x close

อยากเป็นที่เคารพรักใคร่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

อยากเป็นที่เคารพรักใคร่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           สำหรับลูกผู้ชาย ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต้องการให้ตัวเองเป็นที่รักใคร่นับถือ ต่อให้ไม่ต้องเป็นเจ้าคนนายคน หรือเป็นระดับหัวหน้างานผู้บังคับบัญชา การเป็นคนธรรมดาที่มีคนอื่นมาเคารพรักใคร่นี่มันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือครับ และการจะไปถึงจุดนั้นได้ ไม่ใช่ว่าอยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ แล้วจะได้ความรักใคร่นั้นมาง่าย ๆ หรือจะไปบังคับให้ใครมารักใคร่นับถือตัวเองก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ มันต้องมาจากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของตัวคุณเองต่างหาก ก่อนที่จะพูดแล้วดูเป็นแนวธรรมะธรรมโมเกินไป ก็มาดูกันเลยดีกว่าว่า หากคุณอยากจะเป็นที่รักใคร่ของคนอื่นเขา ต้องทำอย่างไรกันบ้าง

ฟังสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างตั้งใจ

           ผู้นำส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติของผู้ฟังมากกว่าผู้พูด ยามที่คนอื่นพูด คุณต้องทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ตั้งใจ แสดงความสนใจ ไม่พูดแทรก หรือทำท่าว่าเรื่องที่เขาเล่ามันน่าเบื่อ ที่สำคัญอย่าไปแสดงท่าทีว่าอยากเหลือเกินที่จะระบาย (ยัดเยียด) แต่เรื่องของตัวเองให้คนอื่นฟัง

เก่งจริงในสิ่งที่ตัวเองทำ

           เราไม่ได้บอกให้คุณต้องเก่งรอบด้านไปเสียหมดทุกเรื่อง (แต่ถ้าเป็นไปได้จริง ๆ ก็ดีนะ) แต่อยากจะให้คุณเก่งและทำได้ดีกว่าคนอื่น ในเรื่องที่ตัวเองถนัดจริง ๆ คนที่เป็นแบบนี้ได้ รับรองว่าจะมีแต่คนชื่นชอบชื่นชม ดูอย่างนักกีฬาพาราลิมปิกสิ ขนาดร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำอะไรแบบที่คนปกติทำกันก็ไม่ได้ตั้งหลายอย่าง แต่ขอแค่มีความเชี่ยวชาญและโดดเด่นในเรื่องที่ตัวเองทำได้ถนัดที่สุดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น แค่นี้ก็เจ๋งพอจะให้คนครบ 32 อย่างเราซูฮกพวกเขาแล้ว

พูดเท่าที่จำเป็น

           ลองสังเกตดูสิ ว่าคนที่ชอบพูดเป็นต่อยหอยน่ะ ไม่ค่อยจะมีใครเขาจะสรรเสริญชื่นชมกันหรอก ก็เล่นพูดได้เรื่อย ๆ ทั้งเรื่องนู้นเรื่องนี้ จุกจิกไปหมด พูดทั้ง ๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นด้วยซ้ำ สู้เก็บปากเก็บคำไว้ แล้วพูดเฉพาะเรื่องที่จำเป็นและรู้จริงดีกว่า อารมณ์น่าจะประมาณว่า พูดตูมเดียวทุกคนต้องหันมาฟังคุณหมดน่ะ แบบนั้นเจ๋งกว่าเยอะ

อยากเป็นที่เคารพรักใคร่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ไม่ต้องทำเป็นรู้ทุกเรื่อง

