เคล็ดลับห่างไกลโรคต่อมลูกหมากโต 
ทำความรู้จัก ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะหนึ่งในระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย มีขนาดประมาณเม็ดเกาลัดขนาดใหญ่ (หนักประมาณ 20 กรัม) มีรูปร่างเป็นรูปกรวย ตั้งอยู่บริเวณคอของกระเพาะปัสสาวะ หุ้มรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น (ส่วนที่ออกจากกระเพาะปัสสาวะ)
สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากโตเกิดจากเอนไซม์ 5-อัลฟารีดักเทส (5-Alpha-Reductase) เปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนแอนโดรเจนชนิด ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งมีผลกระตุ้นเซลล์ต่อมลูกหมากให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้ต่อมลูกหมากโตขึ้น โรคต่อมลูกหมากโตมักพบในชายสูงอายุ เนื่องจากฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ที่ต่อมลูกหมากจะมีระดับสูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยพบว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตมักมีอายุประมาณ 60 ปี
อาการของโรค โรคต่อมลูกหมากโตคือภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ทำให้เกิดการกดเบียดท่อปัสสาวะให้ตีบเล็กลง จึงมีอาการปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะลำเล็กลง ปัสสาวะไม่พุ่งต้องรอนานกว่าจะปัสสาวะออกมาได้ หลังจากปัสสาวะสุดแล้วยังมีปัสสาวะหยดตามมาอีก มีความรู้สึกว่าปัสสาวะยังไม่หมดทั้ง ๆ ที่ปัสสาวะหยุดไหลแล้ว รวมทั้งบางครั้งอาจจะถึงขั้นปัสสาวะไม่ออกถึงแม้จะปวดปัสสาวะมากก็ตาม นอกจากนี้ยังทำให้ผนังกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้น เนื่องจากการบีบตัวแรงขึ้นเพื่อขับน้ำปัสสาวะให้ผ่านท่อแคบ ๆ ส่งผลให้ความสามารถในการกักเก็บน้ำปัสสาวะลดลง ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะตอนกลางคืน และกลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ผู้ป่วยบางรายอาจมีปัสสาวะเป็นเลือด แต่พบได้ไม่บ่อยนัก
- อาหารที่ช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต 
ทับทิม ผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยสารสำคัญคือเอลลาจิคเอซิด (Ellagic Acid) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายรวมทั้งป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
อาหารที่อุดมด้วยแร่ธาตุสังกะสี แหล่งอาหารตามธรรมชาติที่มีปริมาณสังกะสีสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับ น้ำนมวัว ธัญพืช ถั่ว ไข่แดง และหอยนางรม มีการวิจัยพบว่าอาหารจำพวกเนื้อเมื่อถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนแล้วจะมีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมสังกะสีได้ดียิ่งขึ้น โดยแร่ธาตุดังกล่าวนี้มีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยเร่งปฏิกิริยาการสร้างฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรน และช่วยส่งเสริมการสร้างอสุจิ นอกจากนี้ยังลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่อมลูกหมากโตในชายสูงอายุ
เมล็ดฟักทอง หารับประทานได้ง่ายมาก ให้แร่ธาตุสังกะสีปริมาณที่สูงพร้อมกับกรดไขมันจำเป็น โดยให้ทั้งโอเมก้า-3, 6 และ 9 ซึ่งกรดไขมันเหล่านี้ร่างกาย ไม่สามารถสร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากแหล่งธรรมชาติ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดฟักทองจะให้โอเมก้า-6 ในปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดไลโนเลอิค (Linoleic Acid) ซึ่งทั้งสังกะสีและกรดไลโนเลอิค จะร่วมกันทำงานเพื่อลดภาวะการอักเสบและบวมอย่างผิดปกติของต่อมลูกหมาก
ผลไม้สีแดง
ผลไม้ในกลุ่มนี้มีไลโคปีนซึ่งเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนนอยด์ (Carotenoids) ชนิดหนึ่ง พบมากในผักและผลไม้ที่มีสีแดง เช่น มะเขือเทศ แตงโม เกรปฟรุตสีชมพู ฝรั่งขี้นกที่มีเนื้อสีชมพูอมแดง มีผลการวิจัยระบุว่าการรับประทานมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนแล้ว ร่างกายสามารถนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่า เนื่องจากความร้อนจะทำให้การยืดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลงและละลายได้ดีขึ้น พบการสะสมของไลโคปีนในร่างกายได้มากที่อัณฑะและต่อมลูกหมาก ไลโคปีนมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิ และทำให้อสุจิแข็งแรงด้วย
อาหารที่อุดมด้วยซีลีเนียม อาหารจำพวกปลาแซลมอน หอยแครง ถั่ว บริเวอร์ยีสต์ กระเทียม เห็ด และจมูกข้าวสาลี ดีต่อสุขภาพของเราเนื่องจากอุดมไปด้วยซีลีเนียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการน้อยแต่ก็ขาดไม่ได้ โดยซีลีเนียมจะเข้าไปทำงานบริเวณตับ ไต ตับอ่อน ม้ามและอัณฑะ ซีลีเนียมจะทำงานร่วมกับวิตามินอี เพื่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
ที่มา หนังสือMen\'s Health พฤศจิกายน 2557
ทำความรู้จัก
ทับทิม
