ย้อนดูรายชื่อ 10 เกมยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ เกมที่ได้รางวัล Game of the Year ตั้งแต่ปี 2010-2019
ตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ปี 2020 กันแล้ว ซึ่งตลอดช่วงทศวรรษ 2010s ที่ผ่านมาในวงการเกมก็มีการพัฒนาเกมใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้เล่นสนุกกันมากมาย และในแต่ละปี The Game Awards ก็จะมีการประกาศรางวัล Game of the Year ให้กับเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปีนั้น ๆ เป็นประจำทุกปี โดยเนื่องในโอกาสส่งท้ายทศวรรษนี้เราก็เลยจะพาไปย้อนดู 10 เกมที่ได้รางวัล Game of the Year ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2010-2019 ว่ามีเกมไหนได้รางวัลนี้ไปครองบ้าง
1. Red Dead Redemption (2010)
เกม Open World ซีรีส์ใหม่จากทีมงาน Rockstar ผู้สร้างเกมซีรีส์ GTA ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 2010 ที่มีตัวเกมแบบโลกเปิดพร้อมภารกิจต่าง ๆ ให้ผู้เล่นสามารถทำและสำรวจโลกได้อย่างอิสระ เลือกเป็นได้กทั้งฮีโร่และวายร้าย เช่นเดียวกับ GTA แต่เกมนี้มีสิ่งที่แตกต่างคือตัวเกมจะมีในธีมคาวบอยตะวันตกที่มีตัวเอกของเรื่องเป็นอดีตโจรกลับใจมาทำสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งระบบเกม ลูกเล่น และเนื้อเรื่อง ต่างมีเสน่ห์และความน่าสนใจ ผสมผสานได้อย่างลงตัว ทำให้คว้าตำแหน่ง Game of the Year เป็นเกมแรกของทศวรรษนี้ไปครอง
2. The Elder Scrolls V: Skyrim (2011)
เกมแฟนตาซี Action RPG สไตล์ตะวันตกแบบ Open World ที่ทำให้เกิดกระแสวลีเด็ด "ธนูปักหัวเข่า" ในยุคนั้น เป็นเกมภาคต่อในตระกูล The Elder Scrolls และภาคนี้จัดว่าเป็นหนึ่งในภาคที่มีกระแสโด่งดังมากที่สุด มีความโดดเด่นและน่าสนใจทั้งในด้านระบบเกมและเนื้อเรื่อง แถมด้วย Mod ในเวอร์ชั่น PC ที่ทำให้ตัวเกมมีลูกเล่นแปลกใหม่อีกสารพัด
3. The Walking Dead (2012)
เกมจากซีรีส์ซอมบี้ยอดฮิต The Walking Dead ที่จากทีม Telltale Games เป็นเกมแนว Interactive Graphic Adventure โดยตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องและตัวละครที่แตกต่างจากในเวอร์ชั่นทีวีซีรีส์ ให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทเป็น Lee ผจญภัยไปกับเด็กสาวที่ชื่อ Clementine และผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ เอาตัวรอดในเมืองที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้ ตัดสินใจและเลือกเส้นทางการดำเนินเนื้อเรื่องในแบบของผู้เล่นเอง ซึ่งจะส่งผลให้ได้เนื้อเรื่องและฉากจบที่แตกต่างกันออกไป
4. Grand Theft Auto V (2013)
อีกหนึ่งเกมแนว Open World จากค่าย Rockstar ที่ได้รางวัล Game of the Year ในทศวรรษนี้ก็คือเกม Grand Theft Auto V ภาคล่าสุดของซีรีส์ GTA ที่ยังคงเสน่ห์ของเกมในสไตล์เดิม ทั้งระบบเกม ภาคกิจหลัก และภารกิจเสริม ให้ผู้เล่นสามารถเลือกทำได้อย่างอิสระ เพิ่มเติมด้วยโหมดออนไลน์ที่ทำให้ผู้เล่นได้ใช้ชีวิตในเกมนี้กันอย่างยาวนาน จนถึงทถกวันนี้ตัวเกมโหมดออนไลน์ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
5. Dragon Age: Inquisition (2014)
เกม RPG สไตล์ตะวันตก ภาคต่อของซีรีส์ Dragon Age ที่ให้ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละคร Inquisitor ให้ออกมามีรูปร่างหน้าตาตามที่ชอบได้ อยากเล่นเพศไหนเผ่าไหนก็เลือกเอาได้เลย ตัวเกมเป็น RPG สไตล์ตะวันตกแบบ Open World ที่มีระบบุต่อให้เล่นได้ทั้งแบบ Action RPG และแบบกึ่งวางแผน เนื้อเนื่องในเกมมีตัวเลือกให้ผู้เล่นเลือกตอบซึ่งจะส่งผลกับเนื้อเรื่องและความสัมพันธ์กับแต่ละตัวละคร พร้อมระบบ Romance ที่ให้ผู้เล่นสามารถเลือกสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับตัวละครที่หลงไหลได้
6. The Witcher 3: Wild Hunt (2015)
ภาคล่าสุดของ The Witcher ที่ให้ผู้เล่นได้สวมบทเป็นนักล่าจอมเชือดที่ชื่อว่า Geralt กับการผจญภัยในโลกกว้างแบบ Open World ด้วยสไตล์เกมและการต่อสู้แบบ Action RPG มีทั้งเนื้อเรื่องหลักและภารกิจย่อยให้ใช้เวลากับมันมากมาย ตัวเกมมีความโดดเด่นทั้งด้านเนื้อเรื่อง กราฟิก และตัวละครที่ดูดีมีเสน่ห์ ซึ่ง The Wticher 3 นี้เป็นเกมที่มีกระแสดีเยี่ยมและโด่งดังมากจนถึงขนาดที่ Netflix ต้องเอาไปสร้างเป็นทีวีซีรีส์เลยทีเดียว
7. Overwatch (2016)
เกม FPS ออนไลน์จากค่าย Blizzard ที่เปิดตัวมาได้ฮิตถล่มทลายจนรับรางวัล Game of the Year Awards ในปีนั้นไปครอง ธีมเกมจะเป็นโลกในยุคอนาคต มีตัวละครฮีโร่ให้เลือกเล่นหลายสิบตัว แต่ละตัวจะมีอาวุธและความสามารถแตกต่างกันออกไป โดยแบ่งออกเป็นสายแทงค์ สายโจมตี และสายสนับสนุน แบ่งทีมออกเป็นฝ่ายรับและฝ่ายรุก ทำภารกิจที่แตกต่างกันไปในแต่ละด่าน เช่น ยึดฐาน หรือดันเพย์โหลด ซึ่งล่าสุดตอนนี้ได้มีการเปิดตัวภาค 2 ออกมาแล้วด้วย
8. The Legend of Zelda: Breath of the Wild (2017)
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในภาคที่ดีที่สุดของซีรีส์ Zelda เลยทีเดียวสำหรับภาค Breath of the Wild ที่ถูกพัฒนาด้านกราฟิกให้ดูสวยงามมากกว่าภาคก่อน ๆ มาก เพื่อให้สมกับที่เป็นเกมของเครื่อง Nintendo Switch ให้ผู้เล่นได้สนุกกับสไตล์เกมแบบ Action ผจญภัยไปในโลกอันกว้างใหญ่ สวมบทบาทเป็น Link เพื่อออกเดินทางต่อสู้กับศัตรูและปีศาจร้ายต่าง ๆ เพื่อช่วยเจ้าหญิง Zelda
9. God of War (2018)
ภาคใหม่ของเกมซีรีส์ God of War ที่ถูกจับปัดฝุ่นล้างระบบเกมยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ดีไซน์ตัวเอก Kratos ที่ดูมีอายุกว่าเดิม แนวเกมที่เปลี่ยนจาก Action ลุยแหลกเป็นแบบ Adventure Open World กับมุมกล้องแบบมองกราฟิกและมุมกล้องที่เปลี่ยนไปจากเดิม ตัวเกมโดยรวมถูกปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มลูกชายของ Kratos มาเป็นคู่หูร่วมเดินทาง ซึ่งแน่นอนว่าทำออกมาได้ดี ยังคงความโหดและความสนุกไม่น้อยไปกว่าภาคก่อน แถมอาจจะถูกใจแฟน ๆ มากขึ้นอีกด้วย
10. Sekiro: Shadows Die Twice (2019)
ปิดท้ายด้วย Game of the Year ปีสุดท้ายของทศวรรษอย่าง Sekiro: Shadows Die Twice เกมแนว Action จากค่าย From Software ผู้สร้างเกมตระกูล Dark Souls ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความยากโหดหินของตัวเอง โดยเกม Sekiro นี้จะเป็นธีมแนวนินจาที่ตัวเอกมีแขนกลสามารถใช้เป็นลูกเล่นในการต่อสู้ได้ ในเกมผู้เล่นจะได้สัมผัสทั้งการลอบเร้นหรือการต่อสู้แบบซึ่ง ๆ หน้า ที่ต้องการหาจังหวะโจมตี ป้องกัน และสวนกลับ เพื่อเอาชนะศัตรูที่โหดจัด ๆ ให้ได้
