วิธีจัดการเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวให้เป็นไปอย่างราบรื่น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
   
          สมัยนี้เห็นหลาย ๆ คน มีเรื่องวุ่นวายกับชีวิตเหลือเกินเพราะจัดตารางเวลาชีวิตไม่ลงตัวสักที ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวปะปนยุ่งเหยิงกันไปหมด แต่ชีวิตของบางคนกลับดูลงตัวไปหมดทุกอย่าง เห็นแล้วรู้สึกว่าอยากจะทำให้ได้แบบนั้นบ้าง จะได้มีความสุขกับการใช้ชีวิต วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยนำเทคนิคการแบ่งเวลาระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาฝาก ส่วนจะต้องทำอย่างไรบ้างนั้นก็ตามไปดูกันเลย 

แบ่งโทรศัพท์สำหรับคุยเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน

          หากเป็นไปได้คุณควรแบ่งโทรศัพท์สำหรับพูดคุยเรื่องงานหนึ่งเครื่อง และอีกเครื่องสำหรับติดต่อเรื่องส่วนตัว เพราะคุณอาจจะต้องทนรับโทรศัพท์เป็นร้อย ๆ สายทั้ง ๆ ที่เป็นวันหยุด แทนที่คุณจะใช้เวลานี้พักผ่อน กลับต้องมานั่งปวดหัวเรื่องงานแทน ทางที่ดีก็แยกโทรศัพท์ไปเลยสะดวกที่สุดจะปิดจะเปิดเวลาไหนก็จัดการได้ตามใจคุณ

แบ่งเวลาการทำงานกับชีวิตส่วนตัวให้เหมาะสม

          เราเชื่อว่าหากคุณเปิดโน๊ตบุ๊กมาเจอสารพัดโปรเจคท์งานบนหน้าจอ คุณก็คงอดใจไม่ไหวเกิดอาการคันไม้คันมือ สุดท้ายก็ต้องคลิกเข้าไปทำงานต่ออยู่ดี หากเป็นแบบนี้คุณคงไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวสักที ดังนั้นก็ถึงเวลาที่คุณควรแบ่งเวลาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้เหมาะสมแล้วล่ะ เวลาอยู่ที่บ้านกับครอบครัวหากเป็นไปได้ก็ไม่ควรเปิดโน๊ตบุ๊กนั่งทำงาน ยกเว้นในกรณีที่ช่วงนั้นอาจมีงานเร่งด่วนหรือสำคัญจริง ๆ ถึงค่อยเปิดอีเมลตามงาน ซึ่งเรื่องนี้คนในครอบครัวน่าจะเข้าใจได้ แต่ไม่ใช่หอบหิ้วงานมาทำที่บ้านอย่างเอาเป็นเอาตาย จนคนรอบข้างกลายเป็นส่วนเกิน


หาเวลาพักผ่อนบ้าง

          การทำงานหนักนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ลองฟังเสียงเตือนจากร่างกายของคุณบ้าง บางครั้งถึงแม้กำลังใจของคุณจะเต็มเปี่ยม แต่กำลังกายของคุณอาจจะไม่เหลืออยู่แล้วก็เป็นได้ ดังนั้นคุณก็ควรหาเวลาพักผ่อนเพื่อชาร์จแบตให้กับร่างกายของคุณบ้าง เช่น หลังเวลางานก็เงยหน้าออกไปพบปะผู้คน หรือชวนเพื่อนฝูง ครอบครัวของคุณออกไปทานข้าว ดูหนังกัน ส่วนวันเสาร์ - อาทิตย์ก็ปิดการสื่อสารทุกช่องทางแล้วลองใช้เวลากับตัวเอง หรือไม่ก็พาครอบครัวไปพักผ่อนตามต่างจังหวัดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ พูดง่าย ๆ ก็แค่ทำตามใจตัวเองเท่านั้นแหละ

ไม่ควรคุยโทรศัพท์เรื่องส่วนตัวในเวลางานเกินความจำเป็น

          เรามักจะเห็นคนส่วนใหญ่พร่ำบ่นว่างานเยอะจนไม่มีเวลาทำ แต่หากมองดูดี ๆ แล้วก็จะเห็นว่าในหนึ่งวันเราทุกคนต่างก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด ถึงแม้งานจะหนักหรือมากมายเพียงใด พวกเขาก็ยังสามารถสะสางจัดการทุกอย่างได้ทันเวลาและงานก็ออกมาดีเสียด้วย ทั้งนี้ เป็นเพราะพวกเขารู้จักแบ่งเวลาระหว่างงานกับเรื่องส่วนตัว ฉะนั้นหากคุณอยากทำงานแบบมืออาชีพและจัดการทุกอย่างให้เป็นระเบียบจริง ๆ ก็เก็บโทรศัพท์ส่วนตัวเอาไว้คุยหลังเลิกงานดีกว่านะ
 
ไม่เก็บเรื่องงานมาคุยโทรศัพท์ต่อที่บ้าน

          มันคงเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย หากชีวิตเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวดำเนินไปพร้อม ๆ กันได้อย่างไหลลื่น ฉะนั้นหลังจากเลิกงานแล้ว คุณก็ควรวางงานทุกอย่างเอาไว้บนโต๊ะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นสลัดเรื่องงานจากหัวออกไปให้หมด  เมื่อก้าวเข้าบ้านแล้ว ตัดทุกการสื่อสารจากเรื่องงานและติดต่อเฉพาะเรื่องงานที่สำคัญเท่านั้น เพราะนาทีนี้ควรมีแต่เรื่องครอบครัวก็พอ จะนั่งกินข้าว ดูโทรทัศน์ เล่นกับลูกหรือพูดคุยกัน หรืออยากจะทำอะไรก็ทำเต็มที่ ใช้เวลาช่วงนี้เติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปให้สมบูรณ์
  
วางแผนชีวิต

          การวางแผนชีวิตก็เปรียบเหมือนเข็มทิศที่คอยชี้นำทิศทางให้กับคุณ ดังนั้นก่อนถึงวันใหม่คุณก็ควรวางแผนแล้วว่า ในวันถัดไปคุณต้องทำอะไรบ้าง เพื่อป้องกันความผิดพลาด และช่วยให้คุณรับมือกับเรื่องต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และการวางแผนที่ดีนั้น นอกจากจะช่วยจัดการเรื่องงานของคุณแล้ว ยังเป็นการจัดระบบระเบียบให้ชีวิตส่วนตัวของคุณง่ายขึ้นอีกด้วย

          เมื่อพิจารณาจากวิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้แล้ว จะเห็นว่าไม่มีวิธีไหนยากจนเกินไปเลย แค่คุณรู้จักแบ่งเวลาส่วนตัวกับเวลางานให้เหมาะสม เพียงเท่านี้คุณก็สามารถจัดการกับชีวิตอันแสนยุ่งเหยิงให้กลับมาเข้าที่เข้าทางได้เหมือนเดิมแล้วล่ะ