พบกับอดีตหนุ่มอ้วนอมทุกข์ ผู้เคยหนัก 180 กิโลกรัม ทั้งตกงาน สาวทิ้ง เอาความเจ็บช้ำเป็นแรงผลักดัน ฟิตหุ่นจนกลายเป็นเทรนเนอร์หุ่นแซ่บ งานดีเว่อร์
ลูอิส ตรีโก้ หนุ่มอเมริกันวัย 30 ปีคนนี้ เคยมีชีวิตที่เลวร้าย เขาเคยมีน้ำหนักตัวมากถึง 400 ปอนด์ หรือกว่า 180 กิโลกรัม เคยสูญเสียงาน สูญเสียคนรัก และเคยถูกหมอทักว่ากำลังจะตาย อุปสรรคทุกอย่างที่ถาโถมทำให้ลูอิสมองย้อนมาดูตัวเอง และทำให้คิดว่า ถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงแล้ว
เรื่องราวของลูอิสถูกเปิดเผยโดยเว็บไซต์มิเรอร์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 ระบุว่า ลูอิสเป็นคนที่มีรูปร่างอ้วนมาตั้งแต่เด็กจนโต เขามีน้ำหนักตัวมากกว่าเพื่อน ๆ คนอื่นมาตลอด และกลายเป็นโรคอ้วนตอนที่ขึ้นชั้นมัธยมปลาย
ในปี 2554 สมัยที่ลูอิสยังเป็นหนุ่มอายุ 24 ปีนั้น เขาทำงานในโกดังสินค้าซึ่งเป็นงานที่ต้องยืนและเดินไปเดินมาอยู่ตลอด แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่มากเกินเกณฑ์ทำให้ลูอิสทำงานด้วยความยากลำบาก การยืนทำให้ขาและเท้าแบกรับน้ำหนักตลอดเวลา ลูอิสแทบจะยืนไม่ไหว เขาเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ต้องคอยพิงชั้นวางของ และเจ็บเท้าอย่างมาก
ลำพังแค่ปัญหาเรื่องหน้าที่การงานก็เลวร้ายพออยู่แล้ว ทุกอย่างมายิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อแฟนสาวมาบอกเลิก ทิ้งเขาไปหลังจากคบหาดูใจกันมานานหลายปี การอกหักทำให้ลูอิสเจ็บปวดมาก เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จมอยู่กับความทุกข์ น้ำหนักของเขาพุ่งพรวดขึ้นมาอีก 50 ปอนด์ (22.6 กิโลกรัม) ภายในระยะเวลาแค่เพียง 2 เดือน ขนาดตัวของเขาใหญ่เท่ากับ 2 คนรวมกัน เวลาจะโดยสารบนเครื่องบิน เขาต้องจองตั๋วเพิ่มอีก 1 ที่นั่ง เพราะนั่งที่เดียวไม่พอ
ความอ้วนมาพร้อมกับโรคสารพัด แพทย์ตรวจพบว่าเขาป่วยเป็นโรคเบาหวาน อีกทั้งหัวใจก็มีปัญหา ลูอิสได้รับคำเตือนจากแพทย์ว่า "คุณอายุแค่ 24 ปีแต่มีน้ำหนักมากถึง 180 กิโลกรัม ถ้าคุณไม่เปลี่ยนตัวเองเสียตั้งแต่ตอนนี้ คุณจะตาย"
"สิ่งที่เข้ามาในหัวผมก็คือ ผมจะนั่งจมรอวันตายอยู่แบบนี้ หรือจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเอง เพื่อชีวิตของผม" ลูอิส เคยถามตัวเอง
"ผมเดินกลับไปกลับมาระหว่างบ้านกับเนินเขา มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมทำไหว แต่มันเป็นอะไรที่ยากมาก ผมแทบจะเดินไม่ถึง 1.6 กิโลเมตรด้วยซ้ำ ผมช้ามากและเหนื่อยเหมือนจะตาย" ลูอิส กล่าว
การเริ่มต้นออกกำลังกายในครั้งนั้นทำให้ลูอิสตระหนักได้ว่าสภาพร่างกายเขาแย่มากแค่ไหน เขาเครียดเรื่องรูปร่างของตัวเองอีกครั้งและมันทำให้น้ำหนักของเขาเพิ่มขึ้นมาอีก แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับมาตั้งหลักได้ เขาควบคุมอาหารอย่างจริงจัง และกินแป้งให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้
"เมื่อคุณต้องการลดน้ำหนักแล้วละก็ คาร์โบไฮเดรตเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อตัวคุณเลย สิ่งที่ร่างกายต้องการก็คือไขมันและโปรตีน ผมเริ่มเรียนรู้แล้วว่าผมต้องการคาร์โบไฮเดรตแค่เฉพาะตอนเช้า เพื่อให้ผมมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมา"
การออกกำลังกายอย่างจริงจังและควบคุมอาหารอย่างสม่ำเสมอส่งผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ในที่สุดลูอิสก็สามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 100 ปอนด์ (45 กิโลกรัม) เขาส่องกระจกดูความเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกวัน มันทำให้เขามีความสุขขึ้นมากแต่ก็เศร้าไปด้วยในเวลาเดียวกัน
"ตอนผมดูกระจก สิ่งที่คิดก็คือ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเลยว่าผมอ้วนมากชนิดที่ว่า น้ำหนักตัวลดไปถึง 45 กิโลกรัมแล้วมันไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยสักนิด" ความเสียใจทำให้ลูอิสตบะแตก วันนั้นจบลงเขาไปโผล่ที่ร้านพิซซ่า สั่งพิซซ่าถาดใหญ่มา 1 ถาดแล้วกินคนเดียวหมด
ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงเวลาที่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ มานาน แต่ในที่สุดลูอิสก็ประสบผลสำเร็จ เรื่องจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้ามุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องลดน้ำหนักได้
หลังจากระยะเวลา 6 ปีเต็มของการออกกำลังกายและดูแลตัวเอง ตอนนี้ลูอิสกลายเป็นฟิตเนสเทรนเนอร์ที่มีรูปร่างชนิดที่คนละเรื่องกับตัวเขาในสมัยก่อน ความสำเร็จที่ได้มาในวันนี้นับว่าคุ้มค่ากับความพยายามที่ต่อสู้มาตลอด
"มันไม่ใช่สงครามที่ลุยครั้งเดียวจบ มันเป็นโครงการที่ต้องใช้เวลาในระยะยาว การออกกำลังต้องควบคู่กับการกินอาหารที่ดี คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง และรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ผมเรียนรู้ว่าความอดทนและวินัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะยอมรับเช่นกัน ผมบอกตัวเองว่าผมจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ผมจะต้องลดน้ำหนักลงได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ผมต้องสู้ให้ถึงที่สุดครับ" ลูอิส กล่าว
ภาพจาก Instagram savageresolve