x close

10 เรื่องเจ๋ง ๆ ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ไม่ได้เจ๋งแค่ในสนาม

  

        คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Rnaldo) นักเตะคนใหม่ของ ยูเวนตุส กับ 10 เรื่องน่าสนใจทั้งในสนามและนอกสนาม ของหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก
          พอจบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่การย้ายทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ CR7 ซูเปอร์สตาร์ดังที่เปลี่ยนจากสวมเสื้อเบอร์ 7 ให้กับ เรอัล มาดริด เป็นทีมม้าลาย ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวกว่า 100 ล้านยูโร และฟาดค่าเหนื่อยในการค้าแข้งใน ซีเรีย อา อิตาลี สูงถึงปีละ 30 ล้านยูโร

          ด้วยวัย 33 ปี แต่ค่าตัวยังติดอันดับท็อป ๆ ของโลก แสดงให้เห็นว่าชื่อชั้นและฝีเท้าของกัปตันทีมชาติโปรตุเกสอยู่ในระดับไหน ทุกคนคงเคยได้เห็นกับตาและประจักษ์ดี แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าชีวิตจริงนอกสนามของแข้งดังก็เจ๋งไม่แพ้กัน ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ยกให้ โรนัลโด้ เป็นไอดอลในดวงใจ

          และนี่คือประวัติคร่าว ๆ กับ 10 เรื่องเจ๋ง ๆ ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก

คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ภาพจาก : AFP

          ชื่อเต็ม : กริชตียานู รูนัลดู ดุช ซังตุช อาไวรู (Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro)

          ชื่อที่รู้จัก : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo)

          เกิดวันที่ : 5 กุมภาพันธ์ 1985 (อายุ 33 ปี)

          สัญชาติ : โปรตุเกส

          สูง : 185 เซนติเมตร

          สโมสรปัจจุบัน : ยูเวนตุส

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

1. เส้นทางการเล่นฟุตบอล

          โรนัลโด้ คลุกคลีกับลูกฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ในปี 1993 ได้เริ่มเล่นฟุตบอลจริงจังกับทีม อังดูริญญา โดยมีพ่อของเขาเป็นผู้จัดการทีม ในปี 1995 ได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรท้องถิ่น นาซีอูนัล ในปี 1997 ได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรชั้นนำของโปรตุเกส และขยับมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพตอนอายุ 17 ปี และได้ย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ ลีก ให้กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2003 ก่อนถูก เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่ ทุ่มซื้อด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ (แพงที่สุดในโลก ณ ตอนนั้น) เมื่อปี 2009 และได้เป็นขวัญใจแฟนราชันชุดขาวมาจนถึงทุกวันนี้

2. ไม่เคยลืมบุญคุณเพื่อนในวัยเด็ก

          CR7 ซื้อบ้านหลังใหญ่ รถสปอร์ตคันหรู และส่งเงินเลี้ยงครอบครัวของ อัลเบิร์ต ฟอนเตรา (Albert Fantrau) เพื่อนร่วมทีมที่เคยเล่นในสโมสรท้องถิ่นด้วยกัน โดย อัลเบิร์ต เป็นผู้เสียสละส่งบอลให้ โรนัลโด้ ทำประตูและได้สิทธิ์เซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทั้งที่ตัวเขาเลือกคว้าโอกาสไว้เองก็ได้ แต่ตัดสินใจส่งเพราะเห็นว่า โรนัลโด้ มีความสามารถและไปได้ไกลกว่า แม้วันนั้นจะผ่านมานานหลายสิบปี แต่ซุปตาร์ดังก็ไม่เคยลืมบุญคุณของเพื่อนซี้และยังคงให้การช่วยเหลืออยู่เสมอ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้
 
3. นักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ

          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โรนัลโด้ เป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนี้ ถ้าพูดถึงรางวัลที่เขาได้รับ ใช้เวลาทั้งวันก็เล่าไม่หมด นับเฉพาะเด่น ๆ ก็ พาทีมชาติโปรตุเกสได้อันดับที่ 4 ในศึกฟุตบอลโลกปี 2006 และพาทีมฝอยทองคว้าแชมป์ยูโรสมัยแรกในประวัติศาสตร์ได้ในปี 2016

          ครองตำแหน่งเจ้ายุโรปด้วยรางวัล บัลลง ดอร์ หรือ นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี 5 สมัย (จากปี 2008, 2013, 2014, 2016และ 2017) และถือถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 สมัย (จากปี 2008, 2014, 2016, 2017และ 2018) ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดในโลก เท่านี้ก็น่าจะพอการันตีได้แล้ว

