แชร์วิธีลดน้ำหนักจากใจอดีตหนุ่มหุ่นหมี ก่อนกลับมาหุ่นเป๊ะใน 2 ปี

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณท็อป สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          ประสบการณ์ตรงเรื่องการลดน้ำหนักของอดีตหนุ่มร่างใหญ่ น้ำหนักตัวกว่า 150 กิโลกรัม ที่อาจสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน

          ทุกวันนี้จะเห็นว่ามีคนรักสุขภาพที่มีรูปร่างดีหลายคน หันมาแชร์วิธีลดน้ำหนักของตัวเองให้คนที่อยากลดน้ำหนักมีกำลังใจและสร้างแรงฮึดในการเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นมากมายทางโลกโซเชียล เช่นเดียวกับหนุ่มคนนี้ จากที่เคยเป็นคนตัวใหญ่จนเพื่อน ๆ เรียกกันว่า "หมี" มานาน แต่ปัจจุบันเขากลับมามีหุ่นได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเจ้าตัวได้นำเรื่องราวจากประสบการณ์ตัวเองมาแชร์ไว้ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม โดยตั้งกระทู้ชื่อว่า "เชื่อผมเถอะ !! ครับคุณก็ทำได้ จากคนที่อ้วนมาตลอด 20 ปี เปลี่ยนตัวเองได้ด้วยเวลา 2 ปีกว่า ๆ" แหม แค่ชื่อกระทู้ก็น่าสนใจแล้วว่าไหมครับ เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปอ่านเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของคุณท็อปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ



          เริ่มแรกผมชื่อ ท็อป ครับผมเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องที่สนิทกันจะเรียกผมกันว่า "ท็อปหมี" เพราะเมื่อก่อนลดน้ำหนักตัวอ้วนใหญ่เป็นหมีจริงๆครับ  ตอนนั้นเมื่อประมาณ 2 ปีกว่า ๆ จุดที่น้ำหนักเยอะที่สุดคืออยู่ที่ 150+ กิโลกรัม สูงประมาณ 181 เซนติเมตร ซึ่งไอ้ที่คิดว่ามากกว่า 150 กิโลกรัมนี่ผมไม่รู้ว่าเท่าไรนะครับ เพราะตอนนั้นไปชั่งเครื่องชั่งที่ชั่งได้สูงสุด 150 กิโลกรัม แล้วมันขึ้น Error ผมนี่อึ้งไปเลยครับ แต่นั่นยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนความคิด เพราะคิดว่าก็ยังไม่เห็นเป็นไร เราไม่ได้ป่วยอะไร แล้วเป็นคนอ้วนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ม.3 ก็หนัก 100 กว่าแล้ว บวกกับชอบกินเป็นอย่างมากเลยคิดว่าตัวเองจะลดไปก็คงลดไม่ได้


          แต่จุดเปลี่ยนมันมาจากว่าตอนที่เรียนปี 4 ใกล้จบร่างกายเริ่มไม่ปกติครับเหนื่อยง่ายมากแบบที่ไม่เคยเป็น หัวใจเต้นผิดจังหวะแปลก ๆเต้นแรงบีบ ๆ เหมือนเหนื่อยทั้งที่ก็นอนดูหนังอยู่เฉย ๆ ความดันสูงด้วยครับ พอตรวจสุขภาพก็เริ่มเกินทุกอย่างทั้งไขมันน้ำตาล เลยเริ่มมีความคิดจริงจังที่อยากจะลดน้ำหนัก เพราะไม่อยากป่วยจริง ๆ ครับเคยเห็นคนที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากความอ้วนแล้วทรมานมาก เลยคิดว่าเราไม่อยากเป็นแบบนั้น ยิ่งตอนเรียนจบแล้วกำลังจะเริ่มหางาน คิดว่าถ้าทำงานหาเงินมาสุดท้ายคงไม่พ้นต้องเรามารักษาตัวเป็นแน่ดีไม่ดีต้องเดือดร้อนพ่อแม่พี่น้องอีก กลัวไม่มีเหลือเงินไว้ใช้ในสิ่งที่อยากจะทำจริง ๆ


