกระตุ้นให้คุณอยากได้สินค้ามากขึ้น ทางที่ดีในช่วงโฆษณากดเปลี่ยนช่องไปเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปมากกว่านี้ ออ...แล้วก็บรรดาแค็ตตาล็อกสินค้าก็ทิ้ง ๆ ไปให้พ้นสายตาด้วยนะ

3. ไม่ควรฆ่าเวลาด้วยการเดินห้างสรรพสินค้า

          หลาย ๆ คนรู้อยู่แก่ใจว่าห้างสรรพสินค้าเต็มไปด้วยสิ่งของยั่วตายั่วใจ น่าซื้อน่าใช้ไปหมด แต่ไม่รู้จะทำอะไรเพื่อฆ่าเวลา มักลงเอยด้วยการเดินเล่นที่ห้าง ผลสุดท้ายก็ได้ของติดไม้ติดมือกลับมาทุกครั้ง คราวหน้าคราวหลังถ้าหากคุณรู้ดีว่าไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ เปลี่ยนสถานที่ฆ่าเวลาด้วยการไปเดินเล่นสวนสาธารณะ หรือหางานอดิเรกทำด้วยการ ดูหนัง ฟังเพลง หรือออกกำลังกายแทนดีกว่า

7 เทคนิคแก้นิสัยการเป็นพวกวัตถุนิยม

4. เขียนลิสต์ทุกครั้งก่อนซื้อ

          การไปเดินซื้อของแบบไม่มีเป้าหมายมักจะได้ของกลับมามากกว่าที่ต้องการเสมอ ดังนั้นต่อไปลองเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อโดยการเขียนลิสต์รายการของที่จำเป็นก่อนออกไปซื้อของทุกครั้ง และเมื่อไปถึงจุดหมายแล้ว ไม่ควรวอกแวกโดยการแวะดูของรายทาง แต่ควรมุ่งไปยังมุมของที่คุณต้องการจะซื้อทันที และหลังจากที่ได้ของครบตามความต้องการเรียบร้อย ให้จ่ายเงินแล้วกลับบ้านเลย ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะได้ของที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ แล้ว ยังช่วยประหยัดได้เยอะเลยด้วย

5. ถามความต้องการของตัวเอง

          หากก่อนหน้านี้คุณไม่เคยคิดถึงผลประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากของที่คุณซื้อเลย จากนี้เปลี่ยนวิธีการโดยการถามตัวเองก่อนซื้อทุกครั้งว่า ของชิ้นนั้นจำเป็นต้องใช้จริง ๆ หรือเปล่า ซื้อไปแล้วคุณจะมีโอกาสใช้บ่อยแค่ไหน และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่ หากคุณไม่สามารถหาเหตุผลที่เหมาะสมในการซื้อได้ ก็ควรตัดใจซะ อย่าปล่อยให้ความอยากเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเข้ามาครอบงำ สู้เก็บเงินเอาไว้ซื้อของที่จำเป็นจริง ๆ หรือเก็บเป็นเงินสำรองใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินดีกว่า

6. รอเวลาจนกว่าจะแน่ใจ

          อย่างเช่น ในกรณีที่คุณต้องการจะซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ ไม่ควรตัดสินใจหรือรีบร้อนซื้อ ณ ตอนนั้นทันที แต่ควรอดทนรอให้เวลาผ่านไปสักพักก่อน อาจจะเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เพื่อให้ตัวเองมีเวลาคิดเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และความจำเป็นในการจะซื้อโทรศัพท์รุ่นที่คุณต้องการจนกว่าจะแน่ใจ ซึ่งถ้าหากเวลาผ่านไปนานแล้วแต่คุณยังอยากได้โทรศัพท์รุ่นนั้นอยู่ และเห็นว่าสามารถช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายมากกว่าโทรศัพท์ที่คุณถืออยู่ล่ะก็ คงไม่ต้องลังเลที่จะซื้ออีกต่อไป แต่หากผลออกมาตรงข้าม คุณเริ่มรู้สึกเฉย ๆ หรือไม่ค่อยอยากได้เหมือนตอนแรกแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ แสดงว่าคุณไม่ได้อยากได้มันจริง ๆ เท่าไหร่นักหรอก

7. จัดการของเก่าลงถังขยะ

          ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องจัดการกับตู้เสื้อผ้าของคุณแล้วล่ะ เพราะหลังจากที่ได้เห็นของทุกอย่างที่ซื้อมาแล้ว จะทำให้รู้ว่าตัวเองผลาญเงินไปกับการซื้อของตามใจฉันมากแค่ไหน ซึ่งวิธีนี้ไม่ได้ใช้กับเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงของใช้อื่น ๆ ภายในบ้านด้วยไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ อย่างเช่น ทีวี สเตอริโอ ตู้เย็น เป็นต้น เพราะหลังจากที่คุณได้เห็นสิ่งของเหล่านี้มีอยู่เต็มบ้านไปหมด จะทำให้คิดก่อนซื้อมากยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ ไม่ได้บอกว่าการจับจ่ายซื้อของตามใจตัวเองมันผิดหรอกนะ เพราะทุกคนต่างก็ต้องการหาสิ่งของที่ดีที่สุดให้กับตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ หรือสิ่งของเพื่อความสะดวกสบายของชีวิต แต่ทั้งนี้คุณควรตระหนักเอาไว้ด้วยว่าของที่ซื้อมาต้องเกิดประโยชน์และจำเป็นกับคุณจริง ๆ ไม่ใช่ซื้อเพราะความอยากมีอยากได้ หรือเพื่อเอาไว้โอ้อวดคนอื่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นหากคุณมีเงินก็ต้องฉลาดที่จะใช้มันให้ถูกต้องด้วยนะครับ








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 เทคนิคแก้นิสัยการเป็นพวกวัตถุนิยม อัปเดตล่าสุด 7 มกราคม 2556 เวลา 17:39:03 2,766 อ่าน
TOP