           คุณจำเป็นต้องโชว์พาว(เวอร์) ทำตัวว่าเป็นสัพพัญญูผู้รู้รอบทุกอย่าง เช่นว่า ไม่ต้องทำเป็นพยักหน้าตาม หากคนอื่นพูดถึงหนังเรื่องโปรดหรือศิลปินวงโปรดให้ฟัง เพราะหากเขาเกิดถามถึงความคิดเห็นของตอนไคลแมกซ์ หรือว่าเพลงโปรดในอัลบั้มที่ 10 ของวง แล้วคุณตอบไม่ได้ขึ้นมา คราวนี้ล่ะจะหน้าแตกแหลกละเอียด แล้วใคร ๆ เขาก็จะรู้ว่าคุณน่ะไม่ได้รู้จริง แล้วคนอย่างนี้น่ะน่าเชื่อถือซะที่ไหน

พูดะไรแล้วต้องไม่คืนคำ

           เมื่อเราให้สัจจะวาจาอะไรออกไป คำพูดนั้นจะกลายเป็นนายของเราเสมอ การทำอะไรที่ผิดไปจากวาจาที่เคยกล่าวไว้จะทำให้คุณกลายเป็นคนตระบัดสัตย์ไปในทันที บอกว่าจะทำให้ก็ต้องทำ บอกว่าจะช่วยเหลือเต็มที่ ก็ต้องเต็มที่จริง ๆ บอกว่าจะมาก่อนเที่ยง ก็อย่าทำให้เขาต้องรอ .... ถ้าทำได้ครบตามที่พูดหมดทุกอย่าง ผู้คนก็จะเชื่อมั่นนับถือในตัวคุณมากขึ้นเองนั่นแหละ

แต่งตัวให้ดูดี

           ถึงจะบอกกันไว้ว่า คนดี ๆ ให้ดูจากการกระทำ ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วการจะตัดเรื่องรูปกายภายนอกไปโดยสิ้นเชิงนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย มันส่งผลสำคัญ (และบางครั้งก็สำคัญอย่างยิ่งยวดด้วย) ต่อการที่คนอื่นจะมองและมีทัศนคติต่อคุณอย่างไร ไม่เชื่อก็ลองแต่งตัวปอน ๆ เข้าห้าง เดินไปซื้อของที่เคาน์เตอร์หรู ๆ ดูสิ พนักงานเขาจะอยากบริการใครมากกว่ากัน ระหว่างคนแต่งตัวปอน ๆ กับแต่งตัวดี ๆ คำตอบก็คงรู้แก่ใจใช่ไหม เพราะฉะนั้นจะอย่างไรเสีย ก็ขอให้พิถีพิถันกับการแต่งตัวให้ดูดีมากขึ้นสักหน่อย ถึงจะแอบค้านว่า คนดีจริงต้องดูให้ลึกซึ้งจากข้างใน แต่ว่าถ้าดีทั้งเปลือก ดีทั้งข้างใน มันก็เป็นอะไรที่น่าประทับใจกว่าใช่ไหมล่ะ

สุภาพและจริงใจกับคนรอบตัว

           การสุภาพและจริงใจต่อคนรอบตัว ทำให้คนเหล่านั้นจริงใจ  และรู้สึกดีกับคุณ แต่ก็ไม่ต้องเออออห่อหมกไปด้วยกับทุกเรื่องที่อีกฝ่ายพูดเพื่อทำให้เขาพอใจ หรือทำเป็นหัวเราะร่าให้กับมุกตลกที่เขาเล่น ทั้ง ๆ ที่จริงมันก็แค่โจ๊กฝืด ๆ เท่านั้น เอาแค่ยิ้มให้ และไม่ทำทีท่าเยาะเย้ยว่าเขาทำเรื่องเห่ย ๆ ก็พอ

           นอกจากนี้ ให้พยายามจดจำรายละเอียดของคู่สนทนาของคุณให้ได้ ไม่ว่าจะเพิ่งรู้จักกัน หรือรู้จักกันนานแล้ว อย่างเขาชื่ออะไร มีอาชีพอะไร มีลูกกี่คน มีงานอดิเรกแบบไหน เผื่อเจอกันครั้งหน้าแค่ถามว่า เจ้าตัวเล็กสบายดีไหมครับ หรือกิจการร้านอาหารเป็นยังไงบ้างครับ เท่านี้อีกฝ่ายจะดีใจแน่ ที่คุณจดจำและให้ความสำคัญเรื่องของเขาถึงขนาดนี้

