x close

เปรียบมวย WinZip VS WinRAR โปรแกรมบีบอัดไฟล์ตัวไหนเจ๋ง





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Win-RAR.com, WinZip.com

          ถ้าจะพูดถึงโปรแกรมบีบอัดไฟล์ ที่มีใช้กันมายาวนานก็คงจะหนีไม่พ้นโปรแกรมที่ชื่อว่า WinZip และ WinRAR ทั้งสองเป็นคู่แข่งที่อยู่ในวงการบีบอัดข้อมูล ที่ขับเคี่ยวกันมานานทั้ง WinZip และ WinRAR ต่างก็เป็นโปรแกรมบีบอัดไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ให้มีขนาดเล็กลงและขยายไฟล์ที่ถูกบีบอัดให้มีขนาดเท่าเดิม ทั้งสองโปรแกรมนี้จึงกลายเป็นคู่ปรับตลอดกาลด้วยการพัฒนาของโปรแกรมที่ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติการทำงานให้ทันสมัยอยู่เรื่อย ๆ

          ทั้งนี้ อาจทำให้ผู้ใช้งานหลายคนเกิดอาการสับสนว่าควรเลือกใช้โปรแกรมบีบอัดไฟล์ตัวไหนดี  ระหว่าง WinZip กับ WinRAR แล้วฟีเจอร์การทำงานต่าง ๆ ของโปรแกรมทั้งสองตัวนี้ เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร มาหาคำตอบจากข้อมูลด้านล่างนี้กันครับ

 

WinRAR




          WinRAR โปรแกรมบีบอัดไฟล์และขยายไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก ด้วยประสิทธิภาพในการบีบอัดไฟล์และความปลอดภัยทำให้ผู้ใช้งานหลายคนไว้วางใจ ปัจจุบันโปรแกรม WinRAR พัฒนามาถึง WinRAR 4.10 ที่มาพร้อมกับความสามารถใหม่ ๆ

รองรับการทำงานบน Windows 7 อย่างเต็มรูปแบบทั้งระบบปฏิบัติการแบบ 32-bit และ 64-bit  รวมไปถึงระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ด้วย

รองรับภาษามากถึง 50 ภาษา WinRAR สนับสนุนรูปแบบการบีบอัดหลายแบบที่คนนิยมใช้กัน (RAR, ZIP, CAB, ARJ, LZH, ACE, TAR, Gzip,UUE, ISO, bzip2, Z และ 7-Zip)

เพิ่มความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสไฟล์แบบ 128 bit และคุณภาพไฟล์ที่บีบอัดจากโปรแกรม WinRAR มีคุณภาพกว่า WinZip ด้วยขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า

เพิ่มความเร็ว โดยสามารถบีบอัดไฟล์ข้อมูลได้เร็วขึ้น 30%

          และสิ่งที่ผู้ใช้งานหลายคนสงสัยโปรแกรม WinRAR นั้นสามารถแตกไฟล์ที่ถูกบีบอัดด้วยโปรแกรม WinZip ได้หรือไม่ คำตอบก็คือ สามารถแตกไฟล์ได้ 100% สำหรับใครที่สนใจจะดาวน์โหลดโปรแกรม WinRAR ไปใช้งานนั้น ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า โปรแกรมตัวนี้ไม่ได้แจกจ่ายให้ใช้งานกับแบบฟรี ๆ โดยโปรแกรมมีมูลค่าถึง 970.05 บาท ($29.00) แต่ทาง WinRAR ก็ไม่ได้ใจร้ายกับผู้ใช้งานไปซะทีเดียว หากต้องการทดลองใช้งาน ก็สามารถดาวน์โหลด WinRAR ที่เป็นเวอร์ชั่น ShareWare(ทดลองใช้งาน) สามารถนำไปติดตั้งและใช้งานได้ 40 วัน ดาวน์โหลดโปรแกรม WinRAR ได้ที่ http://www.win-rar.com/ และ http://www.rarlab.com

 

WinZip




          WinZip โปรแกรมที่อยู่คู่กับวงการบีบอัดไฟล์มานาน ก็ไม่ได้น้อยหน้าประกาศชัดเจนว่าโปรแกรม WinZip นั้นเป็นที่ 1 ในโลกของบรรดาโปรแกรมบีบอัดไฟล์ ที่มากไปด้วยอรรถประโยชน์สำหรับการบีบอัดไฟล์, แชร์ไฟล์, การเข้ารหัสไฟล์และสำรองข้อมูล จากประสบการณ์การพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มากกว่า 20 ปี เรื่องการบีบอัดไฟล์ ขยายไฟล์ของผู้ใช้งานทุกคนเป็นเรื่องง่าย ๆ และปลอดภัย

          นอกจากนี้ WinZip ยังคงพัฒนาโปรแกรมของตัวเองให้ก้าวหน้า อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ และนี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้งานเลือกไม่ถูกว่า ควรใช้อะไร ระหว่าง WinRAR และ WinZip ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “รักพี่เสียดายน้อง” ปัจจุบันโปรแกรม WinZip เดินทางมาถึง WinZip 16 มาพร้อมกับฟีเจอร์และฟังก์ชั่น

การทำงานแบบเต็มรูปแบบ ความสามารถใหม่ ๆ เช่น

สามารถส่งไฟล์ใหญ่ ๆ ผ่านทางโปรแกรมไปยังอีเมล์ได้สูงสุดถึง 2GB

อัพโหลดไฟล์และโพสต์ต่าง ๆ ไปยัง Facebook ได้ ผ่าน ฟีเจอร์ ZipShare

รองรับการทำงานและบีบอัดไฟล์บนระบบ 64-Bit

Zip และเขียนไฟล์ลง Blu-ray Disc ได้

เพิ่มระบบตรวจสอบคอมฯ ในกรณีที่มีปัญหา เพียงแค่คลิกเดียว

ติดตามฟีเจอร์อื่นๆ ได้ที่ http://www.winzip.com/prodpagewz.htm

          สำหรับใครที่สนใจและต้องการดาวน์โหลดโปรแกรม WinZip ไปติดตั้งและใช้งานนั้น โปรแกรมนี้ก็ไม่ได้แจกจ่ายฟรีอีกเช่นกัน โดยมูลค่าของโปรแกรมมีราคาถึง $29.95 (เวอร์ชั่นพื้นฐาน) ประมาณ 900 บาทและเวอร์ชั่นอื่น ๆ ราคาของโปรแกรมก็จะสูงขึ้นตามลำดับ แต่อย่าเพิ่งน้อยใจนะครับ WinZip ก็เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไปทดลองใช้งานได้เหมือนกับโปรแกรม WinRAR โดยโปรแกรมที่ดาวน์โหลดไปนั้นจะมีคุณสมบัติแบบ Shareware (ทดลองใช้งาน) สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม WinZip ได้ที่ http://www.winzip.com

คำแนะนำเลือกใช้อะไรดีระหว่าง WinRAR และ WinZip ?

          หากต้องการใช้งานแบบพื้นฐานทั่วไป เน้นฟีเจอร์การทำงานแบบเฉพาะเจาะจงไม่ยุ่งยากซับซ้อน พร้อมด้วยคุณสมบัติอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน และเน้นคุณภาพของไฟล์ที่ถูกบีบอัด แนะนำให้ใช้โปรแกรม WinRAR แต่ถ้าต้องการใช้งานด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและมีเครื่องมือที่คอยอำนวยความสะดวกไว้อย่างครบครัน ทำงานได้สารพัดรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งไฟล์ แชร์ไฟล์ หรือใช้งาน FTP อัพโหลดไฟล์ต่าง ๆ ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สมบรูณ์แบบ แนะนำให้ใช้งาน WinZip เพื่อความคุ้มค่ากับเงินที่ซื้อโปรแกรมตัวนี้ไปใช้งาน


ทางเลือกอื่น โปรแกรมฟรี (Freeware) ที่สามารถใช้งานแทน WinRAR และ WinZip

1. 7-Zip  โปรแกรมบีบอัดไฟล์และแตกไฟล์ที่โด่งดังจากโลกโอเพ่นซอร์ส คุณสมบัติของโปรแกรมและความสามารถต่าง ๆ สามารถใช้แทน WinRAR และ WinZip แบบได้อย่างสบายใจรองรับการใช้งานทั้งบน Windows, Linux และ Mac OS X

2. TUGZip  โปรแกรมบีบอัดไฟล์ที่มากไปด้วยความสามารถ พร้อมด้วยฟีเจอร์การทำงานเต็มรูปแบบ ขอบอกว่าโปรแกรมตัวนี้ใช้แทน WinRAR และ WinZip ได้สบาย ๆ

3. Kuaizip โปรแกรมบีบอัดไฟล์ที่ส่งตรงมาจากประเทศจีน มาพร้อมกับคุณสมบัติที่อวดอ้างสรรพคุณว่า โปรแกรมตัวนี้มีความสามารถและทำงานได้ดีกว่าโปรแกรม WinRAR และ WinZip หลายเท่าตัว จะจริงหรือไม่นั้น ต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง

4. HaoZip  โปรแกรมบีบอัดไฟล์จากประเทศจีนอีกตัว ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การทำงานแบบครบครัน สามารถใช้งานแทนโปรแกรม WinRAR และ WinZip ได้อีกเช่นกัน
 
5. Zipeg โปรแกรมขยายไฟล์ที่ถูกบีบอัด สามารถเปิดไฟล์ .Zip และ .RAR พร้อมกับพรีวิวสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายในไฟล์แม้ยังอยู่ใน .Zip หรือ .RAR

6. PeaZip  โปรแกรมบีบอัดไฟล์อีกตัวที่เป็น โอเพ่นซอร์ส ที่มีคุณสมบัติมากมาย จนทำให้ผู้ใช้งานลืมนึกไปเลยว่านี่คือโปรแกรมฟรีแวร์ เพราะรองรับการบีบอัดและขยายไฟล์อย่างหลากหลายรูปแบบ รองรับการทำงานทั้งบน Windows และ Linux ทั้งแบบ 32-bit และ 64-bit

          โลกนี้ยังมีโปรแกรมอีกมากมายที่สามารถใช้งานทดแทนโปรแกรมที่เสียเงินได้มากมายและการเลือกใช้งานโปรแกรมนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานแล้วก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน โปรแกรมฟรีแวร์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเงินซื้อโปรแกรมราคาแพง ๆ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องซื้อจริง ๆ ก็อย่าลืมเลือกโปรแกรมที่คุ้มค่าและเหมาะกับการใช้งานให้มากที่สุดนะครับ


หมายเหตุ: แก้ไขข้อมูล ณ. วันที่ 19 มกราคม 2555 เวลา 09.30 น.



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปรียบมวย WinZip VS WinRAR โปรแกรมบีบอัดไฟล์ตัวไหนเจ๋ง โพสต์เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 15:37:01 5,482 อ่าน
TOP