แพทย์ชี้ มะเร็งต่อมลูกหมาก คร่าชีวิตชายไทยสูงขึ้น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            "มะเร็ง" เนื้อร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากมาย และมีทีท่าว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่อล่าสุดผศ.นพ.ชูศักดิ์ ปริพัฒนานนท์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบปัสสาวะ รพ.สงขลานครินทร์ ปฏิคมและประชาสัมพันธ์ สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่าตอนนี้ชายไทยที่เสียอายุจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะชายสูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพราะมีรายงานผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากมากเป็นอันดับที่ 4 จากเดิมที่เคยอยู่ในอันดับที่ 9 ซึ่งจริง ๆ แล้วยังไม่ทราบสาเหตุที่มาที่ไปของโรคอย่างแน่ชัด แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมนเพศชาย และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็ว เนื่องจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมักพบมากในชายชาวตะวันตก นอกจากนี้พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมาพบแพทย์ในระยะลุกลามไปมากแล้ว จึงทำให้การรักษาให้เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น

            ทั้งนี้ ทีมแพทย์ได้แบ่งกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ผู้ป่วยในกลุ่มแรกจะไม่แสดงอาการ แต่อาจจะบังเอิญตรวจพบเชื้อมะเร็งจากการตรวจสุขภาพประจำปี โดยในกลุ่มนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากตรวจพบเจอเร็ว กลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่มีความผิดปกติทางระบบปัสสาวะ ซึ่งส่วนมากพบว่าผู้ป่วยมีอาการเกี่ยวข้องกับโรคต่อมลูกหมากโต ในผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะต่อมลูกหมากโต และตรวจชิ้นเนื้อจากทางพยาธิวิทยาเพื่อหาเซลล์มะเร็งต่อไป ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือ ผู้ป่วยที่มีอาการเหมือนกับโรคมะเร็งทั่วไป คือ น้ำหนักลดลง เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามร่างกาย และกระดูก ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถป้องกันมะเร็งลุกลามและทำให้อาการดีขึ้นได้

            การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากมีหลายวิธี ในช่วงแรกนั้นจะรักษาโดยการผ่าตัด การฉายแสง หรือการบล็อกฮอร์โมนเพศชายด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา แต่หากเซลล์มะเร็งเริ่มลุกลามแล้ว ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการรักษาโดยเคมีบำบัด เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซึ่งก่อนเข้ารับการรักษาผู้ป่วยควรเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม โดยการรับประทานอาหารให้สมบูรณ์ กล่าวคือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะนิยมรับประทานผักและปลาเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงผู้ป่วยควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อทำให้เม็ดเลือดฟื้นตัวเร็วและทำให้การรักษาเกิดประสิทธิผลมากขึ้น ทั้งนี้อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงจริง ๆ คือ อาหารรสจัด อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และของหมักดอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ


            หลังจากที่เข้ารับการรักษาโดยเคมีบำบัดแล้ว ร่างกายจะสามารถฟื้นตัวได้ภายใน 14 วัน ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการ คลื่นไส้อาเจียน หรือรู้สึกอ่อนเพลีย และจากอาการเหล่านี้นี่เองที่ทำให้หลาย ๆ คนกลัวว่าร่างกายจะทรุดลง จึงไม่กล้าเข้ารับการรักษาต่อ ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเพียงแค่อาการข้างเคียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น และสามารถป้องกันได้ โดยแพทย์จะประเมินความสามารถของร่างกายตลอดการรักษาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ป่วยที่ผ่านการฉายแสงมาแล้ว อาจต้องรับยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวหลังจากเข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด

            และเพื่อเป็นการป้องกันการลุกลามของเชื้อมะเร็ง ผู้ป่วยควรตรวจร่างกายและเข้ารับการรักษาทันทีหลังจากที่ตรวจพบ ซึ่งในปัจจุบันผู้ป่วยทุกสิทธิ์ในประเทศไทยรวมถึงผู้ป่วยที่มีสิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถเข้ารับการรักษายาเคมีบำบัดได้ รวมทั้งการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมต่อไป