          จุดเริ่มต้นในการลดน้ำหนักผมไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย ก็แค่เริ่มออกกำลังโดยการยกดัมเบลอยู่ที่บ้าน วิ่งบนเครื่องเล่น Elliptical เล่นวันละ 30-45 นาที เพราะเคยรู้มาว่าต้องออกกำลังแบบต่อเนื่องกันให้ได้มากกว่า 30 นาที ถึงจะได้ผล ออกกำลังไปแบบนี้ประมาณ 2 เดือน ก็ไปซื้อเครื่องชั่งน้ำหนัก เพราะอยากเริ่มรู้น้ำหนักตัวเองเอาแบบที่ชั่งได้ Max 180 กิโลกรัมมา เนื่องจากยังหลอนตัวเองว่าน้ำหนักตัวเองเกิน 150 กิโลกรัมอยู่ ปรากฏว่าลงมาอยู่ประมาณ 147 กิโลกรัม


          หลังจากนั้นไม่นานผมเริ่มหาข้อมูลในการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง โดยหลัก ๆ ผมก็ออกกำลังคู่ไปกลับการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน  บวกกับการกินอาหารเสริม รวมไปถีงคำนวนแคลอรี่ที่ต้องเบิร์นออกต่อวันอย่างคร่าว ๆ ด้วย


          การออกกำลังของผมช่วง 1 ปีแรกจะเน้นหนักไปที่การทำคาร์ดิโอครับ โดยการปั่นจักรยานหรือเล่นเครื่อง Elliptical ในฟิตเนสที่ทำงานตอนเย็นหลังเลิกงานเป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป โดยจะสลับการเล่นแบบปกติกับปั่นเร็ว ๆ สลับกัน เป็นการออกกำลังแบบ HIT แล้วพอคาร์ดิโอเสร็จผมก็มายกเวทต่ออีกประมาณ 30 - 40 นาที ซึ่งผมจะออกกำลังแบบนี้ให้ได้อย่างน้อย 3 วัน/สัปดาห์


          พอทำไปสัก 7 - 8 เดือน น้ำหนักก็มาอยู่ที่ประมาณ 110 กิโลกรัม จนกระทั่งเริ่มคิดว่าไหน ๆ จะลดน้ำหนักแล้ว ไม่อยากจะผอมอย่างเดียวอยากหุ่นดีด้วย เลยเริ่มปรับการออกกำลังใหม่เพิ่มการบอดี้เทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เพราะนอกจากจะช่วยให้รูปร่างดูสมส่วนการสร้างกล้ามเนื้อยังช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ดีขึ้น เพราะกล้ามเนื้อเป็นตัวใช้พลังงาน ยิ่งมวลกล้ามเนื้อมีมาก ร่างกายยิ่งใช้เบิร์นได้ดีขึ้น แล้วก็ทำแบบนี้มาเรื่อย ๆ ครับ


          เรื่องการปรับพฤติกรรมการกินของผม หลัก ๆ ก็ลดการกินแป้งของมัน ๆ ของหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ลดการกินขนมหลังจากกินข้าว จากกินขนมปังขาวก็มากินโฮลวีต หลีกเลี่ยงการกินดึก ๆ ถ้าไม่ได้มีงานสังสรรค์อะไรพิเศษ หลัง 1 ทุ่มผมจะไม่กินอะไรนอกจากน้ำเปล่า ยกเว้นถ้าเลิกงานดึกก็จะเป็นผลไม้แบบแอปเปิลไม่ก็เป็นโยเกิร์ต Low fat สักถ้วยครับ

          ขณะที่มื้อเช้าและกลางวัน ผมจะทานปกติ แต่ก็เป็นแบบลดแป้ง/หวาน/มันอยู่ แล้วเพิ่มผัก/โปรตีนให้อยู่ท้องเข้าไปแทน นอกจากนี้ บางครั้งก็มีทำกับข้าวไปกินเองที่ที่ทำงานบ้างครับ ส่วนเย็นก็เป็นสุกี้หรือไม่ก็เป็นแกงจืดบ้าง พยายามกินไม่ให้เกิน 1 ทุ่ม หรือวันไหนที่ออกกำลังผมจะทำแซนวิชขนมปังโฮลวีตง่าย ๆ กินก่อนออกกำลังเพื่อที่เวลาเล่นจะได้มีแรงออก หลังเล่นเสร็จก็จะกินเวย์โปรตีนครับ แต่ถ้ายังหิวก็จะกินโยเกิร์ตสักถ้วยครับ