อยากเป็นที่เคารพรักใคร่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ไม่ขี้ตู่โมเมทำตัวเป็นเจ้าของ กับสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ

           อันนี้ขอเน้นไปถึงเรื่องของการให้เครดิตในโลกออนไลน์เลยก็แล้วกัน เพราะปัจจุบันมันเป็นอะไรที่ใกล้ตัว เข้าถึงง่าย และทำพลาดได้ง่าย เพียงคลิกปลายนิ้ว...รูปสวย ๆ ที่ไม่ได้ถ่ายมาเอง ก็ยังไปอวดว่านี่ฝีมือคุณ ข้อความโดน ๆ ที่คนน่าจะชอบ ก็อย่าไปอ้างว่าคิดเอง ทั้ง ๆ ที่ก็อปปี้มาจากที่อื่น เห็นมาหลายทีแล้วกับพวกชอบแอบอ้าง พอเรื่องมาแดงทีหลัง ก็แทบจะหมดที่ยืนกันเลยทีเดียวล่ะ

ให้ความเคารพต่อตัวเอง

           คุณควรจะมีความเคารพ และรู้สึกชื่นชมในตัวตนของตนเองเสียก่อน ก่อนที่จะให้คนอื่นมาเคารพรักใคร่คุณได้ คุณต้องรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่ของตัวเองนั้นมีความหมาย เรื่องดี ๆ ที่ได้ทำลงไปนั้นมีค่า อย่ามองตัวเองต่ำต้อย (แต่ก็ไม่ใช่ว่าหลงตัวเองนะ อันนั้นไม่ใช่แค่คนจะไม่เคารพ จะพาลไปเป็นคนไม่อยากคบได้ง่าย ๆ)

ไม่ทำตัวมีสองมาตรฐาน

           การใช้เกณฑ์แบบสองมาตรฐานนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ อย่าทำตัวเคร่งครัดกฎกับคนที่ยศหรือฐานะต่ำกว่า แล้วปฏิบัติอีกแบบกับคนที่เหนือกว่า ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง ก็ยิ่งต้องทำตนให้เสมอภาคกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะหากคุณเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้บังคับบัญชา ยิ่งจำเป็นต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง คิดดูสิว่าคนอื่น ๆ จะมองยังไง ถ้าหัวหน้าบอกว่า พนักงานต้องมาทำงานตอน 8 โมง แต่ตัวเองกลับเข้างานเสียตั้ง 9 โมง สองมาตรฐานแบบนี้ไม่ไหวเลยจริง ๆ

           พอจะเห็นแล้วภาพแล้วใช่ไหมครับ ว่าถ้าอยากจะเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพรักและนับถือจากคนอื่น ๆ ควรต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ความจริงมันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องปกติที่คนเขาทำกัน เพียงแต่ว่าถ้าใครทำได้อย่างเคร่งครัดและเสมอต้นเสมอปลาย ก็จะโดดเด่นขึ้นมาจนเป็นที่รักที่นับถือไปเองนั่นแหละ ส่วนคนที่อยากจะเป็นคนดีเป็นที่นับถือของคนอื่นเขาบ้าง ก็ต้องหนักแน่น และตั้งมั่นในการปฏิบัติตัวให้ดีเป็นพิเศษกันหน่อย แล้วคนรอบข้างก็จะมองคุณด้วยสายตาที่ชื่นชมและเคารพนับถือเองครับ ที่สำคัญต้องทำด้วยความจริงใจ ไม่เสแสร้งนะ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อยากเป็นที่เคารพรักใคร่ ต้องทำอย่างไรบ้าง อัปเดตล่าสุด 18 ตุลาคม 2555 เวลา 17:31:23 5,352 อ่าน
TOP