แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักของ วิลสัน เวลาสเกวซ (Wilson Velasquez) หนุ่มอ้วนวัย 27 ปี เกิดความอับอายที่ไม่สามารถรัดเข็มขัดนิรภัยเครื่องเล่นในสวนสนุกได้ จึงหันมาลดน้ำหนักเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ตอนนั้น วิลสัน เวลาสเกวซ มีน้ำหนักตัวประมาณ 145 กิโลกรัม แล้วได้ไปเที่ยวสวนสนุกกับเพื่อน ๆ ที่ทำงาน ปรากฏว่าเขาไม่สามารถรัดเข็มขัดนิรภัยได้ จึงต้องลุกออกจากเครื่องเล่นมาท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงาน พอลองเปลี่ยนอีก 2 เครื่องเล่นก็ยังคาดไม่ได้อีกเช่นกัน หลังกลับจากสวนสนุก เวลาสเกวซ จึงคิดทบทวนว่ามันถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว
จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนัก
เดิมที เวลาสเกวซ เป็นคนขี้เกียจและไม่เคยมีความคิดอยากเข้าฟิตเนสมาก่อน แต่หลังจากเผชิญหน้ากับความอับอายในวันนั้น จึงตัดสินใจเลือกสมัครเข้าฟิตเนสข้าง ๆ ที่ทำงาน ทั้งเสียค่าใช้จ่ายและใกล้มาก ๆ เลยไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ไป
สร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกาย
หนุ่มอ้วน ค่อย ๆ เรียนรู้ทีละขั้นตอน โดยตั้งเป้าจะเน้นไปที่การออกกำลังกายเป็นหลักก่อน ยังไม่คิดเปลี่ยนแปลงเรื่องการควบคุมอาหาร เวลาสเกวซ พยายามตัดกิจกรรมบางอย่างออก เพื่อหาเวลามาเข้าโรงยิมอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมสัญญากับตัวเองว่าจะทำมันให้ได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม
เขาเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายแบบ ฟูลบอดี้ (Full Body Workouts) ซึ่งมีประสิทธิภาพมาก ๆ ในการลดน้ำหนัก แต่ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยล้า จากนั้นก็วิ่งสลับเดินบนลู่เป็นเวลา 30 นาที ปรากฏว่าเขาสามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 18 กิโลกรัม ด้วยการออกกำลังกายเพียงตัวคนเดียว และยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องโภชนาการเลยด้วยซ้ำ
หันมาควบคุมอาหาร
ไม่นานหลังน้ำหนักตัวลดลงและได้รับคำชมเชยจากคนรอบข้าง เวลาสเกวซ หันมาใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น ยอมถอยห่างจากมันฝรั่งทอดที่เป็นเมนูโปรดของเขา แล้วนับปริมาณแคลอรีที่กินในแต่ละวัน
หนุ่มอ้วนนั่งดูคลิปวิดีโอใน Youtube เป็นร้อย ๆ เพื่อหาความรู้เกี่ยวกับโภชนาการให้ตัวเอง หลังควบคุมอาหารน้ำหนักของเขาลดไปอีก 13 กิโลกรัม และยังลดลงอีกอย่างต่อเนื่อง
กลายเป็นคนใหม่
ผ่านไป 14 เดือนเต็ม นับตั้งแต่วันที่ เวลาสเกวซ เดินลงจากเครื่องเล่นที่สวนสนุก เขาลดน้ำหนักตัวเองไปได้ราว ๆ 50 กิโลกรัม มันแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่น่ามหัศจรรย์มาก ปัจจุบันอดีตหนุ่มอ้วนยังคงเดินหน้าออกกำลังกายอยู่ โดยเปลี่ยนมาเข้ายิม 6 วันต่อสัปดาห์ แถมยังวิ่งจากยิมกลับบ้านเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตรทุกวัน เพื่อรักษาสุขภาพหัวใจตัวเองอีกด้วย
หลังจากนี้ วิลสัน เวลาสเกวซ ตั้งใจเดินหน้าเป็นครูฝึก ช่วยให้คนอื่น ๆ ที่เป็นเหมือนเขากลับมาสุขภาพดีและมีความมั่นใจ ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขอแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักของเขา ไว้เป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนครับ
ภาพจาก : Instagram wicho1042
ข้อมูลจาก : menshealth.com
จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนัก
เดิมที เวลาสเกวซ เป็นคนขี้เกียจและไม่เคยมีความคิดอยากเข้าฟิตเนสมาก่อน แต่หลังจากเผชิญหน้ากับความอับอายในวันนั้น จึงตัดสินใจเลือกสมัครเข้าฟิตเนสข้าง ๆ ที่ทำงาน ทั้งเสียค่าใช้จ่ายและใกล้มาก ๆ เลยไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ไป
สร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกาย
หนุ่มอ้วน ค่อย ๆ เรียนรู้ทีละขั้นตอน โดยตั้งเป้าจะเน้นไปที่การออกกำลังกายเป็นหลักก่อน ยังไม่คิดเปลี่ยนแปลงเรื่องการควบคุมอาหาร เวลาสเกวซ พยายามตัดกิจกรรมบางอย่างออก เพื่อหาเวลามาเข้าโรงยิมอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมสัญญากับตัวเองว่าจะทำมันให้ได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม
เขาเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายแบบ ฟูลบอดี้ (Full Body Workouts) ซึ่งมีประสิทธิภาพมาก ๆ ในการลดน้ำหนัก แต่ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยล้า จากนั้นก็วิ่งสลับเดินบนลู่เป็นเวลา 30 นาที ปรากฏว่าเขาสามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 18 กิโลกรัม ด้วยการออกกำลังกายเพียงตัวคนเดียว และยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องโภชนาการเลยด้วยซ้ำ
หันมาควบคุมอาหาร
ไม่นานหลังน้ำหนักตัวลดลงและได้รับคำชมเชยจากคนรอบข้าง เวลาสเกวซ หันมาใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น ยอมถอยห่างจากมันฝรั่งทอดที่เป็นเมนูโปรดของเขา แล้วนับปริมาณแคลอรีที่กินในแต่ละวัน
หนุ่มอ้วนนั่งดูคลิปวิดีโอใน Youtube เป็นร้อย ๆ เพื่อหาความรู้เกี่ยวกับโภชนาการให้ตัวเอง หลังควบคุมอาหารน้ำหนักของเขาลดไปอีก 13 กิโลกรัม และยังลดลงอีกอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไป 14 เดือนเต็ม นับตั้งแต่วันที่ เวลาสเกวซ เดินลงจากเครื่องเล่นที่สวนสนุก เขาลดน้ำหนักตัวเองไปได้ราว ๆ 50 กิโลกรัม มันแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่น่ามหัศจรรย์มาก ปัจจุบันอดีตหนุ่มอ้วนยังคงเดินหน้าออกกำลังกายอยู่ โดยเปลี่ยนมาเข้ายิม 6 วันต่อสัปดาห์ แถมยังวิ่งจากยิมกลับบ้านเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตรทุกวัน เพื่อรักษาสุขภาพหัวใจตัวเองอีกด้วย
หลังจากนี้ วิลสัน เวลาสเกวซ ตั้งใจเดินหน้าเป็นครูฝึก ช่วยให้คนอื่น ๆ ที่เป็นเหมือนเขากลับมาสุขภาพดีและมีความมั่นใจ ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขอแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักของเขา ไว้เป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนครับ
ภาพจาก : Instagram wicho1042
ข้อมูลจาก : menshealth.com