          ในรูปถ่ายตอนปี 2556 น้ำหนักลดลงมาที่ประมาณ 98 กิโลกรัม ใช้เวลาประมาณ 1 ปี 4 เดือน เทียบกับสมัยตอนเรียนปี 4 ให้ดูเทียบกันครับ

          แต่ใน 1 สัปดาห์ ผมจะมีวันโกงของผมคือ กลับมากินปกติให้ร่างกายไม่รู้สึกว่าได้รับพลังงานน้อยจนเกินไปไม่งั้นร่างกายเราจะลดการเบิร์นแคลอรี่ลงไป แต่ก็ต้องคุมตัวเองว่าอย่ากินเพลินจนเกินไป ส่วนอาหารเสริมผมก็กิน แต่ไม่ใช่ยาลดความอ้วนนะครับ ผมจะกินพวกที่ช่วยให้ร่างกายเบิร์นพลังงานที่เป็นไขมันได้ดีขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่พวกที่ไปกินเพื่อไม่ให้รู้สึกหิวหรือไปบล็อคแป้งและน้ำตาล โดยหลัง ๆ เริ่มเน้นการสร้างกล้ามเนื้อก็มีทานพวกเวย์โปรตีนเสริมด้วยครับ


          จริง ๆ เรื่องกินอาหารเสริมผมก็ถือว่าไม่ได้จำเป็นต้องกินนะ ถ้าเป็นคนระบบเผาผลาญปกติ เพราะตัวหลัก ๆ สำคัญจริง ๆ ที่ทำให้น้ำหนักเราลดได้ก็คือ การออกกำลังกับการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ต่อให้อาหารเสริมที่กินดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่ดูแลทั้งสองเรื่องนี้ผมว่ากินไปก็เสียเงินเปล่าครับ   


          ผมคิดว่าในการลดน้ำหนักทั้งการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ต้องทำคู่กันไป คุมอาหารอย่างเดียวไปแรก ๆ น้ำหนัก อาจจะลดลงแต่พอนานไปก็คงตันไปได้ไม่ไกล คุมไปมาก ๆ ก็อาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพได้ พอกลับมากินปกติก็อาจจะโยโย่ได้เหมือนกันครับ

          ส่วนออกกำลังแต่การกินไม่เปลี่ยนยังกินแป้ง/มัน/หวาน กินดึก ๆ มันก็ไม่น่าจะได้ผลเท่าไรจึงควรทำทั้งสองอย่างคู่กันไป และในการลดน้ำหนัก สำหรับผมไม่ควรยึดติดกับตัวเลขน้ำหนักตัวมากนัก เพราะผมคิดว่าแต่ละคนมีน้ำหนักที่เหมาะสมกับรูปร่างแตกต่างกันไป แต่อยากให้มองที่ขนาดของสัดส่วนว่าตอนนี้เหมาะสมกับตัวเองแล้วหรือยังมากกว่าครับ 


          4 รูปนี้น้ำหนักต่างกันไม่มากครับ โดยรูปแรกน้ำหนักประมาณ 90-91 กิโลกรัม ส่วนรูปสุดท้ายประมาณ 86-87 กิโลกรัม ระยะเวลาทั้งหมด 4 เดือน ซึ่งผมจะถ่ายเดือนละรูป


          สรุปแล้วตอนนี้ผมมีน้ำหนักอยู่ที่ราว ๆ 85-87 กิโลกรัม จากเดิมที่มากกว่า 150 กิโลกรัม สัดส่วนจากรอบอกจากเดิมประมาณ 46-47 นิ้วรอบเอวประมาณ 48 นิ้ว ตอนนี้รอบอก 40 นิ้ว รอบเอว 34 นิ้วครับ

          ที่ผมอยากจะแชร์ก็มีเท่านี้ อาจจะพิมพ์ยาวไปหน่อย ผิดถูกผิดพลาดประการใดขออภัยมาที่นี้ด้วยครับผม