4. เปิดพิพิธภัณฑ์ตัวเองในบ้านเกิด

          ในปี 2013 โรนัลโด้ ได้สร้างพิพิธภัณฑ์รวบรวมเกียรติประวัติในวงการลูกหนังของตัวเองขึ้น ที่หมู่เกาะมาเดรา เมืองฟุงซาล ประเทศโปรตุเกส บ้านเกิดของเขา ในพิพิธภัณฑ์จะมีภาพถ่ายหาดูยาก ประวัติตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอล ถ้วยรางวัลต่าง ๆ ที่เคยได้รับมา ลูกฟุตบอลพร้อมลายเซ็นที่ได้รับจากการทำแฮชทริก และรูปหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าตัวจริง ถือเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจและปลุกให้วงการฟุตบอลในโปรตุเกสกลับมาบูมขึ้นอีกครั้ง

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

5. ไม่สักลาย ไม่ดื่มแอลกอฮอล์

          ชูเซ ดีนิช อาไวรู (Jose Dinis Aveiro) พ่อของ โรนัลโด้ เสียชีวิตในวัย 52 ปี ด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นเหตุให้ดาวเตะชื่อดังไม่ยุ่งกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมันจะทำให้เขานึกถึงการจากไปที่ไม่มีวันหวนกลับ นอกจากนี้ยังไม่สนใจการสักลายบนเรือนร่างอีกด้วย เนื่องจาก CR7 เป็นคนที่บริจาคเลือดและไขกระดูกเป็นประจำ

6. ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง

          หลังจาก มาเรีย ดูโลริช (Maria Dolores) แม่ของแข้งดัง รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมในปี 2007 โรนัลโด้ ได้บริจาคเงินเกือบ 5 ล้านบาท ให้กับศูนย์วิจัยการแพทย์ที่รักษาแม่ของเขาในประเทศโปรตุเกส และในปี 2012 ยังให้การช่วยเหลือเด็กชายชาวสเปนวัย 9 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ด้วยการรับผิดชอบค่ารักษาให้ทั้งหมด

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

7. มีโปรแกรมออกกำลังกายพิเศษเฉพาะตัว

          ส่วนใหญ่นักฟุตบอลพออายุย่างเข้าเลข 3 ร่างกายก็จะเริ่มโรยรา ความแข็งแกร่ง ความคล่องแคล่วลดลง และอาจต้องกลายเป็นผู้เล่นตัวสำรอง แต่สำหรับ โรนัลโด้ สภาพร่างกายยังดูฟิตเหมือนคนหนุ่ม และเป็นนักเตะตัวหลักของสโมสรกับทีมชาติอยู่เลย ความแข็งแรงนี้เขาได้จากการฝึกโปรแกรมออกกำลังกาย พิเศษที่ผู้เชี่ยวชาญได้ออกแบบให้โดยเฉพาะ และมีนักโภชนาการมาควบคุมอาหารการกินให้อีกด้วย

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

8. นักเตะที่มีรายได้ต่อปีมากที่สุดในโลก


          เรียกว่าหยิบจับอะไร ขยับตัวไปทางไหนก็กลายเป็นเงินเป็นทองไปหมด ในปี 2017-2018 ดาวยิงชาวโปรตุเกสขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่มีรายได้ มากที่สุดในโลก แม้ค่าเหนื่อยต่อปีน้อยกว่าสตาร์หลาย ๆ คน แต่พอนับรวมกับเงินโบนัสจากการคว้าแชมป์ งานพรีเซ็นเตอร์ งานโฆษณาแล้ว ปีที่ผ่านมา CR7 กวาดเงินเข้ากระเป๋าไปราว ๆ 1 หมื่นล้านบาท สูงแซงหน้าคนอื่นขาดลอย

9. สารคดีเรื่อง Ronaldo

          จากชีวประวัติและเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับวงการลูกหนังบ่อย ๆ เรื่องราวชีวิตของ โรนัลโด้ จึงถูก เจมส์ เกย์-รีส (James Gay-Rees) ผู้กำกับมือดี นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Ronaldo สารคดีชีวิตที่ถ่ายทอดเรื่องราวในวัยเด็กทั้งในสนามและนอกสนาม สู่การเป็น CR7 ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง เชื่อว่าใครที่ได้ดูจะต้องรู้จักเขาคนนี้มากขึ้นแน่นอน

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

10. ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

          ใคร ๆ ต่างก็คิดว่า โรนัลโด้ จะยืนหยัดอยู่เป็นตำนานของ เรอัล มาดริด แต่เจ้าตัวกลับเลือกย้ายไปสวมเสื้อเบอร์ 7 ให้กับ ยูเวนตุส  ยอดทีมของ เซเรีย อา อิตาลี ทิ้งโอกาสทำลายสถิติต่าง ๆ กับราชันชุดขาว เพื่อออกไปแสวงหาความท้าทายใหม่ ๆ และต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในช่วงบั้นปลายของการค้าแข้ง ส่วนฟอร์มการเล่นหลังจากนี้จะเป็นยังไง คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

ภาพจาก : Instagram cristiano

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 เรื่องเจ๋ง ๆ ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ไม่ได้เจ๋งแค่ในสนาม อัปเดตล่าสุด 23 กรกฎาคม 2561 เวลา 11:11:49 27,937 อ่าน
TOP