หูฟังบลูทูธ 2021 ใช้สะดวก ไม่มีสายเกะกะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคล่องตัว แถมดูทันสมัยมีสไตล์
ปัจจุบันหลายคนเริ่มนิยมใช้หูฟังบลูทูธกันมากขึ้น เพราะไม่มีสายเกะกะ หยิบมาสวมใส่ง่าย พกพาสะดวก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์สุดสมาร์ตที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายกว่าเดิม โดยมีรุ่นใหม่ ๆ ให้เลือกซื้อหลากหลายตั้งแต่ราคาถูกจนถึงแพง และในวันนี้เราจะมาแนะนำหูฟังบลูทูธ 2021 กันว่ามีรุ่นไหนแบรนด์ใดน่าสนใจบ้าง ลองไปดูกันเลย
วิธีเลือกซื้อหูฟังบลูทูธ
หูฟังบลูทูธนั้นมีหลายดีไซน์ ซึ่งจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป รวมทั้งฟังก์ชันเสริมและสเปกที่สามารถเลือกได้ตามงบและลักษณะการใช้งาน โดยเรามีข้อแนะนำในการเลือกซื้อ ดังนี้
1. In-Ear หรือครอบหัว
หูฟังบลูทูธที่ไม่ใช่แบบ True Wireless โดยทั่วไปจะมี 2 แบบ คือ แบบ In-Ear กับแบบครอบหัว ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความชอบ สำหรับแบบ In-Ear จะเป็นแบบจุกอุดรูหู มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ส่วนแบบครอบหัวนั้นจะมีตัวขับเสียงที่ใหญ่ เสียงเบสดังกระหึ่มกว่า แต่ก็ต้องแลกกับขนาดตัวหูฟังที่อาจใส่วิ่งหรือออกกำลังกายได้ไม่สะดวกเท่าแบบ In-Ear
2. ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน
หูฟังบลูทูธหลาย ๆ รุ่นโดยเฉพาะรุ่นแพง ๆ มักจะมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) มาให้ ด้วยการใช้ไมโครโฟนบนตัวหูฟังตรวจจับเสียงรอบข้างที่รบกวนการฟังของเรา เพื่อตัดเสียงรบกวนให้ได้ยินเสียงเพลงในหูฟังชัดเจนมากขึ้น ซึ่งบางรุ่นก็อาจมีโหมดการตัดเสียงรบกวนให้เลือกได้หลายโหมดอีกด้วย
3. ความจุแบตเตอรี่
แน่นอนว่าหูฟังบลูทูธนั้นจำเป็นต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าหากต้องการใช้คุยหรือฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน ๆ โดยที่ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ ก็ควรมองหารุ่นที่แบตเตอรี่ใหญ่ ๆ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน หรืออาจเลือกรุ่นที่มีระบบชาร์จเร็ว ชาร์จแค่แป๊บเดียวก็ใช้ต่อได้อีกนานหลายชั่วโมง
4. คุณสมบัติกันน้ำ
ถ้าหากคุณชอบใส่หูฟังไร้สายออกไปข้างนอกเป็นประจำ โดยเฉพาะการใส่ออกกำลังกายหรือเล่นน้ำ ก็ควรเลือกหูฟังที่มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ดี โดยถ้าเป็นรุ่นที่รองรับ IPX4 ขึ้นไปก็จะสามารถกันฝุ่นหรือกันน้ำกระเด็นใส่ได้ แต่ถ้าหากเป็น IPX7 ก็จะสามารถใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้เลย
หูฟังบลูทูธ 2021 ซื้อรุ่นไหนดี
1. JBL LIVE 650BTNC ราคา 5,990 บาท
หูฟังบลูทูธ JBL LIVE รุ่นนี้มาพร้อมตัวขับเสียงขนาด 44 มม. เมื่อเชื่อมต่อกับมือถือแล้วจะรองรับสั่งการด้วยเสียงได้ มีฟีเจอร์ Active Noise Cancelling ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างขณะฟังเพลง นอกจากนี้ก็ยังสามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ภายในมีแบตเตอรี่ 700mAh ชาร์จ 2 ชั่วโมง ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง
2. Sony WI-C200 ราคา 1,590 บาท
