x close

รักษาหลุมสิวผู้ชาย ทำยังไงให้หนุ่ม ๆ กลับมาหน้าใสเรียบเนียน

รักษาหลุมสิวผู้ชาย จะต้องทำยังไงเมื่อเป็นสิวแล้วเกิดหลุมสิว ทำให้หน้าดูไม่เรียบเนียน จะมีวิธีรักษาหลุมสิววิธีไหนบ้างที่จะทำให้หนุ่ม ๆ กลับมาหล่อใสอีกครั้ง มาดูกัน

รักษาหลุมสิวผู้ชาย

ปัญหาผิวหน้าที่ผู้ชายหลายคนประสบพบเจอก็คือ หน้ามัน รูขุมขนกว้าง และเป็นสิว ซึ่งหลังจากรักษาสิวหายก็เกิดหลุมสิวตามมาอีก ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียนดังเดิม หนุ่ม ๆ หลายคนเลยเสาะแสวงหาวิธีรักษาหลุมสิวเพื่อจะทำให้กลับมาหล่อใสอีกครั้ง แต่จะต้องทำยังไงล่ะ ? วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีรักษาหลุมสิวผู้ชายมาฝากแล้ว มาดูกันเลยว่า ทำไมหน้าถึงเป็นหลุมสิว แล้วจะรักษายังไงดี ?

หลุมสิว เกิดจากอะไร

หลังจากที่เราเป็นสิว หลายคนมักจะเกิดหลุมสิวเข้ามาแทนที่ ซึ่งหลุมสิวส่วนใหญ่เกิดจากผิวชั้นในไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาแทนที่เนื้อเยื่อที่ถูกเชื้อสิวทำลายได้ หรือผิวรอบ ๆ บริเวณสิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาไม่ทัน ทำให้ผิวกลายเป็นแผลลึก หรือที่เรียกว่าหลุมสิวนั่นเอง โดยมักจะเกิดขึ้นกับสิวอักเสบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสิวอักเสบก็พบมากในเพศชายเช่นเดียวกัน

วิธีรักษาหลุมสิวผู้ชาย ทำยังไงได้บ้าง

การรักษาหลุมสิวของผู้ชายนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ รักษาด้วยตัวเอง กับพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์ ขึ้นอยู่กับว่าหนุ่ม ๆ อยากเห็นผลรวดเร็วขนาดไหน โดยเราสามารถรักษาหลุมสิวได้ด้วยวิธีดังนี้ครับ

รักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง

วิธีการรักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง หนุ่ม ๆ จะต้องมีวินัยในการดูแลผิวพรรณมาก ๆ นะครับ เพราะต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการทาครีมหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน โดยทำได้ดังนี้

  1. ทา AHA - เรามักจะเห็นส่วนผสมของ AHA ในผลิตภัณฑ์สำหรับคนเป็นสิว เนื่องจากช่วยขจัดผิวที่ตายแล้วและป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน ยังช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิวดูจางลงด้วย เหมาะสำหรับรอยแผลเป็นจากสิวทุกชนิด ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
     
  2. ใช้กรดแลคติก - เป็นกรดที่ไม่มีอันตรายต่อผิวเช่นกัน ซึ่งเคยมีงานวิจัยกล่าวว่า การลอกผิวด้วยกรดแลคติกโดยแพทย์ผิวหนังทุก ๆ 2 สัปดาห์ เป็นเวลาต่อเนื่อง 3 เดือน จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น รอยแผลเป็นจากสิวจางลง แต่หนุ่ม ๆ ก็สามารถทากรดแลคติกเองที่บ้านก็ได้ ด้วยการใช้แอปเปิลไซเดอร์ผสมน้ำเช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ เรียกว่าเป็นกรดแลคติกธรรมชาติชั้นดีที่ช่วยให้ผิวกลับมาสุขภาพดีได้ดังเดิม
     
  3. ใช้เรตินอยด์ - เรตินอยด์มีคุณสมบัติในการเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าเรียบขึ้น และยังสามารถทำให้รอยแผลเป็นจากสิวแลดูจางลงได้ ซึ่งมีครีมเรตินอยด์มากมายในท้องตลาด ลองปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนแล้วค่อยซื้อมาใช้ก็ได้ แต่ต้องใช้คู่กับครีมกันแดดนะ ไม่อย่างนั้นผิวอาจจะบางลงได้
     
