.jpg "ทำอย่างไรให้ลูกน้องมีความสุขกับงานของตัวเอง")
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อพูดถึงหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน เชื่อว่าหัวอกคนเป็นลูกน้อง (หรือกระทั่งบรรดาเจ้านาย) ทั้งหลายต่างต้องมีช่วงหมดไฟและเบื่อหน่ายกับการทำงานบ้างอย่างแน่นอน จนทำให้เริ่มไม่มีความสุขในทุก ๆ เช้าที่ต้องตื่นนอนออกจากบ้านไปทำงาน ผลที่ตามมาก็คือผลงานที่ด้อยประสิทธิภาพ และส่งผลเสียหายต่อตัวบริษัท
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับบทบาทให้เป็นหัวเสืออย่าง "เจ้านาย" นอกจากจะดูแลรับผิดชอบในการบริหารงานและบุคลากรทั้งหมดแล้ว ยังต้องลงรายละเอียดใส่ใจไปถึงความสุขของลูกน้องด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้กลไลการทำงานของบริษัท ขับเคลื่อนไปด้วยความไหลลื่น ซึ่งถ้าพวกเขาปราศจากแรงจูงใจ เอาแต่ทำงานไปวัน ๆ ก็คงไม่ดีแน่ ฉะนั้นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายก็ต้องคอยดูแลความสุขของพวกเขาด้วย ส่วนเคล็ดลับจะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปชมข้อมูลที่เรานำมาฝากกันเลยดีกว่าครับ
ตอบแทนสิ่งดี ๆ ให้กับลูกน้องบ้างการที่พนักงานแต่ละคนรับผิดชอบหน้าที่ และพยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดนั้น ไม่ได้ทำเพียงเพราะแลกกับเงินเดือนเท่านั้น ทว่าพวกเขาเองก็อยากให้บริษัทเจริญเติบโตมากขึ้น เพราะในเมื่อเขาเองก็เป็นส่วนนึงขององค์กรเหมือนกัน ดังนั้น ค่าตอบแทนที่พวกเขาอยากจะได้รับจึงไม่ใช่เรื่องของค่าจ้างเพียงอย่างเดียว แต่คำชื่นชมจากเจ้านาย การได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ถือเป็นสิ่งดี ๆ ที่สร้างแรงผลักดันให้พวกเขาได้เช่นกัน หรือแม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง พาไปเลี้ยงข้าวหรือซื้อของมาฝาก ก็ถือเป็นการแบ่งปันและแสดงถึงน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เจ้านายพึงมีต่อลูกน้องด้วย
เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำที่ดีอยู่เสมอแม้จะได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าที่มีสิทธิ์สั่งงานลูกน้องได้ทุกอย่าง แต่หากไม่เคยรับฟังความเห็นหรือข้อเสนอแนะใด ๆ จากพวกเขา ก็คงทำให้พวกเขาไม่ค่อยมีความสุขกับการทำงานสักเท่าไหร่ คุณอาจจะได้ผลงานที่เขาทำกลับมา ทว่าไม่ได้ใจกลับมาเลยสักนิด ฉะนั้น คุณต้องเข้าไปคุยกับพวกเขาด้วยตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว (หากเขาอยากปรึกษา) เพื่อให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจ และคิดว่าคุณดูแลเขาไม่ต่างจากคนในครอบครัว เชื่อเถอะ...หากคุณแสดงความห่วงใยกับพวกเขาด้วยความจริงใจ รับรองทำงานกันลืมตายเลยทีเดียว
อย่าโกง เบี้ยว หรือผิดนัดเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นะเมื่อได้ชื่อว่าเป็นเรื่องของเงินเดือนแล้ว หลายคนย่อมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนมากที่สุดเรื่องนึง หากคุณจ่ายเงินเดือนช้าหรือหักเงินแบบไม่เป็นธรรม บรรดาลูกน้องต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน มีใครบ้างอยากทำงานเพื่อแลกกับอากาศธาตุ หรือเสียหยาดเหงื่อไปกับค่าแรงที่ไม่คุ้มค่าเหนื่อย คำตอบคงไม่มีอยู่แล้ว ต่อให้รักบริษัทมากแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้หากผลประกอบการบริษัทได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ก็ควรให้โบนัสตอบแทนพวกเขาด้วยเช่นกัน เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจในการทำงานได้อยู่ไม่น้อย
มีความยืดหยุ่นในการทำงานสิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือเรื่องระบบการทำงานและบรรยากาศภายในออฟฟิศ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีผลต่อความเครียดของพนักงานอยู่ไม่น้อย คุณไม่จำเป็นต้องตีกรอบให้พวกเขานั่งเฝ้าโต๊ะทำงานอยู่ตลอดเวลาให้มากนัก บางทีคนเรามันก็ต้องรีแล็กซ์ด้วยการเดินออกไปชงกาแฟ หรือสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอกบ้าง ตราบใดที่พวกเขาทำงานให้คุณเสร็จตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ เพราะไม่มีใครอยากนั่งอุดอู้เฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปตลอด 8 ชั่วโมงการทำงานหรอกนะ ฉะนั้นอย่าทำตัวเป็นผู้คุม เอ้ย! เจ้านายที่เคร่งครัดที่ปราศจากความยืดหยุ่นเลยดีกว่า
จัดหาสวัสดิการที่ดีให้แก่ลูกน้องนอกจากเรื่องเงินเดือนที่มีให้แก่พนักงานแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญที่ควรจัดหาให้กับพวกเขานั่นก็คือ สวัสดิการ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพประจำปีฟรี เบิกค่ารักษาพยาบาลกับทางบริษัทได้ตามงบที่กำหนด หรือจัดเตรียมห้องฟิตเนสให้พนักงานออกกำลังหายหลังเลิกงาน เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้แก่พวกเขา ว่าบริษัทเองก็มีความห่วงใยและยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาทุกเมื่อ
จะเห็นได้ว่าการดูแลคนทั้งบริษัทให้อยู่ในกฎระเบียบก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แต่การทำให้พวกเขามีความสุขในการทำงานด้วยยิ่งยากกว่าหลายเท่า ทว่าก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้านายที่ดีควรนึกถึงเช่นกัน เพราะบริษัทไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยบุคลากรที่เป็นหัวเรือใหญ่เพียงคนเดียว แต่ยังรวมไปถึงเหล่าพนักงานที่เป็นฝีพายทั้งหลายด้วย หากลูกน้องทำงานอย่างมีความสุข คุณก็แฮปปี้ ระบบการทำงานก็ย่อมเคลื่อนตัวไปโดยไม่มีสะดุดแน่นอน
