5 วิธีเคลียร์สมองให้ปลอดโปร่งพร้อมรับวันใหม่อย่างสดใส

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          คุณอาจคิดว่าเวลาที่เราเครียด ๆ เพียงแค่ไปปาร์ตี้กับเพื่อนให้สะใจก็เพียงพอที่จะทำให้เราลืมปัญหาทุกอย่างได้แล้ว แต่ที่จริงวิธีพวกนั้นสามารถช่วยเบนความสนใจให้คุณได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ แต่วิธีที่จะช่วยให้คุณละทิ้งจากความฟุุ้งซ่านได้ดีที่สุด นั้นคือ การทำจิตใจให้ปลอดโปร่งด้วยตัวเองต่างหาก เพราะจะช่วยให้คุณลืมความเศร้าที่เข้ามาและได้พบกับความสุขที่แท้จริง ซึ่งวิธีปฏิบัติก็ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งยาจากแพทย์หรือออกทริปเดินทางไปพักร้อนราคาแพง ๆ ให้เปลืองสักนิด เพราะคุณสามารถทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ ไม่เชื่อก็ลองไปดูเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันเลย

 1. เริ่มจากการค้นหาตัวเอง

          คุณคงไม่มีวันพบความสงบสุขในชีวิตได้ถ้าหากยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ เพราะจะทำให้คุณไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจริง ๆ สักที จนใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมายเหมือนคนหลงทางอยู่อย่างนั้น ดังนั้นคุณจึงควรตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เงินทอง หน้าที่การงาน ครอบครัว หรือความรัก แล้วจึงมุ่งมั่นไปที่สิ่งนั้น เพื่อให้ทุก ๆ วันในชีวิตของคุณมีความหมายมากขึ้น

2. จดจ่อที่หว่างคิ้ว

          สำหรับคนที่มักจะคิดฟุ้งซ่านเรื่องโน้นเรื่องนี้จนไม่สามารถสงบจิตใจได้ การเอาสมาธิไปจดจ่อกับร่างกายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก็น่าจะเป็นวิธีที่ได้ผลอยู่เหมือนกัน ด้วยการหลับตาแล้วโฟกัสระดับสายตาให้อยู่ตรงหว่างคิ้ว พร้อมกับใช้นิ้วชี้กดที่หว่างคิ้วและเพ่งความสนใจที่นิ้วสักพักจนกว่าจะลืมเรื่องเครียด ๆ ที่คุณฟุ้งซ่าน แล้วทำให้จิตใจว่างเปล่าจนเกิดสมาธิได้ในที่สุด

3. มองเพดานที่ว่างเปล่า

          คุณไม่จำเป็นต้องหลับตานั่งสมาธิในห้องพระเสมอไป เพราะที่อื่นซึ่งเป็นมุมสงบของบ้านก็สามารถช่วยให้คุณนั่งสมาธิทั้ง ๆ ที่ยังลืมตาอยู่ได้เช่นกัน โดยคุณเพียงแค่ใช้สายตาจ้องมองไปที่เพดานหรือกำแพงที่ว่างเปล่าโดยควบคุมสติไม่ให้คิดอะไรไปมากกว่านั้น ก็จะเป็นการช่วยสงบจิตใจให้คุณผ่อนคลายได้แล้ว ซึ่งคุณสามารถเอาเวลาก่อนเข้านอนมาใช้นอนจดจ้องเพดานสร้างสมาธิก็ยังได้ แต่ระวังอย่าเผลอหลับซะก่อนล่ะ


4. ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

          หากใช้เวลาที่คุณโอ้เอ้นอนต่อประมาณ 15 นาทีหลังนาฬิกาปลุกทุกเช้า มาใช้รวบรวมสมาธิทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานแทน ก็จะช่วยให้คุณใช้เวลาได้คุ้มค่าขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว เพราะวิธีนี้นอกจากจะช่วยให้คุณได้ใช้สมองจนรู้สึกตื่นเต็มตาอย่างสดใสมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยฝึกความจำ ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านพ้นไป และทำให้คุณสามารถวางแผนชีวิตในแต่ละวันได้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นก่อนลุกจากเตียงวันพรุ่งนี้อย่าลืมลองเอาวิธีนี้ไปใช้กันดูนะ

5. เพลงเพราะ ๆ ช่วยคุณได้

          รู้ไหมว่า เสียงเพลงมีผลกับสมองมากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะเพลงบรรเลง เพราะจะช่วยผ่อนคลายความเครียดให้คุณได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าคุณได้ฮัมเพลงตามไปด้วย ก็จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย เพราะฉะนั้นก่อนจะออกจากบ้านไปเผชิญรถติดที่น่าเบื่อคราวหน้า ก็อย่าลืมหาเพลงเพราะ ๆ ติดไปฟังให้ตัวเองได้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วยล่ะ

          ทั้งนี้อีกอย่างที่ขาดไม่ได้สำหรับการเคลียร์พื้นที่ในสมองให้ปลอดโปร่งก็คือ การปรับความคิดและมุมมองของตัวเองนี่แหละ ควรปล่อยวางเรื่องบางเรื่องที่ไม่จำเป็นทิ้งไปบ้าง และคิดซะว่าอุปสรรคที่เข้ามาเป็นเพียงแค่บททดสอบที่ทำให้สภาพจิตใจเข้มแข็งขึ้นเท่านั้น เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้เวลาที่ยากลำบากกลายเป็นเรื่องสุดแสนจะธรรมดาที่คุณสามารถก้าวข้ามมันไปได้ง่าย ๆ แล้วล่ะครับ