Hadaka Matsuri เทศกาลเปลือยกาย งานประจำปีเก่าแก่ที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ยุคโบราณกว่า 500 ปี ชายหนุ่มนับหมื่นคนจะต้องแย่งเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์มาครอบครอง เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งโชคลาภและความสุข
ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งครั้งสำหรับประเพณี Hadaka Matsuri หรือหากจะแปลตามความหมายเป็นภาษาไทยโดยตรงก็คือ "เทศกาลเปลือยกาย" งานประจำปีเก่าแก่ที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562
เทศกาลเปลือยกายนี้นับเป็น 1 ใน 3 ประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่วัดไซไดจิ จังหวัดโอคายาม่า โดยข้อมูลจาก bbc.com ระบุว่างานในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 510 ซึ่งหมายความว่านี่คือเทศกาลเก่าแก่ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยมูโรมาจิในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
เทศกาลเปลือยกายนี้นับเป็น 1 ใน 3 ประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่วัดไซไดจิ จังหวัดโอคายาม่า โดยข้อมูลจาก bbc.com ระบุว่างานในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 510 ซึ่งหมายความว่านี่คือเทศกาลเก่าแก่ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยมูโรมาจิในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
สำหรับพิธี Hadaka Matsuri หรือ เทศกาลเปลือยกาย
เป็นเทศกาลที่ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นจะแข่งขันกันเพื่อแย่งกันครองเครื่องรางที่เรียกว่า
"ชินกิ" (shingi) ซึ่งมีลักษณะเป็นกิ่งไม้ขนาดความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
โดยความเชื่อก็คือผู้ที่ได้ ชินกิ
ไปครองจะกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในปีนั้น
โดยในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมพิธีนับหมื่นคน
ความโดดเด่นของประเพณีนี้ก็คือ ชายที่เข้าร่วมพิธีทุกคนจะต้องอยู่ในสภาพเกือบจะเปลือยเปล่า สวมเพียงแค่ผ้าเตี่ยวชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น และทั้งนี้ทุก ๆ คนจะต้องผ่านการลุยลงไปแช่น้ำในแม่น้ำโยชิท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ ก่อนจะฝ่าด่านเบียดเสียดคนเรือนหมื่นเพื่อแย่ง ชินกิ ที่จะถูกโยนลงมาจากหอศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนั่นทำให้เทศกาลนี้ถูกมองในอีกแง่หนึ่งว่าเป็นพิธีเพื่อทดสอบความเป็นลูกผู้ชายของชาวญี่ปุ่นนั่นเอง
แน่นอนว่านับแต่สมัยโบราณ ประเพณีนี้ย่อมทำให้เกิดเหตุบาดเจ็บรุนแรง หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันจึงต้องมีการกำหนดคุณสมบัติ และมีขั้นตอนการคัดเลือกผู้ที่จะเข้าร่วมพิธี เช่น
- เป็นชายอายุ 13 ปีขึ้นไป
- ไม่มีรอยสักตามร่างกาย
- สุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ห้ามกระทำการทะเลาะวิวาทหรือใช้ความรุนแรง
- ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ
- เพื่อความปลอดภัยผู้ร่วมพิธีทุกคนจะต้องติดชื่อ-นามสกุลของตัวเองไว้ พร้อมข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์และหมู่เลือด
- ผู้ร่วมพิธีทุกคนจะต้องผ่านการอบรมการป้องกันตัวและมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ จากทางวัดก่อนด้วย
ข้อมูลจาก japantimeline.jp, bbc.com, asahi.com
ภาพ Behrouz MEHRI/AFP
ความโดดเด่นของประเพณีนี้ก็คือ ชายที่เข้าร่วมพิธีทุกคนจะต้องอยู่ในสภาพเกือบจะเปลือยเปล่า สวมเพียงแค่ผ้าเตี่ยวชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น และทั้งนี้ทุก ๆ คนจะต้องผ่านการลุยลงไปแช่น้ำในแม่น้ำโยชิท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ ก่อนจะฝ่าด่านเบียดเสียดคนเรือนหมื่นเพื่อแย่ง ชินกิ ที่จะถูกโยนลงมาจากหอศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนั่นทำให้เทศกาลนี้ถูกมองในอีกแง่หนึ่งว่าเป็นพิธีเพื่อทดสอบความเป็นลูกผู้ชายของชาวญี่ปุ่นนั่นเอง
แน่นอนว่านับแต่สมัยโบราณ ประเพณีนี้ย่อมทำให้เกิดเหตุบาดเจ็บรุนแรง หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันจึงต้องมีการกำหนดคุณสมบัติ และมีขั้นตอนการคัดเลือกผู้ที่จะเข้าร่วมพิธี เช่น
- เป็นชายอายุ 13 ปีขึ้นไป
- ไม่มีรอยสักตามร่างกาย
- สุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ห้ามกระทำการทะเลาะวิวาทหรือใช้ความรุนแรง
- ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ
- เพื่อความปลอดภัยผู้ร่วมพิธีทุกคนจะต้องติดชื่อ-นามสกุลของตัวเองไว้ พร้อมข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์และหมู่เลือด
- ผู้ร่วมพิธีทุกคนจะต้องผ่านการอบรมการป้องกันตัวและมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ จากทางวัดก่อนด้วย
ข้อมูลจาก japantimeline.jp, bbc.com, asahi.com
ภาพ Behrouz MEHRI/AFP