หูฟังไร้สายแบบ In-Ear ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบบลูทูธ ที่ตัวหูฟังมีแม่เหล็กเพื่อให้เก็บและพกพาได้สะดวก มีปุ่มควบคุมที่สายคล้องคอ รองรับสั่งการด้วยเสียงทั้ง Siri และ Google Assistant ตัวขับเสียงมีขนาด 9 มม. แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน 15 ชั่วโมง ชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 60 นาที
3. AKG Y500 Wireless ราคา 990 บาท
หูฟัง AKG ตัวนี้เป็นแบบไร้สายที่มีฟีเจอร์สามารถหยุดเล่นเพลงได้เมื่อถอดหูฟัง และจะเล่นต่อเมื่อสวมหูฟัง รวมทั้งปรับความดังและรับสายโทร. เข้าได้ที่ตัวหูฟัง มีเทคโนโลยี Ambient Aware ที่จะช่วยควบคุมระดับเสียงรอบข้างขณะฟังเพลงได้ด้วยปุ่มเดียว นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่อึด ฟังเพลงได้นานถึง 33 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 5 นาที ก็ฟังเพลงต่อได้อีก 1 ชั่วโมง
4. Beats Solo Pro Wireless Noise Cancelling ราคา 10,500 บาท
หูฟัง Beats รุ่น Solo Pro รุ่นนี้มาพร้อมโหมดการฟังถึง 2 โหมด ได้แก่ โหมด Active Noise Cancelling ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และโหมด Transparency สำหรับช่วยให้สามารถรับรู้เสียงรอบข้างได้ ตัวหูฟังใช้ชิป Apple H1 รุ่นใหม่ ใช้งานร่วมกับ Siri ได้ ภายในมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จแบบ Fast Fuel ที่ชาร์จเพียง 10 นาที ก็ใช้ต่อได้นานถึง 3 ชั่วโมง
5. HUAWEI FreeLace Pro ราคา 2,749 บาท
หูฟังบลูทูธแบบคล้องคอที่มีระบบตัดเสียงรบกวน 3 โหมดอัจฉริยะ ให้เลือกเหมาะกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ เช่น ตอนพักผ่อน ทำงาน หรือขณะเดินถนน แถมยังมีไมค์ตัดเสียงรบกวนแบบ Dual-mic Active Noise Cancelling ตัวขับเสียงมีขนาด 14 มม. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง และชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้อีก 5 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถกดเพื่อสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ได้อีกด้วย
6. Bose QuietComfort 35 wireless headphones II ราคา 13,900 บาท
หูฟังระดับพรีเมียมจาก Bose ที่เน้นชูจุดเด่นด้านการตัดเสียงรบกวน ดีไซน์สวยงามทันสมัย ดูดีมีระดับ พร้อมทั้งรองรับ Google Assistant ในตัว สามารถสั่งการด้วยเสียงได้ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 20 ชั่วโมง ตัวหูฟังมีให้เลือก 2 สี คือ สีเงินกับสีดำ
7. Marshall Major IV ราคา 5,490 บาท
หูฟังบลูทูธจากแบรนด์ Marshall รุ่นนี้เป็นแบบครอบหัวที่ถูกออกแบบตามหลัก Ergonomic ให้สวมใส่สบาย สามารถควบคุมการเล่นเพลงหรือการโทรศัพท์ที่ตัวหูฟังได้ แบตเตอรี่ฟังเพลงได้นานมากกว่า 80 ชั่วโมง ชาร์จแค่ 15 นาที ก็สามารถฟังต่อได้ถึง 15 ชั่วโมงเลยทีเดียว รวมทั้งรองรับการชาร์จแบบไร้สาย นอกจากนี้ก็ยังสามารถแชร์เพลงให้เพื่อนฟังด้วยการเสียบสาย 3.5 มม. กับหูฟังอีกอันได้ด้วย
และนี่คือหูฟังบลูทูธจากแบรนด์ดังที่น่าสนใจในปี 2021 อย่างไรก็ตาม ราคาที่ระบุไว้เป็นเพียงราคาเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการปรับลดราคาในภายหลัง รวมทั้งขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา