ผู้ชายทำงานบ้านเยอะ ทำให้มีเพศสัมพันธ์น้อยลงจริงหรือ ?

          ในยุคนี้คงมีคู่รักหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยที่นิยมแชร์งานบ้านกันทำ แบบไม่ต้องแบ่งแยกว่างานบ้านต้องเป็นงานของผู้หญิงฝ่ายเดียวเท่านั้น และให้ผู้ชายได้เป็นพ่อบ้านใจกล้ามีส่วนช่วยทำงานบ้านด้วย แต่ใครจะรู้ว่าการให้ผู้ชายทำงานบ้านนั้นก็มีผลเสียด้วยเช่นกัน เพราะเคยมีวิจัยออกมาแล้วว่าการที่ผู้ชายทำงานบ้านนั้น มักจะทำให้มีเซ็กส์น้อยลง

          การวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ผู้ชายทำงานบ้านที่เป็นงานของผู้หญิง เช่น ซักผ้า รีดผ้า ทำอาหาร ทำความสะอาด มักจะมีเพศสัมพันธ์น้อยกว่าคนทั่วไป โดยค่าเฉลี่ยการมีเซ็กส์ของคู่รักส่วนใหญ่คือเดือนละ 5 ครั้ง โดยคู่ที่ผู้หญิงเป็นคนทำงานบ้านเองทั้งหมด จะมีเพศสัมพันธ์บ่อยกว่าคู่รักทั่วไปถึง 1.6 เท่าตัวเลยทีเดียว


          อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยนี้ก็ไม่ได้เป็นตัวฟันธงว่าผู้ชายควรเลิกทำงานบ้านเสมอไป เนื่องจากเป็นผลวิจัยที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ค่านิยมก็อาจเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ยังมีอีกผลการวิจัยที่ระบุว่า คู่รักที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต่างช่วยกันทำงานบ้านนั้น กลับมีความสุขในชีวิตคู่มากกว่า และมีอัตราการหย่าร้างต่ำกว่าคู่รักที่ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้เข้าใจได้ว่า ชีวิตคู่ที่มีความสุขนั้นไม่ได้เกิดจากการทำการบ้านบ่อย ๆ เสมอไป

          แต่ไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความพึงพอใจของคู่รักแต่ละคู่ว่าอยากจะแบ่งกันทำงานบ้านแบบไหนมากกว่า นอกจากนี้ในผลวิจัยยังไม่ได้รวมถึงการให้ผู้ชายทำหน้าที่เลี้ยงลูกว่าจะส่งผลใด ๆ ต่อการมีเซ็กส์หรือความสุขในชีวิตคู่ด้วยหรือไม่