  4. ใช้กรดซาลิไซลิก - เจ้ากรดนี้มีอยู่ทั่วไปในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าไปจนถึงมอยส์เจอไรเซอร์ โดยคุณสมบัติเด่น ๆ ก็คือ ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ลดอาการบวมและรอยแดง ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่กรดตัวนี้อาจทำให้ผิวบางลงได้ ดังนั้นจึงควรใช้ร่วมกับครีมกันแดด และปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
รักษาหลุมสิวผู้ชาย

รักษาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยี

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่รู้สึกว่าการรักษาด้วยตัวเองใช้เวลานาน อยากเห็นผลเร็ว ๆ การรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็เป็นหนทางที่น่าสนใจครับ โดยสามารถรักษาหลุมสิวได้หลายวิธี ดังนี้

  1. ลอกผิวด้วยเคมี - เป็นวิธีที่ค่อนข้างเห็นผลรวดเร็ว เหมาะสำหรับหลุมสิวขนาดตื้นและขนาดลึกปานกลาง ซึ่งสารที่แพทย์ใช้ลอกผิวจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน มีหลายตัว เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซี กรดซาลิไซลิก เป็นต้น
     
  2. กรอผิว - เป็นการขัดและลอกเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสียหายออกไป เพื่อเผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น วิธีนี้ก็เหมาะกับหลุมสิวแบบตื้น ๆ เช่นกัน เพราะจะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก ๆ โดยปัจจุบันมีเครื่องมือหลากหลายชนิดในการกรอผิว แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
     
  3. ทำเลเซอร์ - เป็นการใช้แสงเลเซอร์เข้ามาช่วยในการผลัดผิว เป็นวิธีการผลัดผิวที่ค่อนข้างเร็วและได้ผลชัดเจนกว่าวิธีอื่น ๆ แต่ไม่เหมาะกับคนที่กำลังเป็นสิวอยู่ และหลังทำต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างเคร่งครัด เพราะการทำเลเซอร์ทำให้ผิวบางลง
     
  4. ฉีดฟิลเลอร์ - ฟิลเลอร์ธรรมชาติที่ผสมกรดไฮยาลูรอนิกเป็นสารที่ไม่มีอันตรายและสามารถสลายไปเองได้ นิยมฉีดเพื่อเติมเต็มร่องและหลุมสิว โดยเฉพาะหลุมสิวแบบลึก จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่ผลอยู่ได้นาน 6-12 เดือนก็จะสลายไป ดังนั้นระหว่างที่ฟิลเลอร์ยังอยู่ก็ควรรักษาผิวหน้าให้ดี เพื่อให้คอลลาเจนตามธรรมชาติของผิวสร้างขึ้นมาใหม่
     
  5. Microneedling - เป็นวิธีการใหม่เพื่อเติมเต็มผิว โดยวิธีการคือจะใช้เข็มเล็ก ๆ จิ้มทั่วใบหน้า เพื่อหลอกผิวว่าเกิดแผล ผิวจะได้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาทำให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้นตามไปด้วย แต่อาจจะต้องใช้เวลานานถึง 9 เดือน จึงจะเห็นผลอย่างชัดเจนว่าผิวหน้าเรียบเนียน
     
  6. การปลูกถ่ายผิวหนัง - เป็นวิธีที่เห็นผลที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่สุดเหมือนกัน เพราะต้องผ่าตัดย้ายผิวหนังบริเวณหนึ่งในร่างกายไปทดแทนผิวหนังบนใบหน้า เหมือนเปลี่ยนผิวใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาผ่าตัด พักฟื้น และต้องดูแลตัวเองดี ๆ เพื่อไม่ให้ติดเชื้อ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

การรักษาหลุมสิวผู้ชายมีหลายวิธีที่สามารถรักษาได้ แต่ทางที่ดีที่สุดคือดูแลผิวไม่ให้เกิดสิว เพื่อป้องกันการเกิดหลุมสิว จะได้ไม่ต้องมาหาวิธีรักษาในภายหลังนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, webmd.com, themanual.com, medicalnewstoday.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รักษาหลุมสิวผู้ชาย ทำยังไงให้หนุ่ม ๆ กลับมาหน้าใสเรียบเนียน อัปเดตล่าสุด 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16:13:01 22,771 อ่าน
TOP